Recent News/ข่าวภาคตะวันออก

แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ภาคตะวันออก แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ภาคตะวันออก แสดงบทความทั้งหมด

ด่วน ระยองน้ำท่วมหลายจุด

   เมื่อเวลา 07:00 น ของวันที่ 8 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้มีฝนตกหนักตลอดทั้งคืนมายันรุ่งเช้าทำให้หลายพื้นที่ในจังหวัดระยองเกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมสวนผลไม้และสวนยางพาราของชาวบ้านอาทิเช่นเขตอำเภอบ้านค่ายจังหวัดระยองน้ำได้เข้าท่วมโรงเรียนวัดห้วงหิน ต้องปิดการเรียนนักเรียนไม่สามารถเข้าเรียนได้ระดับน้ำสูงชาวบ้านได้ช่วยกันขนของใช้ในโรงเรียนออกเพื่อความปลอดภัย นอกจากนี้น้ำได้เข้าท่วมบริเวณบ้าน

ชากกอไผ่ และบ้านนาตาขวัญ เข้าท่วมเขตอำเภอเมืองหลายจุดอย่างเช่นตำบลตะพง ตำบลเชิงเนิน

ระดับน้ำสูงเจ้าหน้าที่กู้ภัยและเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงช่วยกันกั้นเส้นทางเพื่อเลี่ยงเส้นทางอื่นนอกจากนี้น้ำยังได้ท่วมหนักที่เขตตำบลสำนักทอง บริเวณบ้านเกาะกลาง บ้านยายจั่น เขตตำบลกระเฉด น้ำท่วมบริเวณหน้าวัดธงหงส์ ตลาดบ้านสังขฤกษ์ ส่วนอำเภอแกลงนั้นน้ำท่วมหลายจุดเช่นกันส่วนอำเภอวังจันทร์ น้ำเข้าท่วมสวนผลไม้ของชาวสวนเช่นเดียวกันขณะนี้ระดับน้ำยังไม่ลดเนื่องจากมีฝนตกต่อเนื่อง

สำนักงานป้องกันและและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดระยองได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกเข้าช่วยเหลือชาวบ้านเบื้องต้นแล้วส่วนทางอำเภอได้สั่งกำนันผู้ใหญ่บ้านให้รายงานความคืบหน้าเรื่องน้ำท่วม

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับพื้นที่จังหวัดระยองนั้นน้ำจะท่วมขังไม่นานเนื่องจากเป็นพื้นที่ติดกับทะเลจะทำให้น้ำป่านั้นไหลลงไปในทะเลและมีทางน้ำไหลสะดวกลงไปยังทะเลถึงไม่ทำให้น้ำท่วมต่อเนื่องเป็นเวลานาน



 สมนึก กรมภักดิ์ บรรณาธิการข่าวภูมิภาค นิวส์ 24

สืบภาคจับบ่อนไพ่จังหวัดตราด สืบสวนภาค 2 บุกจับบ่อนจังหวัดตราดที่อำเภอแหลมงอบพร้อมผู้ต้องหา 12 คน

  เมื่อเวลา 7 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 2 ภายใต้การสั่งการของพลตำรวจตรี 

ธีระชัย ชำนาญหมอ ผบก.สส.ภ2 พ.ต.อ.สราวุธ เจริญชนน์ รอง ผบก.พ.ต.อ.เฉลิมศักดิ์ เสถียรทองศรี ผกก.สืบสวน กก.2 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสวนภาค2 นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนเดินทางเข้าจับกุมบ่อนการพนันในพื่้นที่เขตอำเภอแหลมงอบ จังหวัดตราด

   หลังสืบทราบว่ามีการลักลอบเล่นการพนันในบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่จึงวางแผนเข้าจับกุม 

    และสามารถจับกุมนักพนันชายหญิงรวม12คนพร้อมของกลางไพ่ 3 สำรับ เงินสด 300บาทผ้าปูรองเล่น3ผืนสมุดจดแต้ม 3 เล่ม ปากกา 3ด้าม

  ผู้ต้องหาทั้งหมดยอมรับสารภาพว่าร่วมกันเล่นการพนันไพรัมมี่ 3วง วงละ4 คนจริงก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันเล่นการพนันนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.แหลมงอบ จ.ตราดดำเนินคดีตามกฎหมาย
  สมนึก กรมภักดิ์ บรรณาธิการข่าวภูมิภาค นิวส์ 24 
 

