Top News/ข่าวยอดนิยม

Recent News/ข่าวล่าสุด

วุฒิสภาเปิดแคมเปญใหญ่ “หยุดความรุนแรง” กระตุ้นทั้งสังคมลุกขึ้นปกป้องเด็ก-สตรี-ผู้สูงอายุ

  วันที่ 27 พ.ย. 2568 บริเวณโถงชั้น 1 อาคารรัฐสภา ฝั่งวุฒิสภา คณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคม และกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ ผู้ด้อยโอกาส และความหลากหลายทางสังคม วุฒิสภา นำโดย นางวราภัสร์ ไพพรรณรัตน์ ประธาน กมธ. พร้อมด้วย นางวาสนา ยศสอน รองเลขานุการคณะกรรมาธิการ คนที่หนึ่ง และคณะกรรมาธิการฯ จัดกิจกรรมประกาศเจตนารมณ์รณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว โชว์พลังเชิงสัญลักษณ์ให้เห็นชัดว่า “สังคมไทยต้องไม่ยอมรับความรุนแรงทุกรูปแบบ”

นางวราภัสร์ ระบุว่า ปัญหาความรุนแรงในครอบครัวเป็น “ภัยเงียบ” ที่ฝังรากลึกในสังคมไทย แม้รัฐจะออกกฎหมายและมาตรการหลายด้าน แต่สถานการณ์กลับรุนแรงขึ้น โดยกลุ่มเสี่ยงอย่างเด็ก สตรี ผู้สูงอายุ และคนพิการยังคงตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก กมธ.จึงติดตามประสานทุกหน่วยงาน เพื่อผลักดันมาตรการป้องกัน คุ้มครอง และฟื้นฟูให้มีประสิทธิภาพอย่างจริงจังประธาน กมธ. ย้ำว่า พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ถูกกระทำความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. 2550 ที่ใช้มากว่า 18 ปี แม้มีเจตนาดี แต่ยังเน้นแนวทาง “ประนีประนอมให้กลับไปใช้ชีวิตร่วมกัน” มากกว่าการเอาผิดผู้กระทำ ส่งผลให้ผู้เสียหายจำนวนมากต้องวนกลับสู่สภาพแวดล้อมเดิม เสี่ยงเกิดเหตุซ้ำ


 “ถึงเวลาต้องเร่งปรับปรุงกฎหมายให้ทันยุค” นางวราภัสร์กล่าว “เพื่อให้ทุกคนได้รับการคุ้มครองอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยจริง ไม่ใช่แค่บนเอกสาร”

เธอฝากถึงประชาชนด้วยว่า สังคมต้องร่วมกันสร้างวัฒนธรรม “ไม่ยอมรับความรุนแรง” การนิ่งเฉยในบางกรณีอาจถือเป็นความผิดตามกฎหมาย พร้อมย้ำว่า

“การยุติความรุนแรง ไม่ใช่หน้าที่ของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นความรับผิดชอบร่วมกันของเราทุกคน”

สมาคมเพื่อนชุมชนจัดสัมมนาเครือข่ายเฝ้าระวังสิ่งแวดล้อม ชูโมเดล “Meesook Farm” แบ่งปันความสำเร็จยั่งยืน

เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 สมาคมเพื่อนชุมชน (Community Partnership Association : CPA) จัดโครงการ “สัมมนาเครือข่ายเฝ้าระวังสิ่งแวดล้อม” เพื่อเปิดพื้นที่แลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์ด้านการดูแลสิ่งแวดล้อม และยกระดับการทำงานระหว่างชุมชน ภาคอุตสาหกรรม และหน่วยงานรัฐให้เกิดผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรม
ในการสัมมนาครั้งนี้ ผู้เข้าร่วมได้ศึกษาต้นแบบความสำเร็จของ Meesook Farm วิสาหกิจชุมชนผลิตไม้กฤษณา ตำบลกะเฉด จังหวัดระยอง ที่สามารถพัฒนาเกษตรชุมชนควบคู่กับการรักษาสิ่งแวดล้อมได้อย่างสมดุล โดยเป็นกรณีศึกษาที่สามารถวัดผลจริงและต่อยอดองค์ความรู้ให้กับพื้นที่อื่น ๆ ได้
สมาคมเพื่อนชุมชน (CPA) ร่วมกับการนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด (IEAT) และผู้ประกอบการในมาบตาพุดคอมเพล็กซ์ ย้ำความสำคัญของการสร้าง “เครือข่ายเฝ้าระวังสิ่งแวดล้อม” ด้วยการทำงานเชิงรุก สร้างความเข้าใจในบทบาทของทุกฝ่าย พร้อมผลักดันให้เกิดการพัฒนา แก้ไข และปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ชุมชนและภาคอุตสาหกรรมอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน

โครงการครั้งนี้สะท้อนพลังของความร่วมมือทุกภาคส่วนที่มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตและการดูแลสิ่งแวดล้อมของชาวระยองให้ดียิ่งขึ้นบ้านเราน่าอยู่สังคมยั่งยืน #สมาคมเพื่อนชุมชน #สัมมนาเครือข่ายเฝ้าระวังสิ่งแวดล้อม #พลังความร่วมมือ #MeesookFarm




 

ลำพูน - รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน แสดงความยินดีความสำเร็จของโครงการ กิจกรรมงานแสดงศักยภาพ SME ลำพูนและจับคู่ทางธุรกิจ(Business Matching)

