Top News/ข่าวยอดนิยม

Recent News/ข่าวล่าสุด

คึกคักทั้งอำเภอแกลง! เปิดรับสมัคร อบต.วันแรก “หน้าเก่า–หน้าใหม่–อดีตนายก” แห่ลงสนามชิงเก้าอี้

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 2 ธันวาคม ที่สำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ทางเกวียน อำเภอแกลง จังหวัดระยอง บรรยากาศการรับสมัครเลือกตั้งนายก อบต. และสมาชิก อบต. เป็นไปอย่างคึกคัก โดยมีประชาชน ทีมงาน และกองเชียร์เดินทางมาให้กำลังใจผู้สมัครกันอย่างคับคั่ง
น.ส.ฐิติรัตน์ เสน่ห์ ปลัด อบต.ทางเกวียน ในฐานะผู้อำนวยการการเลือกตั้ง เปิดเผยว่า วันแรกมีผู้มาลงสมัครนายก อบต. จำนวน 2 ราย คือ นายสำเริง คนฑา อดีตกำนันตำบลทางเกวียน จับได้ หมายเลข 1 นายลำยอง สนิท อดีตนายกฯ ที่เพิ่งหมดวาระ หรือ “ลำยองหมูย่าง” พร้อมสโลแกนเด่น “พบง่าย ใช้คล่อง ต้องลำยองสนิท” จับได้ หมายเลข 2
หลังจับสลากหมายเลขเสร็จ ทั้งสองทีมมีประชาชนและผู้สนับสนุนมอบพวงมาลัยร่วมแสดงความยินดี ก่อนแยกย้ายเตรียมลงพื้นที่หาเสียง ขณะที่การเปิดรับสมัครสมาชิก อบต. ก็มีผู้สนใจเดินทางมาลงสมัครอย่างต่อเนื่อง
ด้าน อบต.กระแสบน บรรยากาศคึกคักไม่แพ้กัน โดยนายกฤษ วงศ์เกิด ปลัด อบต. ทำหน้าที่เปิดรับสมัครนายกและสมาชิกเช่นเดียวกัน ซึ่งปีนี้มีผู้สมัครนายก อบต.ถึง 4 คน ครบทั้งรุ่นเก่า–รุ่นใหม่ รวมถึงทายาทนักการเมืองท้องถิ่น ได้แก่ นายทิณกรณ์ วงศ์พิ่ง อดีตรองนายก อบต. จับได้ หมายเลข 1 นายพัลลภ บุญเหลือ ลูกชายอดีตนายกฯ ที่เพิ่งหมดวาระ ได้ หมายเลข 2 นายวินัย สนธิ อดีตกำนันตำบลกระแสบน ได้ หมายเลข 3 นายทรงฤทธิ แกล้วกล้า ในนามทีม “กระแสบนก้าวหน้า” จับได้ หมายเลข 4
สำหรับอำเภอแกลงมี อบต. ทั้งหมด 8 แห่ง ได้แก่ อบต.กองดิน อบต.พังราด อบต.คลองปูน  อบต.ทุ่งควายกิน  อบต.ทางเกวียน  อบต.กระแสบน อบต.วังหว้า และอบต.ชากโดน ซึ่งทุกแห่งรายงานว่า บรรยากาศวันแรกของการรับสมัครเป็นไปด้วยความคึกคัก ผู้สมัครจากทั้งหน้าใหม่ หน้าเก่า อดีตนายก และอดีตผู้บริหารท้องถิ่น ต่างทยอยเดินทางมาแสดงตัวลงสนามเลือกตั้งกันอย่างคับคั่ง คาดว่าการแข่งขันครั้งนี้จะดุเดือดไม่น้อยในทุกพื้นที่ของอำเภอแกลง




 

กรมราชทัณฑ์ จับมือ กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การส่งเสริมวินัยการออมสำหรับผู้ต้องขัง และมอบรางวัลกิจกรรม “กอช. สร้างอาชีพ มีรายได้ เพิ่มเงินออม”

