จากกรณีที่มีรายงานข่าวว่า ทหารกัมพูชาได้รุกล้ำเข้าพื้นที่เนิน 745 ช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี โดยมีลักษณะการสร้างฐานที่มั่น ขุดคูเลท และเสริมกำลังพร้อมอาวุธครบมือ ทหารพรานกองกำลังสุรนารีได้เข้าตรวจสอบและพูดคุยกับฝ่ายกัมพูชา กระทั่งได้ข้อสรุปว่าทหารกัมพูชาจะยุติการขุดคูเลทและถอนกำลังออกจาก
พื้นที่ที่ยังไม่มีการปักปันเขตแดน พร้อมตกลงจะนัดพบในห้วงเวลาโดยไม่มีอาวุธ และมีการลาดตระเวนร่วมกันอย่างไรก็ตาม ยังมีรายงานว่าทหารกัมพูชาบางส่วนยังคงอยู่ในพื้นที่ล้ำแดนบริเวณอื่นของช่องบกระยะห่างประมาณ 150 เมตร ซึ่งทหารไทยได้เจรจาเรียกร้องให้ถอยหลายครั้งแต่ยังไม่ได้รับความร่วมมือ ขณะที่ฝ่ายไทยยังคงตรึงกำลังอย่างต่อเนื่องเพื่อควบคุมสถานการณ์ พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาว่า ขณะนี้ยังมีบางจุดที่เกิด
ความไม่เข้าใจกันซึ่งเป็นผลจากการใช้แผนที่คนละฉบับ แต่โดยรวมถือว่าเป็นสถานการณ์ที่ควบคุมได้ โดยยืนยันว่าฝ่ายไทยยังคงลาดตระเวนตามปกติ และมีความพยายามในการแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธีเป็นหลัก ทั้งนี้ หลังการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ระหว่างรัฐมนตรีกลาโหมของทั้งสองประเทศ ได้มีข้อ
ตกลงร่วมกันในหลักการ “ใครอยู่ตรงไหน ให้อยู่ตรงนั้น” หากจะมีการเคลื่อนไหวต้องแจ้งล่วงหน้าและพูดคุยกันก่อน พร้อมรอผลการดำเนินงานจากคณะอนุกรรมการปักปันเขตแดน แม่ทัพภาคที่ 2 ย้ำว่า กองทัพภาคที่ 2 ในฐานะผู้รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะดูแลผลประโยชน์ของชาติ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนอย่างดีที่สุด พร้อมส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกองกำลังทั้งสองประเทศ ไม่ให้เกิดเหตุบานปลาย ปัจจุบันจุดที่มีความ

เสี่ยงและยังไม่มีการปักปันอย่างชัดเจน ได้มีการถอนกำลังของทั้งสองฝ่ายเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ ส่วนจุดที่มีการประจำการตามปกติจะยังคงอยู่เช่นเดิม โดยยืนยันว่าการแก้ปัญหาทั้งหมดจะยึดแนวทางสันติและการเจรจาเป็นหลัก#ชายแดนไทยกัมพูชา #ทหารไทย #ทหารเขมร #แม่ทัพภาคที่2 #กองทัพไทย #ปกป้องอธิปไตย #ข่าวชายแดน #อุบลราชธานี #เนิน745 #ความมั่นคงชายแดน​                                        //ภาพข่าว//// เด​วิท​ โชคชัย​ ทีมข่าวนิวส์24สถานีประชาชน มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777​

แสดงความคิดเห็น