ไม่เข็ดหลาบ! ลูกเพิ่งโดนรวบคดียาเสพติด แม่สานต่อเจตนารมณ์ ผันตัวเป็นเอเย่นต์ยานรก สุดท้ายไม่รอดโดนรวบพร้อมเครือข่าย ของกลางอื้อ

 เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 6 ก.ย. 68 นายภาสกร บุญญลักษม์ ผวจ.ระยอง พร้อมด้วยนายกำธร เวหน รองผวจ.ระยอง นายเรืองฤทธิ์ ประกอบธรรม ปลัดจังหวัดระยอง นายทัศนเดชา บุญสนธิ์ ป้องกันจังหวัดระยอง นายไกรยุทธ วิลาวัลย์ และนายจุมพล กาญจนเทียนศรี ผู้ช่วยป้องกันจังหวัดระยอง นำกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษกองร้อย อส.จ.ระยอง ร่วมกันจับกุมนายธีระศักดิ์ หรือ “แบงค์” อายุ 24 ปี ชาว จ.ขอนแก่น, น.ส.ชลดา หรือ “ไอซ์” อายุ 26 ปี ชาว จ.ร้อยเอ็ด และนางเขียน หรือ “เขียน” อายุ 60 ปี ชาว จ.เพชรบูรณ์ พร้อมของกลางยาบ้า 184 เม็ด อุปกรณ์การเสพ และผลตรวจปัสสาวะสีม่วง 2 ราย
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเบาะแสว่ามีการลักลอบค้ายาเสพติดในพื้นที่ ต.มาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง จึงลงพื้นที่สืบสวนจนพบว่านายแบงค์และน.ส.ไอซ์ มีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายยาบ้าให้แรงงานและวัยรุ่นในพื้นที่ เจ้าหน้าที่จึงวางแผนเข้าตรวจค้นห้องพัก พบทั้งคู่มีท่าทีพิรุธพยายามหลบหนี แต่ไม่รอด ถูกจับกุมพร้อมยาบ้า 7 เม็ด และอุปกรณ์เสพหลายรายการ ผลตรวจปัสสาวะออกมาเป็นสีม่วงทั้งคู่ รับสารภาพว่ายาเสพติดดังกล่าวเป็นของตนเอง
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ขยายผลไปยังบ้านพักของนางเขียน พบเจ้าตัวนั่งอยู่หน้าบ้าน จึงเข้าตรวจค้นและพบยาบ้าอีก 177 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ โดยนางเขียนยอมรับสารภาพว่าเป็นของตนเอง พร้อมเผยว่าลูกชายเพิ่งถูกจับคดียาเสพติดหลายพันเม็ดก่อนหน้านี้ ตนจึงหันมาสานต่อกิจการค้าของลูก เพราะยังมีฐานลูกค้าเดิมอยู่ อ้างว่ามีอายุมากแล้วไม่รู้จะประกอบอาชีพใด เห็นว่างานนี้ได้เงินเร็วแม้เสี่ยงก็ตาม
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหานายแบงค์และน.ส.ไอซ์ ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้เพื่อจำหน่ายและเสพโดยผิดกฎหมาย ส่วนนางเขียนถูกแจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนควบคุมตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.มาบตาพุด ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.




 

นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี พร้อมด้วยนางประภัสรา ศรีทอง นายกเหล่ากาชาดจังหวัดชลบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจติดตามผลการปฏิบัติราชการตามนโยบายของรัฐบาล กระทรวง กรม และโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พร้อมทั้งเป็นประธานเปิดโครงการ “เหล่ากาชาดจังหวัดชลบุรี บำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มแก่ปวงประชา”

  ภายในงานมีการจัดกิจกรรมเพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนในหลายมิติ อาทิ การมอบถุงยังชีพจำนวน 200 ชุด ให้แก่ผู้ด้อยโอกาส ผู้ยากไร้ ผู้สูงอายุ และผู้พิการ การเยี่ยมเยียนผู้ป่วยติดเตียงและผู้พิการยากไร้ พร้อมมอบถุงยังชีพและเงินช่วยเหลือจำนวน 18 ราย รวมถึงการมอบรถวีลแชร์และอุปกรณ์จำเป็นจำนวน 16 คันให้แก่ผู้ป่วยและผู้พิการ และมอบรถวีลแชร์เพิ่มเติมอีก 7 คัน ให้แก่โรงพยาบาลสัตหีบ กม.10 เพื่อใช้ในการดูแลผู้ป่วยในพื้นที่