 วันที่ 2 ธ.ค.68 เวลา 13.30 น. ที่ห้องสัมมนากรมราชทัณฑ์ กรมราชทัณฑ์ จ.นนทบุรี พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และ นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การส่งเสริมวินัยการออมสำหรับผู้ต้องขัง และมอบรางวัลกิจกรรม “กอช. สร้างอาชีพ มีรายได้ เพิ่มเงินออม” โดยมี นายชาญ วชิรเดช รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ นางสาววริศรา ศิริสุทธิเดชา ผู้อำนวยการกองพัฒนาพฤตินิสัย ผู้บัญชาการเรือนจำ ผู้อำนวยการทัณฑสถาน ผู้อำนวยการสำนัก/กองส่วนกลางกรมราชทัณฑ์ ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ เข้าร่วมฯ
โดย พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า กรมราชทัณฑ์ รู้สึกเป็นเกียรติ และยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสร่วมงานกับกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ในการจัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การส่งเสริมวินัยการออมสำหรับผู้ต้องขัง ระหว่าง กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) กับ กรมราชทัณฑ์ ซึ่งวัตถุประสงค์หลักของความร่วมมือในครั้งนี้ คือ มุ่งเน้นการส่งเสริม “วินัยการออม” สำหรับผู้ต้องขังในเรือนจำและทัณฑสถาน สอดคล้องกับภารกิจหลักของกรมราชทัณฑ์ในการควบคุมดูแล และพัฒนาพฤตินิสัยของผู้ต้องขังตามมาตรฐานสากล เพื่อปกป้องและคุ้มครองสังคมให้ปลอดภัย“การออมเงิน” ถือเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนปล่อยตัวผู้ต้องขัง โดยให้โอกาสผู้ต้องขังได้เริ่มสะสมเงินออมตั้งแต่ยังอยู่ในเรือนจำ และรู้จักวางแผนอนาคตของตนเอง ผ่านการสะสมเงินออมเพื่อใช้ในยามชราภาพ กองทุนการออมแห่งชาติ จึงเข้ามาเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยให้ผู้ต้องขังสามารถเริ่มต้นการออมเงินได้ตั้งแต่อยู่ในเรือนจำ/ทัณฑสถาน และได้รับผลตอบแทนในระยะยาว เพื่อให้ได้รับสิทธิในการสร้างหลักประกันชีวิตที่มั่นคงเหมือนประชาชนทั่วไป อีกทั้งยังเป็นแรงผลักดันให้ผู้ต้องขังมีกำลังใจพัฒนาตนเอง เห็นคุณค่าและความสำคัญของการจัดการเงินอย่างเป็นระบบ รวมถึงสร้างความหวังและความมั่นใจให้แก่ผู้ต้องขังในการกลับสู่สังคมอย่างภาคภูมิ
กรมราชทัณฑ์ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ความร่วมมือดังกล่าวจะช่วยเสริมภารกิจการพัฒนาพฤตินิสัยให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ทั้งในด้านความรู้ความเข้าใจเรื่องการออม การวางแผนด้านการเงิน และการสร้างวินัยทางการเงิน อันเป็นทักษะที่สำคัญของผู้ต้องขังในการปรับตัวเข้ากับสังคม อีกทั้งยังทำให้กระบวนการดูแลและพัฒนาผู้ต้องขังมีความยั่งยืนมากขึ้น สอดคล้องกับนโยบายการเตรียมความพร้อมก่อนปล่อย เพื่อให้ผู้ต้องขังสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างแท้จริง และไม่หวนกลับไปกระทำผิดซ้ำอีก

สำหรับการมอบรางวัลกิจกรรม “กอช. สร้างอาชีพ มีรายได้ เพิ่มเงินออม” โดยการดำเนินงานที่ผ่านมาของเรือนจำ/ทัณฑสถาน ที่เป็นสมาชิก กอช. และเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ประสานงาน ในการส่งเสริมการออมให้แก่ผู้ต้องขัง จึงได้จัดงานมอบรางวัลจากการดำเนินกิจกรรมประจำปี 2568 ดังนี้

1. กิจกรรม “กอช. สร้างอาชีพ มีรายได้ เพิ่มเงินออม” ซึ่งเป็นกิจกรรม CSR ให้แก่ เรือนจำ/ทัณฑสถานที่มีผลการดำเนินงานดีเด่น ที่มียอดสมาชิกใหม่ ดังนี้

