Recent News/ข่าวล่าสุด

​กสทช. ปิดประมูลคลื่นวิทยุ FM ท้องถิ่น 1,895 คลื่น มูลค่ารวม 65 ล้านบาท

กสทช. ปิดประมูลคลื่นวิทยุ FM ท้องถิ่น 1,895 คลื่น มูลค่ารวม 65 ล้านบาท


“การประมูลคลื่นวิทยุ FM ระดับท้องถิ่นในปี 2568 ถือเป็นก้าวสำคัญของการปฏิรูประบบวิทยุกระจายเสียงของประเทศ ที่รอคอยมากว่า 20 ปี นับตั้งแต่ยุคสถานีทดลองออกอากาศ วันนี้ประเทศไทยได้เดินหน้าเข้าสู่ระบบใบอนุญาตอย่างสมบูรณ์ โปร่งใส ตรวจสอบได้ และสอดคล้องกับหลักสากลในการบริหารจัดการทรัพยากรคลื่นความถี่ ซึ่งเป็นสมบัติของประชาชนทั้งประเทศ”


สุทนต์ กล้าการขาย ประธานอนุกรรมาธิการกิจการกระจายเสียงฯ วุฒิสภา กล่าวว่า ผลการประมูลซึ่งมีผู้ชนะรวม 1,895 คลื่น จากทั้งหมด 1,993 คลื่น และมีมูลค่ารวมกว่า 65 ล้านบาท แม้จะไม่สูงในเชิงรายได้รัฐ แต่สะท้อนว่า กิจการวิทยุท้องถิ่นยังมีความต้องการใช้งานจริงในพื้นที่ และยังเป็นสื่อที่มีบทบาทต่อชุมชน ทั้งด้านข้อมูล ข่าวสาร สาธารณสุข ภัยพิบัติ และเศรษฐกิจฐานราก


“ราคาประมูลสูงสุดหลายพื้นที่ เช่น เชียงใหม่ ชลบุรี สมุทรสาคร กรุงเทพมหานคร และขอนแก่น สะท้อนศักยภาพของพื้นที่เมืองหลักและเมืองท่องเที่ยว ซึ่งมีความต้องการช่องทางสื่อสารที่เข้าถึงประชาชนอย่างรวดเร็ว ในขณะที่หลายจังหวัดอื่นก็ยังมีผู้ประกอบการให้ความสนใจอย่างกว้างขวาง เป็นสัญญาณที่ดีของอุตสาหกรรมนี้”


สุทนต์ ย้ำว่า หลังการประมูลสำเร็จแล้ว สิ่งสำคัญคือ การกำกับดูแลให้ผู้ได้รับใบอนุญาตสามารถประกอบกิจการได้อย่างเป็นธรรม ไม่ถูกครอบงำโดยนายทุนรายใหญ่ และยังต้องคงบทบาท “สื่อชุมชน” อย่างแท้จริง พร้อมทั้งขอให้ กสทช. เร่งดำเนินการใน 4 ประเด็นหลัก ได้แก่

 1. เร่งออกใบอนุญาตให้ทันเวลา เพื่อให้ผู้ประกอบการเริ่มต้นธุรกิจได้อย่างราบรื่น

 2. ปรับปรุงหลักเกณฑ์ด้านคุณภาพสัญญาณและมาตรฐานเครื่องส่ง ลดคลื่นรบกวนและสร้างความเป็นระเบียบ

 3. ส่งเสริมการใช้คลื่นเพื่อสาธารณภัย (Emergency Broadcasting) โดยเฉพาะระบบเตือนภัยพิบัติระดับจังหวัด

 4. จัดตั้งศูนย์ประสานงานระดับจังหวัด (FM Transition Center) เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการหลังการเปลี่ยนผ่าน โดยเน้นคำแนะนำด้านเทคนิคและกฎหมาย


“อนุกรรมาธิการจะติดตามอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบใบอนุญาตเป็นไปอย่างราบรื่น เป็นธรรม และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนในทุกพื้นที่ เราเชื่อว่าระบบวิทยุท้องถิ่นที่เข้มแข็ง จะช่วยเสริมสร้างความปลอดภัย ข่าวสาร และความร่วมมือของชุมชนทั่วประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ”


Cr. ภาพ/ข่าว: วุฒิสภา

ทีมข่าวNEWS24:รายงาน

เริ่มแล้ว ! เทศกาลดนตรีสุดคึกคัก Angthong Music From The Mill @ Wiset Chai Chan “รมต.ภราดร” มั่นใจช่วยโหมโรงเที่ยวอ่างทองตลอดปี