รองผู้ว่าฯ ลำพูน แสดงความยินดีความสำเร็จของโครงการ กิจกรรมงานแสดงศักยภาพ SME ลำพูนและจับคู่ทางธุรกิจ(Business Matching) ที่จะช่วยยกระดับการพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้สามารถเชื่อมโยงกับโรงงาน ขนาดใหญ่ต่อยอดสู่การเป็น Supply Chian
ที่ห้องประชุมโชควัฒนา สวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์ จังหวัดลำพูน นายปิยพงศ์ ชูวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เป็นประธานในพิธีปิด และกล่าวแสดงความยินดีความสำเร็จของโครงการ กิจกรรมงานแสดงศักยภาพ SME ลำพูน และจับคู่ทางธุรกิจ(Business Matching) ภายใต้โครงการพัฒนาและเชื่อมโยงผู้ประกอบการอุตสาหกรรมขนาดใหญ่และ SME จังหวัด โดยมี นายพงษ์เกษม  โพธิ์แก้ว อุตสาหกรรมจังหวัดลำพูน ประธานกิตติมศักดิ์สภาอุตสาหกรรมจังหวัดลำพูน ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมรายใหญ่ หน่วยงาน ภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้ประกอบการ ในพื้นที่จังหวัดลำพูน เข้าร่วมฯ
ตามที่จังหวัดลำพูน ได้มอบหมายให้สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดลำพูน ดำเนินโครงการ ดังกล่าว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาศักยภาพ และสร้างเครือข่ายธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการ อุตสาหกรรมรายใหญ่และ SME จังหวัดลำพูน เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2568 จนถึงวันนี้(28 พ.ย.)เป็นการดำเนินกิจกรรมสุดท้าย โครงการประกอบด้วย 4 กิจกรรม ได้แก่ กิจกรรมการประชาสัมพันธ์ รับสมัคร และคัดเลือกสถานประกอบการเข้าร่วม โครงการฯ โดยมีผู้ประกอบการ SME ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วม จำนวน 21 ราย กิจกรรมสร้างเครือข่ายสถานประกอบการอุตสาหกรรมขนาดใหญ่และ SME จังหวัดลำพูน โดยมีสถานประกอบอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ เข้าร่วม 7 ราย และ SME 21 ราย กิจกรรมสัมมนาเสริมสร้างองค์ความรู้(ด้านกระบวนการผลิต/การบริหารจัดการ/การตลาด) และศึกษาดูงานสถานประกอบการอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ 2 แห่ง ณ บริษัท ฮานาไมโครอิเล็คโทรนิคส์ จำกัด(มหาชน) และ บริษัท ลำพูน ซิงเดนเก็น จำกัด และกิจกรรมงานแสดงศักยภาพ SME ลำพูน และจับคู่ทางธุรกิจ(Business Matching) ได้จัดขึ้นในวันนี้(28 พ.ย. 68) เพื่อจัดแสดงศักยภาพของอุตสาหกรรมในจังหวัดลำพูน มีผู้ประกอบการ อุตสาหกรรม SME จำนวน 21 สถานประกอบการได้นำผลิตภัณฑ์และบริการภาคอุตสาหกรรม มานำเสนอภายในงาน และสถานประกอบการอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ จำนวน 7 สถานประกอบการ ร่วมเชื่อมโยงกับ SME ในกิจกรรมจับคู่ทางธุรกิจเพื่อต่อยอดไปสู่การเป็นคู่ค้าทางธุรกิจต่อไปในอนาคต
จากนั้น นายปิยพงษ์  ชูวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ได้กล่าวแสดงความยินดีกับความสำเร็จของโครงการพัฒนาและ เชื่อมโยงผู้ประกอบการอุตสาหกรรมขนาดใหญ่และ SME จังหวัดลำพูน ในวันนี้(28 พ.ย.) ว่า จากการดำเนินโครงการนี้ นับเป็นโครงการที่ดีในการสร้าง ความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งอุตสาหกรรมจังหวัด สภาอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานประกอบการอุตสาหกรรมขนาดใหญ่และผู้ประกอบการ SME ในพื้นที่ ที่จะช่วยยกระดับการพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้สามารถเชื่อมโยงกับโรงงาน ขนาดใหญ่ต่อยอดสู่การเป็น Supply Chian คู่ค้าทางธุรกิจซึ่งกันและกันต่อไป ซึ่งเป็นกลไกสำคัญ ที่จะช่วยให้การพัฒนาเศรษฐกิจของจังหวัดให้เติบโตร่วมกันได้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้สู่พื้นที่ อย่างเข้มแข็ง สมดุล และยั่งยืน..
ด้าน นายภาวิกร  ยศพิมสาร ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดลำพูน กล่าวว่า ในนามของ สภาอุตสาหกรรมจังหวัดลำพูน เป็นหน่วยงานที่ร่วมดำเนินการโครงการนี้ กับ สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดลำพูน มาตั้งแต่ ปี พุทธศักราช 2566 จนถึงปัจจุบัน การจัดโครงการนี้ เป็นปีที่ 3 แล้ว โดยมีเป้าหมายสำคัญเพื่อสร้างความร่วมมือทางธุรกิจระหว่างภาคอุตสาหกรรมรายใหญ่กับ ผู้ประกอบการ SME ในจังหวัดลำพูน เพื่อให้เกิดการถ่ายทอดองค์ความรู้ เทคโนโลยี การบริหาร จัดการที่มีประสิทธิภาพ และสร้างเครือข่ายความร่วมมือในห่วงโซ่อุปทานระหว่างอุตสาหกรรม รายใหญ่ และ SME ในจังหวัดลำพูน นำไปสู่การพัฒนาขีดความสามารถในการประกอบการและ เชื่อมโยงธุรกิจ เกิดการสร้างงานและกระจายรายได้ให้จังหวัดลำพูนมากยิ่งขึ้น
ผมเชื่อมั่นว่ากิจกรรมในวันนี้ จะช่วยเสริมสร้างโอกาสในการเชื่อมโยงธุรกิจ และ เป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือที่มั่นคงระหว่างภาคอุตสาหกรรมรายใหญ่และ SME เพื่อขับเคลื่อน เศรษฐกิจของจังหวัดลำพูนให้เติบโตอย่างยั่งยืน ต่อไป..