เกียรติบัตรหน่วยงานส่งเสริมการออม กับ กอช. ดีเด่น จำนวน 9 รางวัล ได้แก่ เรือนจำจังหวัดกาญจนบุรี เรือนจำกลางราชบุรี เรือนจำจังหวัดลำพูน เรือนจำกลางลำปาง ทัณฑสถานหญิงกลาง เรือนจำกลางเขาบิน ทัณฑสถานบำบัดพิเศษหญิง เรือนจำกลางบางขวาง เรือนจำกลางลพบุรี โดยทั้ง 9 เรือนจำ มีจำนวนสมาชิก กอช. รวมทั้งสิ้น 2,160 ราย

เกียรติบัตรบุคคลส่งเสริมการออมดีเด่น ให้แก่ผู้ประสานงานเรือนจำ/ทัณฑสถานดีเด่นจาก 9 เรือนจำ รวม 17 รางวัล

เกียรติบัตรและรางวัล “ชุดแจ้งเกิด” ที่มอบให้ผู้ต้องขังที่เป็นสมาชิก กอช. และกำลังพ้นโทษ เรือนจำ/ทัณฑสถานละ 1 รางวัล เพื่อเป็นทุนตั้งต้นในการประกอบอาชีพเมื่อพ้นโทษ โดยรางวัลชุดแจ้งเกิดนี้ ไม่ใช่เป็นเพียงแค่สิ่งของหรือเงินทุนเท่านั้น แต่เป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นใหม่ และ “แจ้งเกิด” ในฐานะสมาชิกคนหนึ่งของสังคมที่ประกอบอาชีพสุจริต มีรายได้เลี้ยงตัวเองและครอบครัว

2. รางวัล The Best Agent เป็นรางวัลที่เกิดจากความร่วมมือระหว่าง กอช. และเรือนจำ/ทัณฑสถาน ที่ช่วยกันสนับสนุนส่งเสริมให้มีสมาชิก กอช.

3. กิจกรรมมอบรางวัลส่งเสริมการออมสำหรับเรือนจำและทัณฑสถาน ที่มีผลงานส่งเสริมการออม กับ กอช. ดีเด่น ประจำปี 2568 จำนวน 6 รางวัล ได้แก่ เรือนจำกลางราชบุรี ได้รับรางวัลสมัครสมาชิกใหม่สูงสุด เรือนจำกลางเขาบิน ได้รับรางวัลยอดเงินรวมสะสมสูงสุด ทัณฑสถานหญิงกลาง ได้รับรางวัลยอดเงินรวมสะสมสูงสุด ทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่ ได้รับรางวัลยอดเงินรวมสะสมสูงสุด เรือนจำกลางนครสวรรค์ ได้รับรางวัลยอดเงินรวมสะสมสูงสุด และ เรือนจำกลางบางขวาง ได้รับรางวัลยอดเงินรวมสะสมสูงสุด โดยทั้ง 6 เรือนจำ มีจำนวนสมาชิก กอช. รวมทั้งสิ้น 5,370 ราย

 

กรมราชทัณฑ์ ปันน้ำใจ สู้ภัยน้ำท่วมใต้


 วันนี้ (2 ธ.ค.68) พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล อธิบดีกรมราชทัณฑ์ พร้อมด้วย นายชาญ วชิรเดช รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และ นายพงษ์อภินันทน์ จันกลิ่น เลขานุการกรม ร่วมมอบสิ่งของบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ ในกิจกรรม “กรมราชทัณฑ์ ปันน้ำใจ สู้ภัยน้ำท่วมใต้” ณ บริเวณหน้าห้อง Call Center ชั้น 1 อาคารกรมราชทัณฑ์ โดยสิ่งของที่พี่น้องชาวราชทัณฑ์ ร่วมบริจาคฯ จะส่งต่อให้กับกระทรวงยุติธรรม เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ต่อไป