   วันที่ 14 พฤศจิกายน 2568 เวลา 19.00 น. ณ โรงสีวิเศษชัยชาญเจริญกิจ ม.5 ต.ท่าช้าง อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดเปิดงาน มหกรรมดนตรีและการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย-นานาชาติ ประจำปี พ.ศ.2568 (Angthong Music From The Mill @ Wiset Chai Chan) โดยมี นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล ประธานกรรมาธิการการปกครองและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอ่างทอง นายนที มนตริวัติ ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง นางมนัสวี มนตริวัต ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดอ่างทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง หัวหน้าส่วนราชการ สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดอ่างทอง นายอำเภอวิเศษชัยชาญ นายอำเภอไชโย นายอำเภอป่าโมก ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และนักท่องเที่ยวชาวอ่างทองจำนวนมาก เข้าร่วม
นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า งาน Angthong Music From The Mill @ Wiset Chai Chan ในครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของความคึกคักการท่องเที่ยวจังหวัดอ่างทอง จากนี้ยังมีกิจกรรมในปฏิทินการท่องเที่ยวรออยู่อีกมากมาย ไม่ว่าการแข่งกีฬาที่หนองเจ็ดเส้น และกิจกรรม Countdown ปีใหม่อย่างเป็นทางการครั้งแรกของจังหวัดอ่างทองที่สวนน้ำเฉลิมพระเกียรติ เชื่อว่าภาพการท่องเที่ยวอย่างคึกคักของชาวจังหวัดอ่างทองในวันนี้ จะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากพื้นที่อื่น ๆ ได้มากในอนาคต ถือเป็นแนวคิดที่สำคัญในพัฒนา เศรษฐกิจของจังหวัดอ่างทองให้เติบโตอย่างก้าวกระโดดต่อไป
ด้านนายนที มนตริวัต ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทองกล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้ เป็นไปตามแนวทางการพัฒนาจังหวัดสู่การเป็นเมืองน่าเที่ยวของภูมิภาค เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนกระจายรายได้ในพื้นที่ สอดคล้องกับนโยบายการกระตุ้นการท่องเที่ยวของรัฐบาล ภายในงานมีทั้งการประกวดวงดนตรีและการแสดงจากวงดนตรีชื่อดังระดับประเทศ รวมถึงร้านค้า อาหาร 127 ร้าน ที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งพลัสกว่า 100 ร้าน สามารถกระตุ้นการจับจ่ายและเศรษฐกิจของจังหวัดอ่างทองได้เป็นอย่างดี
สำหรับงาน Angthong Music From The Mill @ Wiset Chai Chan  จัดขึ้นระหว่างวันที่ 13-16 พฤศจิกายน 2568 ณ “โรงสีเก่า โรงสีวิเศษชัยชาญเจริญกิจ อำเภอวิเศษชัยชาญ” จังหวัดอ่างทอง ภายในงานพบกับกิจกรรมการแสดงคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดังระดับประเทศ การประกวดวงดนตรีนักเรียน โซนอาหารและสินค้าของดีเมืองอ่างทอง โดยก่อนเริ่มกิจกรรมในวันนี้ นักท่องเที่ยวได้ร่วมจุดเทียน ยืนถวายความอาลัย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เป็นเวลา 93 วินาที ขณะเดียวกัน ผู้จัดงานยังได้แจกริบบิ้นสีดำ และขอความร่วมมือให้นักท่องเที่ยวได้แต่งกายโทนสีสุภาพ สอดคล้องกับห้วงแห่งการไว้อาลัยด้วย
















 ภาพ-ข่าว อภิวัฒน์ กุลคำ/บรรณาธิการข่าว

0618317599

ลำพูน - เหล่ากาชาดจังหวัดลำพูน จัด"วันรวมน้ำใจให้กาชาด" ประจำปี 2568 ใช้ในกิจกรรม ในงานสักการะพระนางจามเทวีและงานฤดูหนาวจังหวัดลำพูน ประจำปี 2568

