นายกสภามหาวิทยาลัย มทร ธัญบุรี ยื่นหนังสือร้องเรียน รมต กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ กรณีผู้บริหารร่วมกันปลอมใบปริญญาบัตร โดยได้ยื่นฟ้องต่อศาลแล้ว

   ที่ผ่านมา ในงานพระราชทานปริญญาบัตรมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรีครั้งที่ 38 ประจำปี2566 ในวันที่21 พฤศจิกายน2567 จำนวน5.677 รายได้มีปริญญาจำนวนหนึ่งออก ณ วันที่24 มิถุนายน2567 มีการลงรายมือชือ  ในช่องตำแหน่งนายกสภามหาวิทยาลัย และในช่อง ตำแหน่งอธิการบดี โดยที่ทั่งสองยังไม่ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าในตำแหน่งอย่างเป็นทางการตามกฎหมาย ซึ่งเอกสารดังกล่าวถือเป็นเอกสารสิทธิราชการ ทำให้บัญฑิตหลงเชื่อว่าเป็นใบปริญญาบัตรที่แท้จริง จึงไม่สามารถนำไปสมัครงานในหน่วยงานต่างๆโดยเฉพาะภาครัฐได้ เบื้องต้นคาดว่ามีประมาณ1.000 ใบ โดยปัจจุบันนาย วีนะศักดิ์ วงษ์สมบัติ นายกสภามหาวิทยาลัยยังดำรงตำแหน่งอยู่ทำให้ถูกละเมิดสิทธิ จึงได้ยื้นฟ้องศาลไว้แล้ว

  โดยในวันที่13 พฤษภาคม ที่ผ่านมา นาย วีระศักดิ์  นายกสภามหาวิทยาลัย ได้ยื่นหนังสือ ถึง รมต กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ กรณี อุปนายกและผู้บริหาร ร่วมกันปลอมแปลงใบปริญญาบัตร จากปํญหาการปล่อยปลอยปละละเลยการควบคุมภายในและการสรรหาอธิการบดีที่ผ่านมาเกิดความไม่โปรงใสและไม่ได้มีการตรวจสอบคุณสมบัติด้านจริยธรรมของผู้ผ่านการสรรหาตามข้อบังคับทั้งที่มีการร้องเรียนกรณีมีการคุกคามทางเพศ ซึ่งจากการตรวจสอบยืนยันว่าพฤติกรรมดังกล่าวเกิดขึ้นจริง เป็นเหตุให้เกิดคดีความในชั้นศาลและการใช้รถหลวงในกิจการของตนเองมีการร้องเรียนไปยังหน่วยงาน ( ปปท )

แต่ทางสภามหาวิทยาลัยยังเพิกเฉยและยังแต่งตั้งให้รักษาการอีกนานถึง18เดือนนอกจากนี้ยังพบว่ายังมีการทำสัญญาชืัอขายหลอดไฟ และเครื่อปรับอากาศกับภาคเอกชนจนศาลปกครองกลาง สั่งให้ชดใช้ค่าเสียหายกว่า 38 ล้านบาทพร้อมดอกเบี้ยและพบว่าบุคลากรที่เกี่ยวข้องยังมีคดีอาญาในศาลจังหวัดภูเก็ตในข้อหาทำอนาจารต่อเยาวชนซึ่งส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อภาพลักษณ์ของมหาวิทยาลัยซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาในระดับประเทศ นอกจากนี้การปล่อยปละละเลยหย่อนความสามารถทำให้เกิดการทุจริตครอรัปชั่นในมหาลัยอีกหลายกรณี อาทิเช่น การทุจริตการชื้อเฟอร์นิเจอร์หอพัก การทุจริตกรณีโรงงานน้ำดื่มความขัดแย้งภายในมหาวิทยาลัย จึงนำไปสู่การรวมหัวกันถอดถอน นาย วีระศักดิ์ นายกสภามหาวิทยาลัยให้พ้นจากตำแหน่งหยุดปฎิบัติหน้าที่ทันที ด้วยการถอดถอนนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย                                    จึงได้ร้องต่อศาลปกครองกลางและศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค1แล้ว