อบจ.นครปฐมได้จัดเตรียมสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้

  นายจิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ นายก อบจ.นครปฐม และ นางวิลาสินี สะสมทรัพย์ ภริยา, นายฐิรวิชญ์ สะสมทรัพย์ บุตรชาย พร้อมด้วย ผู้ช่วยผู้บริหาร ประธานสภาฯ รองประธานสภา สมาชิกสภาฯ รก.ปลัด อบจ. และเจ้าหน้าที่ อบจ.นครปฐม    พร้อมกับประชาชนจังหวัดนครปฐมได้ร่วมกันมอบสิ่งของต่างๆ    อาทิ และน้ำดื่ม ยาสามัญ อาหารแห้ง อาหารสัตว์ ผ้าอนามัย นม ผ้าห่ม และของอื่นๆอีกจำนวนมาก  เพื่อนำไปส่งต่อให้แก่ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุอุทกภัย   ในพื้นที่ภาคใต้   และ นายกอบจ.นครปฐม ต้องขอขอบคุณพี่น้องประชาชนทุกท่าน และทุกภาคส่วน ที่่ได้นำเครื่องอุปโภคบริโภค และสิ่งของจำเป็นต่างๆ มาร่วมช่วยเหลือบรรเทาความทุกข์แก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ ในครั้งนี้ ชาวนครปฐมขอส่งความห่วงใยโดยการส่งมอบสิ่งของจำเป็น ขอให้ผ่านช่วงเวลานี้ไปให้ได้ และขอให้สถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว











 สมคิด  พรมมี  ผู้สื่อข่าว  นครปฐม

“Quick Big Win : และ มหาดไทย ทำ ทัน ที Action 5 ปฏิบัติการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหายาเสพติดอำเภอบางคนที

 วันที่ 2 ธ.ค. 2568 ตั้งแต่เวลา 14.00 น. เป็นต้นไป นายปริพล  ทัดแก้ว. นายอำเภอบางคนที / ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันปราบปรามยาเสพติดอำเภอบางคนที    เป็นประธานการประชุมติดตามผลการดำเนินการป้องกันและปราบปรามแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบบูรณาการ  ตามแนวทางรวมพลังรักศรัทธา. แก้ปัญหายาเสพติดแบบบูรณานาการ ณ ห้องประชุมอำเภอบางคนที  ชั้น 2 ที่ว่าการอำเภอบางคนที โดยมีผู้เข้าร่วมประชุม ประกอบด้วย

1. ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง

2. รองผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบางคนที

3. สาธารณสุขอำเภอบางคนที

4. พัฒนาการอำเภอบางคนที

5. ผู้แทนผู้อำนวยการ โรงพยาบาลนภาลัย

6. กำนันทุกตำบล

7. ฝ่ายความมั่นคงอำเภอบางคนที

 โดยนายปริพล. ทัดแก้ว. นายอำเภอบางคนที ได้ติดตามผลการดำเนินการตามนโยบาย Quick  Big Win ดังต่อไปนี้

1. จัดทีมปฏิบัติการ  ประกอบด้วย สภ.บางคนที   สสอ. รพ. สต. กำนัน ผญบ.ฯ และฝ่ายความมั่นคง ออก Re X-Ray ผู้มีรายชื่อจากการทอดผ้าป่ายาเสพติด จำนวน 158 คนให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 20 ธันวาคม 2568

2. ส่งต่อผู้ป่วย/ผู้เสพ. ที่ผ่านกระบวนการ Re X-Ray เข้าสู่ระบบบำบัด  โดยให้จำแนกกลุ่มสี และส่งต่อให้กับ

2.1โรงพยาบาลนภาลัย

2.2 กองทุนแม่ของแผ่นดินในแต่ละหมู่บ้าน/ตำบล ตามหลัก CBTx และชุมชนบำบัด (สนง.พช.อ.รับดำเนินการ)





 

ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ของประชาชน อำเภอบางคนที....ฝ่ายความมั่นคงอำเภอบางคนที. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางคนที. เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง. กรณี นางสาวปรียานุช. ศุกรโยธิน ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 3 ตำบลบางคนที ได้รับแจ้งจากประชาชนว่ามีชายลักษณะคล้ายคนติดยาเสพติดถืออาวุธมีดเดินเข้าไปในสวนของชาวบ้าน.