วันนี้(14 พ.ย. 68) เวลา 10 นาฬิกา 30 นาที นายโยธิน  ประสงค์ความดี รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เป็นประธานในงาน "วันรวมน้ำใจให้กาชาด" ประจำปีพุทธศักราช 2568 โดยมีนายปรีชา  สมชัย ปลัดจังหวัด(ปจ.)ลำพูน, นายอำเภอ(นอ.)จาก 8 อำเภอได้แก่ อำเภอเมืองลำพูน อำเภอแม่ทา อำเภอบ้านธิ อำเภอป่าซาง อำเภอบ้านโฮ่ง อำเภอทุ่งหัวช้าง อำเภอลี้ อำเภอเวียงหนองล่อง, เหล่ากาชาดจังหวัดลำพูน, กิ่งกาชาดอำเภอ 8 อำเภอ, หน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน และผู้มีจิตศรัทธา ร่วมมอบเงินและสิ่งของจำนวนมาก ณ สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดลำพูน ภายในจวนผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ตำบลในเมือง อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน
บรรยากาศโดยทั่วไป มีหน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) ภาคเอกชน ตลอดจนประชาชนผู้มีจิตศรัทธา ทยอยเข้ามาร่วมบริจาคเงินและสิ่งของจำนวนมาก ทางเหล่ากาชาดจังหวัดลำพูนจะนำไปใช้เป็นของรางวัล ภายในกิจกรรมออกร้านมัจฉากาชาด ในงานสักการะพระนางจามเทวีและงานฤดูหนาวจังหวัดลำพูน ประจำปี 2568 ระหว่างวันศุกร์ที่ 28 พฤศจิกายน ถึง วันอาทิตย์ที่ 7 ธันวาคม 2568 จัด ณ บริเวณพื้นที่เอกชน บ้านแม่สารป่าแดด หมู่ที่ 2 ถนนลำพูน-ดอยติ ตำบลเวียงยอง อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน
ทั้งนี้ รายได้ทั้งหมดจากการจัดกิจกรรมครั้งนี้ จะนำไปใช้ในกิจกรรมสาธารณประโยชน์ของเหล่ากาชาดจังหวัดลำพูน เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย ผู้ยากไร้ ผู้ทุพพลภาพ และผู้ด้อยโอกาสในพื้นที่จังหวัดลำพูน..





กรรณิการ์  วิจิตรสกลการ ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดลำพูน
 

ฟุตซอลอนุบาลหนองปรือไปไม่ถึงฝันจบรอบ8ทีมทุกรุ่น

 สนามโรงเรียนอนุบาลนานาชาติระยองตากสิน จ.ระยอง เป็นสนามแข่งขันกีฬานักเรียนองค์กรปกครองท้องถิ่น ครั้งที่ 40  "ตากสินระยองเกมส์" ซึ่งเป็นการแข่งขันฟุตซอลหญิง รุ่นอายุ 12 ปี รอบ 8 ทีมสุดท้าย เป็นการพบกันระหว่าง ทีมจาก จ.ชลบุรี  ทั้ง 2 ทีม  อบจ.ชลบุรี พบกับ โรงเรียนอนุบาลเทศบาลเมืองหนองปรือ  โดยรอบแรกโรงเรียนอนุบาลเทศบาลเมืองหนองปรือเข้าเป็นที่ 1 ของสาย B ส่วน อบจ.ชลบุรีเป็นที่ 2 ของสาย D  เริ่มครึ่งแรกทั้งคู่สู้กันอย่างสมศักดิ์  ผลัดกันลุกผลัดกันรับ จบครึ่งแรกเสมอกัน 0 ประตูต่อ 0

  เริ่มครึ่งหลังเล่นได้ไม่นาน กัปตันทีมของ โรงเรียนอนุบาลเทศบาลเมืองหนองปรือ หมายเลข 3  รวิ หอมชื่น โดนใบเหลืองใบที่ 2 จึงเป็นเหลืองแดงโดยการได้ใบแดงค้านสายตาผู้ชมรอบสนาม  ทำให้เสียโทษนอกเขตโทษ และทำให้เสียประตู  จากนั้นโรงเรียนอนุบาลเทศบาลเมืองหนองปรือพยายามสู้เต็มที แต่มาเสียลูกที่ 2  ท้ายเกมส์ จบการแข่ง อบจ.ชลบุรี ชนะ โรงเรียนอนุบาลเทศบาลเมืองหนองปรือ ไปด้วยสกอร์ 2 ประตูต่อ 0 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศต่อไป
 ส่วนฟุตซอลรุ่น 12 ปี ชาย และ 14 ปี ชาย ของโรงเรียนอนุบาลเทศบาลเมืองหนองปรือ ก็ตกรอบ 8 ทีม เช่นกัน อดไปต่อในระดับประเทศปลายเดือนมกราคม ปี 2569