   นอกจากนี้ ยังมีการมอบทุนการศึกษาจำนวน 41 ทุน และมอบชุดนักเรียนพร้อมรองเท้า จำนวน 100 ชุด ให้แก่นักเรียนที่ขาดแคลนในพื้นที่ เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนและสร้างโอกาสทางการศึกษาให้แก่เยาวชน

     การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากผู้นำท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และหน่วยงานภาครัฐและเอกชน โดยมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 400 คน สะท้อนถึงความร่วมแรงร่วมใจในการดูแลพี่น้องประชาชนในทุกมิติ

    ภายหลังเสร็จสิ้นพิธีเปิดงาน นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ได้เดินทางลงพื้นที่เยี่ยมเยียนผู้ป่วยติดเตียงและผู้ยากไร้ในพื้นที่อำเภอสัตหีบ จำนวน  4 ราย พร้อมส่งมอบสิ่งของและให้กำลังใจด้วยตนเอง แสดงถึงบทบาทสำคัญของภาครัฐและเหล่ากาชาดในการเข้าถึงปัญหา บรรเทาความเดือดร้อน และเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีแก่ประชาชนอย่างแท้จริง







 

วันอังคารที่ 5 สิงหาคม 2568 เวลา 15.30 น. ณ วัดใหม่สำราญ เกาะล้าน เมืองพัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี พร้อมด้วยนายพัชรพัชร์ ศรีธัญญนนท์ นายอำเภอบางละมุง พ.ต.อ.เอนก สระทองอยู่ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองพัทยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่มอบสติ๊กเกอร์ตามโครงการจัดระเบียบรถบริการสาธารณะและรถประเภทอื่น ๆ บนเกาะล้าน

    การดำเนินงานครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการยกระดับความเป็นระเบียบเรียบร้อยในการใช้รถบนเกาะล้าน เนื่องจากที่ผ่านมาไม่มีการจัดระบบควบคุมอย่างเป็นรูปธรรม ส่งผลให้เกิดปัญหาความแออัดของพื้นที่การจราจร และไม่สามารถแยกแยะได้ว่ารถคันใดเป็นของผู้ประกอบการ รถเช่า หรือรถของชาวบ้าน ซึ่งสร้างผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม วิถีชีวิตของคนในชุมชน และความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว
  จังหวัดชลบุรี จึงได้กำหนดมาตรการห้ามนำรถขึ้นเกาะเป็นเวลา 14 วัน เพื่อสำรวจและจัดทำระบบลงทะเบียนรถอย่างเข้มงวด โดยพบว่ามีรถบนเกาะล้านมากกว่า 3,500 คัน จากนั้นจึงได้จัดทำระบบสติ๊กเกอร์แยกประเภทการใช้งาน โดยแบ่งตามสีและลักษณะการใช้รถอย่างชัดเจน

  เบื้องต้นมีการมอบสติ๊กเกอร์ครอบคลุมรถทั้งหมด 9 ประเภท ได้แก่ รถกอล์ฟ, รถกระป๊อ, รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล, รถจักรยานยนต์รับจ้าง, รถจักรยานยนต์ปล่อยเช่า, รถแทรกเตอร์, รถยนต์ส่วนบุคคล 4 ล้อ, รถบรรทุก และรถสหกรณ์สองแถว

     การจัดสรรสติ๊กเกอร์ในลักษณะนี้จะทำให้สามารถแยกแยะประเภทการใช้งานของรถได้อย่างเป็นระบบ พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการพื้นที่จราจรบนเกาะ

  สำหรับแนวทางในอนาคต หากมีการร้องขอเพิ่มจำนวนรถบนเกาะ จะต้องได้รับความเห็นชอบจากอย่างน้อยสองในสามหน่วยงานหลัก ได้แก่ เมืองพัทยา สถานีตำรวจภูธรเมืองพัทยา และที่ว่าการอำเภอบางละมุง เพื่อควบคุมไม่ให้เกิดการนำรถจากกลุ่มทุนภายนอกเข้ามาในพื้นที่มากเกินไป ซึ่งอาจกระทบต่อผลประโยชน์ของคนในชุมชน

     โครงการนี้มีเป้าหมายหลักเพื่อลดความแออัด คืนพื้นที่สาธารณะ สร้างความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว และยกระดับมาตรฐานระบบขนส่งบนเกาะล้านให้มีความเป็นระเบียบและยั่งยืนในระยะยาว