จากการขยายผลสืบสวนอย่างละเอียด เจ้าหน้าที่สามารถตามรอยไปยังฐานที่มั่นหลักของเครือข่ายแห่งนี้ ซึ่งใช้บ้านพักในพื้นที่อำเภอหนองแคเป็นศูนย์กลางการกระจายสินค้า การตรวจค้นในครั้งนี้นำไปสู่การยึดของกลางสำคัญจำนวนมาก ประกอบด้วย บุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้ง 623 ชิ้น หัวน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า 542 ชิ้น น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า 79 หลอด โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง และเงินสดอีก 4,000 บาท
นายบัญชา เชาวรินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า "การปิดล้อมจับกุมในครั้งนี้ถือเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญของเจ้าหน้าที่ เนื่องจากบุหรี่ไฟฟ้าเป็นภัยคุกคามต่อสุขภาพของเยาวชนโดยเฉพาะ เราจะไม่ยอมให้มีการลักลอบจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผิดกฎหมายเช่นนี้ในพื้นที่จังหวัดสระบุรี"
พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี กล่าวเสริมว่า "เครือข่ายนี้มีการดำเนินการอย่างเป็นระบบ โดยใช้ช่องทางออนไลน์และบริการขนส่งเอกชนในการกระจายสินค้า ซึ่งทำให้ยากต่อการตรวจจับ เราจะยังคงขยายผลการสอบสวนเพื่อตามตัวผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด"
ขณะที่ พ.ต.อ.เรืองยศ โสภาพล รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบเส้นทางการเงินของเครือข่ายนี้อย่างละเอียด เพื่อติดตามไปยังนายทุนใหญ่ที่อาจอยู่เบื้องหลัง โดยคาดว่าจะสามารถขยายผลการจับกุมได้อีกในระยะเวลาอันใกล้ การจับกุมครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่รัฐบาลกำลังรณรงค์ปราบปรามการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเข้มข้น หลังพบว่ามีการแพร่ระบาดในกลุ่มเยาวชนเพิ่มขึ้นอย่างน่าวิตก โดยเฉพาะการจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ที่เข้าถึงได้ง่าย เจ้าหน้าที่ระบุว่า จะเพิ่มมาตรการตรวจสอบการขนส่งสินค้าผ่านบริษัทเอกชนอย่างเข้มงวดมากขึ้น พร้อมทั้งประสานงานกับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ เพื่อปิดกั้นช่องทางการจำหน่ายสินค้าผิดกฎหมายเหล่านี้ทั้งนี้ คาดว่าเครือข่าย "สายควัน เฮงบุหรี่ไฟฟ้า" มีการกระจายสินค้าไปยังพื้นที่ภาคกลางหลายจังหวัด โดยเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าจะดำเนินการอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะตัดวงจรการดำเนินงานของเครือข่ายนี้ได้อย่างสิ้นเชิง
สมพงษ์ ปานรุ่ง สระบุรี
แสดงความคิดเห็น