 

เปิดยิ่งใหญ่! อนุบาล อบต.หนองละลอกหลังใหม่ ทุ่ม 40 ล้าน ปั้นเด็กสองภาษา–สามภาษา ยกระดับการศึกษาในพื้นที่ เรียนฟรีแห่งเดียวในไทย

เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2568 ที่อาคารโรงเรียนอนุบาลอบต.หนองละลอก อ.บ้านค่าย จ.ระยอง นายปิยะ ปิตุเตชะ นายกอบจ.ระยอง ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดอาคารเรียนแห่งใหม่ โดยมีนายวิจิตร พาพลงาม นายอำเภอบ้านค่าย พร้อมด้วย นายปราโมทย์ ฉันทมิตร์ นายกอบต.หนองละลอก น.ส.วัชราภรณ์ นาทองบ่อ หัวหน้าฝ่ายส่งเสริมสวัสดิการสังคม รักษาราชการแทนผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาล อบต.หนองละลอก คณะผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการ ภาครัฐ ภาคเอกชน คณะครู ผู้ปกครองและนักเรียนร่วมงานอย่างคับคั่ง
นายปราโมทย์ ฉันทมิตร์ กล่าวว่า โรงเรียนอนุบาลอบต.หนองละลอก ตั้งอยู่เลขที่ 199/4 หมู่ 4 ตำบลหนองละลอก เปิดทำการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลปีที่ 2 (อายุ 4 ปี) ถึงระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ในปีการศึกษา 2568 โดยจัดแผนการเรียนภาษาไทย–อังกฤษในระดับอนุบาล และภาษาไทย–อังกฤษ–จีนในระดับประถมศึกษา ซึ่งปัจจุบันมีนักเรียนรวม 150 คน แบ่งเป็น อนุบาลปีที่ 2 จำนวน 60 คน อนุบาลปีที่ 3 จำนวน 48 คน และประถมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 42 คน มีครูผู้สอนรวม 19 คน เป็นครูไทย 13 คน และครูต่างชาติ 7 คน
สำหรับปีการศึกษา 2568 อบต.หนองละลอกได้จัดจ้างครูต่างชาติเพิ่มอีก 4 คน และครูจีนอีก 1 คน เพื่อพัฒนาศักยภาพด้านภาษาของนักเรียน พร้อมทั้งก่อสร้างอาคารเรียนหลังใหม่ วงเงิน 40 ล้านบาท รองรับการขยายตัวทางการศึกษาในอน
โรงเรียนมีน.ส.วัชราภรณ์ นาทองบ่อ หัวหน้าฝ่ายส่งเสริมสวัสดิการสังคม รักษาราชการแทนผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาล อบต.หนองละลอก ซึ่งดำเนินงานตามวิสัยทัศน์ “นำร่องสองภาษา พัฒนานวัตกรรม ก้าวนำเทคโนโลยี มีชีวิตที่เป็นสุข” พร้อมสัญลักษณ์รูปหมวกบัณฑิตล้อมรอบตรา อบต. บนฐานต้นชัยพฤกษ์ สีประจำโรงเรียนคือ “สีน้ำเงิน–สีแดง” และคำขวัญประจำโรงเรียน “สื่อสารดี มีวินัย ใจเป็นสุข”
สำหรับปีการศึกษา 2568 ทาง อบต.หนองละลอกได้จัดจ้างครูชาวต่างชาติเพิ่มเติมอีก 4 คน ครูจีน 1 คน เพื่อพัฒนาศักยภาพด้านภาษาต่างประเทศของนักเรียน รวมถึงได้บรรจุข้อบัญญัติการก่อสร้างอาคารเรียนหลังใหม่เพิ่มเติมอีก 1 หลัง วงเงินงบประมาณ 40 ล้านบาท เพื่อรองรับการขยายตัวทางการศึกษาในอนาคต
ภายในงานจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายและอบอุ่น ก่อนปิดท้ายด้วยการเชิญประธานในพิธีกล่าวเปิดอาคารเรียนอย่างเป็นทางการ ท่ามกลางความยินดีของผู้ปกครองและชุมชนในพื้นที่ ที่จะได้เห็นเด็กๆ มีโอกาสทางการศึกษาที่ดีและมีมาตรฐานมากยิ่งขึ้นต่อไป.