 วันที่ 2 ธ.ค. 2568 เวลา 19.15 น. นายปริพล  ทัดแก้ว. นายอำเภอบางคนที  มอบหมายนางสาวปรียานุช  ศุกรโยธิน. ผู้ใหญ่บ้าน. หมู่ที่ 3 ตำบลบางคนที   พร้อมด้วยฝ่ายความมั่นคงอำเภอบางคนที. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางคนที. เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง. กรณี  นางสาวปรียานุช. ศุกรโยธิน  ผู้ใหญ่บ้าน  หมู่ที่ 3  ตำบลบางคนที  ได้รับแจ้งจากประชาชนว่ามีชายลักษณะคล้ายคนติดยาเสพติดถืออาวุธมีดเดินเข้าไปในสวนของชาวบ้าน.
ทำให้เจ้าของสวนเกิดความหวาดกลัว   เมื่อชุดทำงานไปถึง  ตรวจสอบบริเวณโดยรอบสวนแล้ว  ไม่พบว่าบุคคลดังกล่าวอยู่ในสวน  คาดว่าบุคคลดังกล่าวจะเดินข้ามฝั่งไปทางตำบลตาหลวง. อำเภอดำเนินสะดวกแล้ว   แต่อย่างไรก็ตาม หากมีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ให้เจ้าของสวน. แจ้งผู้ใหญ่บ้าน  เพื่อจะได้ประสาน จนท.ตำรวจ และฝ่ายความมั่นคงอำเภอบางคนที  เข้าดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

 

ททท. สำนักงานสุโขทัย เชิญชวนท่องเที่ยวชมงาน “ย้อนอดีตศรีสัชนาลัย นุ่งผ้าไทย ใส่เงิน-ทองลายโบราณ สืบสานวัฒนธรรมอันล้ำค่า ครั้งที่ 16 ประจำปี 2568”

  วันอังคารที่ 2 ธันวาคม 2568 เวลา 08.30 น. ณ หอประชุมที่ว่าการอำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย โดยอำเภอศรีสัชนาลัย ร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายภาครัฐภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดแถลงข่าวสื่อมวลชน เพื่อประชาสัมพันธ์เชิญชวนนักท่องเที่ยวร่วมสัมผัสประสบการณ์ย้อนยุคสุโขทัย ในงาน “ย้อนอดีตศรีสัชนาลัย นุ่งผ้าไทย ใส่เงิน-ทองลายโบราณ สืบสานวัฒนธรรมอันล้ำค่า ประจำปี 2568” ซึ่งกำหนดจัดในวันที่ 6 - 10 ธันวาคม 2568 ณ อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่ออนุรักษ์และสืบสานวัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิตคนไทยสมัยสุโขทัยของเมืองศรีสัชนาลัย และเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวให้นักท่องเที่ยวได้รับประสบการณ์สัมผัสบรรยากาศแบบย้อนยุคชมหมู่บ้านวัฒนธรรมของชาวอำเภอศรีสัชนาลัย ท่ามกลางบรรยากาศของโบราณสถานอันทรงคุณค่าและมีมนต์เสน่ห์ของวัฒนธรรมประเพณีพื้นถิ่นโบราณเมืองศรีสัชนาลัยในอดีต และเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย และเพื่อประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของอำเภอสรีสัชนาลัย ให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายมากยิ่งขึ้น
ซึ่งมีผู้ร่วมแถลงข่าวประกอบด้วย นายสมลักษ์ ยกน้อยวงษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย ได้รับมอบหมายจากนายายนพฤทธิ์  ศิริโกศล ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย เป็นประธานฯ นายเอกสิฏฐ์  วิไลศิลป์ นายอำเภอศรีสัชนาลัย นางฐิติญา จั่นเอี่ยม วัฒนธรรมจังหวัดสุโขทัย ว่าที่ร้อยตรีภาณุวัฒน์  ขัดนาค ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสุโขทัย และนายไชยา  บุญเกิด นายกเทศมนตรีเมืองศรีสัชนาลัย ร่วมการแถลงข่าวบนเวที โดยมี สื่อมวลชน หัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัด ระดับอำเภอ ตลอดจนผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว และผู้มีเกียรติร่วมในการแถลงข่าวกว่า 300 คน

