พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)ถามรัฐบาลกรณีที่ประชาชนสงสัย ทำไมสั่งทหารไทยออกนอกปราสาทตาเมือนธม ซึ่งอยู่บนแผ่นดินไทย  และปัญหาต่างๆที่พี่น้องประชาชนคนไทยอยากถามรัฐบาลของท่านนายกฯแพทองธาร ชินวัตร ดังนี้

“1. ท่านนายกฯ และนายภูมิธรรมฯ รอง นรม. ทราบหรือไม่ว่า กรมศิลปากรขึ้นบัญชี  “ปราสาทตาเมือนธม”เป็นโบราณสถานของไทยตั้งแต่ปี ๒๔๗๘ หรือเมื่อ ๙๐ ปีที่แล้ว และปัจจุบันอยู่ในความดูแลของสำนักศิลปากรที่ ๕ ปราจีนบุรี

2. การออกคำสั่งให้ทหารไทย ถอยออกจากตัวปราสาทตาเมือนธม ถึงสองครั้ง ทั้งๆที่ปราสาทดังกล่าว เป็นเขตพื้นที่ของราชอาณาจักรไทย  เป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมาย  และถูกต้องตามหลักสากลหรือไม่

3. การยินยอม ให้ทหารกัมพูชาเข้าประจำการใน บริเวณ ตัวปราสาทตาเมือนธม ของราชอาณาจักรไทย  จำนวน 5 นาย  เป็นไปตามข้อตกลงที่รัฐบาลไทยไปลงนาม ร่วมกับรัฐบาลกัมพูชาตามที่มีการกล่าวอ้างใช่หรือไม่   และการส่งกองกำลังทหารแต่งเครื่องแบบติดอาวุธ  เข้ามาปฏิบัติหน้าที่บนผืนแผ่นดินไทย  ชอบด้วยกฏหมายหรือไม่

4. เอกสาร แถลงการณ์กระทรวงกลาโหมประเทศกัมพูชา ที่ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต มาออกข่าว ที่ปรากฎข้อความว่า “รัฐบาลเขมร  โดยนายฮุนมาเนต ได้ออกแถลงการต่อคนเขมรว่า เขมรไม่ได้เสียอธิปไตยให้กับราชอาณาจักรไทย หมายถึงยังคงยึดมั่นว่าตัวปราสาทตาเมือนธม ยังคงเป็นของเขมรอยู่” เป็นของจริงหริอของปลอม  ”

          “กรณีดังกล่าว รัฐบาลทำอะไรเพื่อรักษาแผ่นดินไทยบ้าง  อย่างเช่น  กรณีที่นายทหารชั้นนายพลแต่งเครื่องแบบได้นำชาวกัมพูชาแต่งชุดประจำชาติจำนวนหนึ่ง ขึ้นมาร้องเพลงชาติกัมพูชา บริเวณปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ม และมีการบันทึกภาพและเสียง ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำที่ล่วงละเมิดอธิปไตยของไทยในดินแดนของไทย แต่รัฐบาลไม่ดำเนินการประท้วงผ่านกระทรวงการต่างประเทศ หรือดำเนินคดี หรือดำเนินการใดๆ แต่อย่างใด เป็นลายลักษณ์อักษร หรือให้เป็นพยานหลักฐาน  เพื่อใช้ในการต่อสู้คดีที่อาจเกิดขึ้นในภายภาคหน้าหากทางประเทศกัมพูชาจะเรียกร้องพื้นที่นี้เป็นอาณาเขตของประเทศตนเอง  จะเข้าลักษณะกฏหมายปิดปาก  ในกรณีนี้ทางพรรคพลังประชารัฐ ได้เคยเรียกร้องให้ทางรัฐบาลดำเนินการประท้วง หรือท้วงติงเป็นลายลักษณ์อักษรไปยังรัฐบาลกัมพูชา  ในการแถลงข่าว เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2568 จนถึงวันนี้ เป็นเวลาหลายเดือนแล้วยังไม่ได้รับคำตอบจากรัฐบาลแต่อย่างใด  นอกจากนี้  คำถามที่พี่น้องประชาชนคาใจ  ในหลายๆเรื่อง  ดังกล่าว  โดยเฉพาะการที่นายปานเทพฯ ได้นำแถลงการณ์กระทรวงกลาโหมกัมพูชามาแถลงต่อสาธารณชนนั้น  เป็นของจริงหรือไม่  หากเป็นของจริง  เหตุใดรัฐบาลจึงไม่ได้ดำเนินการประท้วง  ดำเนินคดีหรือดำเนินการ ใดๆ ให้ปรากฏเป็นลายลักษณ์อักษรหรือเป็นหลักฐานในการต่อสู้คดีไม่ใช่ให้กัมพูชาทำเอกสารหลักฐานแต่ฝ่ายเดียว  การฝ่ายไทยไม่ได้โต้แย้งอะไรเลยเข้าทำนองกฎหมายปิดปาก  กรณีดังกล่าวจะซ้ำรอยการเสียที่ดินบางส่วนของ เขาพระวิหาร เมื่อปี พ.ศ. 2556   อย่าให้คนเขมรตราหน้าว่าคนไทยขายแผ่นดินแลกสัญชาติ หรือแลกผลประโยชน์ทางทะเลเลยครับ“  พล.ต.ท.ปิยะฯ กล่าว

# นวษภร ตะเคียนคาม// รายงาน





แสดงความคิดเห็น