เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 7 เมษายน ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบนางน้อย อายุ 59 ปี ( นางน้อย ราชวงศ์ ) เจ้าของร้านอาหารตามสั่งแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลนครอุดรธานี หลังได้รับการร้องเรียนว่า โดนแก๊งทวงหนี้นอกระบบ ดอกโหดขู่ยิง โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดในร้านเป็นหลักฐาน เหตุเกิดเที่ยงวันที่ 6 เมษายน 2567
โดยภาพในกล้องวงจรปิดภายในร้านบันทึกภาพ แก๊งทวงหนี้เป็นผู้ชาย 2 คน ขับขี่รถ จยย.มาจอดหน้าร้านแล้วเดินเข้าไปในร้าน พอนางน้อยบอกว่าไม่มีเงินให้พึ่งเปิดร้านยังขายของไม่ได้ ไม่มีเงินให้ ก็โดนด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย เตะโต๊ะ เก้าอี้ ถังขยะ กระจายไปนอกร้านแถมทำท่าชักปืน พร้อมกับขู่ว่า “เดี๋ยวยิงไส้แตกเลยไอ้เหี้ย” และท้าให้ไปแจ้งตำรวจ พบกันที่สถานีตำรวจ
นางน้อย กล่าวว่า ตนกับสามีเปิดร้านขายอาหารตามสั่ง ก๋วยเตี๋ยว และเย็นตาโฟ เมื่อก่อนก็ขายดีได้วันละ 7-8 พันบาท หลังจากโควิด-19 ระบาด ทำให้ค้าขายไม่ดี ทุนก็หาย ปี 2567 จึงต้องกู้เงินนอกระบบ มาลงทุน แม้ว่าดอกเบี้ยร้อยละ 20 ต้องผ่อนส่งรายวัน ก็จำเป็นต้องกู้ พอหาเงินส่งไม่ทันก็ต้องกู้นายทุนใหม่มาปิดหนี้เก่า แต่ก็หาเงินส่งหนี้รายวันไม่ทัน ก็โดน ด่าทอ ข่มขู่และทำร้ายมาแล้ว ไปแจ้งความดำเนินคดีแล้ว
นางน้อย กล่าวต่อไปว่า ปีนี้ตนก็ได้กู้เงินนอกระบบมาลงทุนอีก 3 ราย 4,000 บาท 5,000 และ 6,000 บาท แต่รายที่มีปัญหากู้มา 6,000 บาท ส่งวันละ 300 บาท 24 วัน รวมเป็นเงิน 7,200 บาท แต่ปรากฎว่าวันไหนขายดีก็จะมีเงินจ่ายหนี้รายวัน แต่ถ้าวันไหนขายไม่ดี ตนก็ขอผ่อนผันขอจ่ายตามที่มี 50-100 บาท เจ้าหนี้ 2 รายไม่มีปัญหาอะไรได้เท่าไหร่ก็เอา แต่มีเจ้าหนี้รายนี้มีปัญหาไม่ยอมให้ผ่อนจ่าย อาละวาดด่าทอข่มขู่ตามเห็นในคลิป
นางน้อย กล่าวต่อว่า เช้าวันที่ 6 เมษายน รู้ว่าไม่มีเงินจ่ายหนี้รายวัน จึงไปหาญาติพี่น้องที่ ต.หนองนาคำ เพื่อยืมเงินมาจ่ายหนี้ แต่ยืมไม่ได้เพราะทุกคนต่างก็มีภาระ จึงกลับมาที่ร้านตอนเที่ยงวันเพื่อเปิดร้าน ก็มาพบแก๊งทวงหนี้ ตนก็ขอว่าพรุ่งนี้ค่อยมาเก็บ วันนี้ยังไม่ได้ขายเลย ไม่มีเงินจ่าย คนทวงหนี้ไม่ยอม ได้ด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ตนก็บอกอย่าด่ากันเลย ให้ออกไปจากร้านเดี๋ยวจะทะเลาะกัน ตนก็ผลักให้ออกไป ทำให้แก๊งทวงหนี้ไม่พอใจ หันมาผลักตนคืนและจะทำร้าย อาละวาดเตะโต๊ะเก้าอี้และถังขยะภายร้านกระจาย แถมทำท่าเอามีดใต้เบาะรถ และจะชักปืนยิงไส้แตก และท้าทายให้ไปแจ้งความด้วย
นางน้อย เล่าความเป็นไปเป็นมาของชื่อเมนูว่า ตนจะต้องลงทุนวันละ 1500-1600 บาท ถ้ามีเงินมากก็ลงทุนมาก ขายได้ก็ไปซื้อมาขายต่อ ละจ่ายหนี้รายวันไป พอเจ้าหนี้มาเก็บเงินรายวัน ถ้าตนมีจ่ายก็ดีไป แต่ถ้าตนไม่มีจ่าย ก็จะโดนด่า อาละวาด ทำให้ลูกค้าที่อยู่ในร้านเห็นเหตุการณ์ตลอด จึงพากันตั้งชื่อเมนูว่า “ก๋วยเตี๋ยวมาเฟีย” “เย็นตาโฟหมาหมู่” เพราะว่าแก๊งทวงหนี้มาทวงแบบโหด และมากันจำนวนมาก จึงตั้งเมนูชื่อนี้ให้ร้าน
“อยากฝากถึงแก๊งทวงหนี้ว่า มาเก็บก็ให้ใจเย็นๆ พออะลุ้มอล่วยได้ก็จะดี ก็เห็นใจคนมาทวงหนี้เพราะเป็นลูกจ้างเหมือนกัน เวลาไม่มีก็ให้เห็นใจด้วย ถ้ามีเงินลงทุนก็คงไม่กู้ แต่เพราะไม่มีเงินจึงต้องกู้ อยากจ่ายหนี้ ถ้าวันไหนขายได้มีเงินก็ให้เต็มจำนวน วันไหนไม่มีก็แบ่งให้ 40-50 บาท บางรายก็เอา ไม่ได้หนีไปไหน บางวันขายไม่ได้ก็ไม่มีให้ ก็ขอผลัดไปวันหลัง”
นางน้อย กล่าวต่อในตอนท้ายว่า ส่วนสาเหตุที่ตนต้องกู้นอกระบบเพราะว่า ตนกู้ในระบบไม่ได้ ไปกู้ที่ธนาคารไหนก็ติดแบล็คลิสกู้ไม่ได้ เพราะตนเคยไปค้ำประกันเพื่อนซื้อรถยนต์ ต่อมาเพื่อนไม่ยอมส่งงวด และรถยนต์ก็หาย ทำให้ตนติดแบล็คลิส และถูกอายัดบ้านและที่ดิน 158 ตรว. จึงต้องหันมากู้นอกระบบ และมาพบกับแก๊งทวงหนี้โหดมาอาละวาดด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย และทำร้าย ซึ่งตนกับสามีก็ต้องทน เพราะไม่มีที่ไหนให้กู้เงินมาลงทุนแล้ว เพราะต้องลงทุนวันละ 1,500-1,600 บาท ถ้ามีเงินมากก็ลงทุนมาก ขายได้ก็ไปซื้อมาขายต่อ และจ่ายหนี้ไป
แสดงความคิดเห็น