สำหรับกิจกรรมภายในงาน“งานย้อนอดีตศรีสัชนาลัย นุ่งผ้าไทย ใส่เงินทองลายโบราณ สืบสานวัฒนธรรมอันล้ำค่า ครั้งที่ 16 ประจำปี 2568” มีกิจกรรมที่น่าสนใจมากกมาย อาทิ 

- ชมกิจกรรมวิถีชีวิตของศรีสัชนาลัยในอดีต 

- และชมหมู่บ้านวิถีไทยพื้นถิ่น ทั้ง 10 กลุ่มชาติพันธุ์ 

- ชมการแสดงเล่าเรื่อง “เมืองศรีสัชนาลัย” ประกอบแสง เสียง (Light & Sound) ทุกค่ำคืน 

- กิจกรรมเดินแบบแฟชั่นโชว์ผ้าพื้นเมือง รวมทั้งเครื่องประดับเงิน - ทอง ลายโบราณ 

- ชม ชิม ช๊อป สินค้า OTOP ที่หลากหลายมีคุณภาพ รวมทั้งอาหารพื้นถิ่นอร่อยๆ ราคาประหยัด ในบริเวณตลาดสินค้า OTOP และ ตลาดใครใคร่ค้าค้า และตลาดกลุ่มสตรี 

- ร่วมสวมใส่ผ้าไทย ใส่เครื่องประดับเงิน - ทอง ลายโบราณ ณ ดินแดนแห่งเมืองมรดกโลกศรีสัชนาลัย

- พร้อมทั้งร่วมจุดตะคันน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และน้อมถวายอาลัย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 1. ที่ว่าการอำเภอศรีสัชนาลัย โทร. 0 5567 1466  2.ททท.สำนักงานสุโขทัย โทร. 0 5561 2982 – 3 เฟซบุ๊ค ททท.สำนักงานสุโขทัย







 นายทศพล บุญพัฒน์ / แม่ฮ่องสอน / 0850309987

พระสงฆ์วัดบ้านนาปลาจาด ต.ห้วยผา อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ขับรถออกมาบนถนนเกิดยางหน้าระเบิด พุ่งเข้าชนรถเทรเลอร์บรรทุก รถส่งออกไปเมียนมาขากลับ อาการสาหัสล่าสุดไปมรณาภาพที่โรงพยาบาลศรีสังวาลย์แม่ฮ่องสอนในเวลาต่อมา

เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2568 เวลา 14.10 น.เจ้าหน้าที่ กู้ภัย อบต.ห้วยผา อ.เมืองแม่ฮ่องสอน ได้รับแจ้งเหตุมีรถยนต์กระบะ ชนกับกับรถเทรเลอร์บรรทุกรถยนต์ส่งออกไปเมียนมา บริเวณหน้าทางเข้าที่ทำการอุทยานแห่งชาติถ้ำปลา - น้ำตกผาเสื่อ ก่อนถึงบ้านนาปลาจาด  ตำบลห้วยผา อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน พบผู้ขับขี่รถกระบะ มีอาการสาหัส จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลศรีสังวาลย์ และได้แจ้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน จุดตรวจถ้ำปลา ไป ตรวจสอบเหตุเบื้องต้น และแจ้งร้อยเวรสอบสวนฯ ตรวจที่เกิดเหตุเพื่อดำเนินการต่อไป ต่อมาเวลา 15.40 น. สภ.เมืองฯ ได้รับแจ้งจาก รพ.ว่าผู้บาดเจ็บเสียชีวิตลงแล้ว แจ้งร้อยเวรสอบสวนฯ ตรวจชันสูตรพลิกศพเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
สำหรับผู้ที่เสียชีวิต เป็นชายอายุ  63 ปี เป็นพระลูกวัด วัดบ้านนาปลาจาด ต.ห้วยผา อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน โดยผู้ที่ขับรถตามรถของพระ ระบุว่า ได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นที่หน้ารถยนต์กระบะ ที่พระเป็นคนขับ จากนั้นรถคันดังกล่าวได้พุ่งเข้าชนรถบรรทุกเทรเลอร์ ที่กลับจากขนลำเลียง รถยนต์ส่งออกไปเมียนมา ช่องทางบ้านห้วยผึ้ง ต.ห้วยผา ฯ




นายทศพล บุญพัฒน์ / แม่ฮ่องสอน / 0850309987