คดีที่ 1 : จับแก๊งโจรกรรมรถจักรยานยนต์ในพื้นที่ สภ.ปากคลองรังสิต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 18 พ.ค.2568 ผู้เสียหายนำรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ 110 ไอ ไปจอดที่สถานีรถไฟฟ้าหลักหก ต่อมาวันที่ 19 พ.ค.2568 พบว่ารถหาย จึงแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากการสืบสวนสอบสวน สามารถจับกุมผู้ก่อเหตุ 3 ราย คือ 1.นายภูมิ (นามสมมติ) อายุ 18 ปี 4เคยต้องโทษลักทรัพย์ในเวลากลางคืน 8 คดี,2.นายฟรองซ์ (นามสมมติ) อายุ 26 ปี,3. น.ส.อีฟ (นามสมมติ) อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาให้การว่าได้นำรถจักรยานยนต์ที่โจรกรรม ไปขายให้นายหรั่ง (นามสมมติ) อายุ 26 ปี ซึ่งพักอาศัยอยู่ใน ต.ลำลูกกา อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ผลการตรวจค้นบ้านนายหรั่ง พบรถจักรยานยนต์ที่ถูกโจรกรรม 2 คัน ตรวจสอบพบว่า นายหรั่ง กำลังจะนำรถทั้งสองคันขึ้นรถตู้เพื่อไปขายต่อที่เขตมีนบุรี นายหรั่ง รับสารภาพว่า เริ่มรับซื้อรถจักรยานยนต์ที่ถูกโจรกรรมมาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2567
คดีที่ 1 : จับแก๊งโจรกรรมรถจักรยานยนต์ในพื้นที่ สภ.ปากคลองรังสิต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 18 พ.ค.2568 ผู้เสียหายนำรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ 110 ไอ ไปจอดที่สถานีรถไฟฟ้าหลักหก ต่อมาวันที่ 19 พ.ค.2568 พบว่ารถหาย จึงแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากการสืบสวนสอบสวน สามารถจับกุมผู้ก่อเหตุ 3 ราย คือ 1.นายภูมิ (นามสมมติ) อายุ 18 ปี 4เคยต้องโทษลักทรัพย์ในเวลากลางคืน 8 คดี,2.นายฟรองซ์ (นามสมมติ) อายุ 26 ปี,3. น.ส.อีฟ (นามสมมติ) อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาให้การว่าได้นำรถจักรยานยนต์ที่โจรกรรม ไปขายให้นายหรั่ง (นามสมมติ) อายุ 26 ปี ซึ่งพักอาศัยอยู่ใน ต.ลำลูกกา อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ผลการตรวจค้นบ้านนายหรั่ง พบรถจักรยานยนต์ที่ถูกโจรกรรม 2 คัน ตรวจสอบพบว่า นายหรั่ง กำลังจะนำรถทั้งสองคันขึ้นรถตู้เพื่อไปขายต่อที่เขตมีนบุรี นายหรั่ง รับสารภาพว่า เริ่มรับซื้อรถจักรยานยนต์ที่ถูกโจรกรรมมาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2567
คดีที่ 2 : จับแก๊งโจรกรรมรถยนต์และจักรยานยนต์ในพื้นที่ สภ.คลองหลวง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 26 พ.ค.2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองหลวง จับกุม นายเล้ง (นามสมมติ) อายุ 47 ปี จากการสอบสวน นายเล้ง ให้การว่า โจรกรรมรถแล้วนำไปขายต่อให้นายเล็ก (นามสมมติ) อายุ 40 ปี การตรวจค้นและของกลาง ตรวจค้นบ้านพักนายเล็ก พบ 1.รถจักรยานยนต์ที่ถูกโจรกรรม 2 คัน,2.รถที่ใช้ในการก่อเหตุ 1 คัน,3.เอกสารปลอม เช่น ใบคู่มือจดทะเบียน สำเนารายการจดทะเบียน และเอกสารเกี่ยวกับการซื้อขายรถอีกจำนวนมาก ตรวจสอบย้อนหลังพบว่า กลุ่มนี้เคยโจรกรรมยานพาหนะมาแล้วอย่างน้อย 4 คัน (ทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์) รวมมูลค่าความเสียหาย กว่า 1,000,000 บาท เมื่อได้รถมา จะส่งให้เครือข่ายใน Facebook ปลอมแปลงเอกสาร ลักษณะเดียวกับคดีที่ 1 โดยมีค่าดำเนินการคัดสำเนารถ 300 บาทต่อคัน,สำเนาบัตรประชาชน 400 บาทต่อ จึงได้แจ้งข้อกล่าวข้อกล่าวหา “ร่วมกันลักทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อความสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม หรือรับของโจร”
สำหรับภาพรวมความเสียหายทั้ง 2 คดี มูลค่าความเสียหายรวมกัน มากกว่า 12,000,000 บาท จับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว รวม 6 ราย ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2568 ถึงปัจจุบัน ภ.จ.ปทุมธานี ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาในคดีโจรกรรมรถ ไปแล้ว 18 คน และติดตามรถที่ถูกโจรกรรมไป นำส่งคืนให้กับเจ้าของแล้ว 23 คัน มีการเร่งขยายผลตรวจสอบเส้นทางการเงิน ผู้ร่วมขบวนการ และผู้รับซื้ออย่างเข้มข้นต่อไป
แสดงความคิดเห็น