 กรรณิการ์  วิจิตรสกลการ ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดลำพูน

สุทธิสม  น้อยหา ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดลำพูน

ศูนย์ข่าวภาคเหนือ รายงาน

ช่างซ่อมจยย.ไอเดียล้ำ! ประกอบ “หุ่นยนต์โลโก้ร้าน” จากเศษอะไหล่เก่า ใช้เป็นของขวัญปีใหม่ให้ลูกสุดรัก

ระยอง – ช่างซ่อมรถจักรยานยนต์ย่านสายโขดกลาง บ้านเพ โชว์ไอเดียสุดสร้างสรรค์ หยิบเศษวัสดุและอะไหล่เก่าที่เหลือจากงานซ่อม มาประกอบร่างเป็น “หุ่นยนต์โลโก้ประจำร้าน” สุดเท่ แถมทำเป็นของขวัญปีใหม่ให้ลูกชายไปในตัว สร้างความฮือฮาให้กับลูกค้าและชาวบ้านที่ผ่านไปมา
วันที่ 28 พ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร้านซ่อมมอเตอร์ไซค์ในพื้นทีีบ้านโขดกลาง ต.เพ  อ.เมือง จ.ระยอง แม้จะยังไม่มีชื่อร้านอย่างเป็นทางการ แต่ผลงานสุดโดดเด่นของเจ้าของร้าน ทำให้เป็นที่รู้จักในย่านนี้อย่างรวดเร็ว โดยเจ้าของร้านคือ นายนิกร นันเสียง หรือชื่อเล่น ช่างคิว ผู้มีความหลงใหลในงานประดิษฐ์และชื่นชอบหุ่นยนต์มาตั้งแต่เด็ก

ช่างคิวเผยว่า ระหว่างทำงานซ่อมรถแต่ละวันมักมีอะไหล่เก่า เศษเหล็ก และชิ้นส่วนที่ไม่ใช้แล้วจำนวนมาก เขาจึงปิ๊งไอเดียลองนำมาประกอบร่างเป็นหุ่นยนต์หนึ่งตัว โดยนำโครงรถจักรยานยนต์อีกหนึ่งคันที่ปลดระวางแล้ว มาผสมผสานเข้ากับเศษอะไหล่ให้กลายเป็น “หุ่นยนต์ตัวเอก” ของร้าน

“ตั้งใจทำไว้ตั้งเป็นโลโก้ร้าน เพราะอยากให้ลูกค้ามองแล้วจำได้ อีกอย่างใกล้ปีใหม่ด้วย ก็อยากทำเป็นของขวัญให้ลูก เขาชอบหุ่นยนต์มาก เห็นพ่อทำก็ยิ่งดีใจใหญ่” ช่างคิวเล่าอย่างภูมิใจ

หลังหุ่นยนต์เสร็จสมบูรณ์ ถูกตั้งโชว์หน้าร้าน ก็เรียกเสียงฮือฮา ลูกค้าหลายคนแวะมาถ่ายรูป บางรายเสนอซื้อ แต่ช่างคิวยืนยันว่าขอเก็บไว้เป็นสัญลักษณ์ร้านและของขวัญสำหรับลูกชายเท่านั้น

ถือเป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจของช่างฝีมือท้องถิ่น ที่นำความคิดสร้างสรรค์มาต่อยอดจากเศษวัสดุเหลือใช้ สร้างเอกลักษณ์ให้ร้าน และสร้างความสุขให้ครอบครัวไปพร้อมกัน.

 

นครปฐม // พร้อมรับเทศกาลแห่งความสุข !! ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ศาลายา ฉลองเปิดไฟต้นคริสต์มาส อัตลักษณ์ "Salaya Melody of Orchid" ต้นแรกของไทย พร้อมจัดงาน The Sense of Orchid 2025 ชมความอลังการประติมากรรมดอกกล้วยไม้นับแสนดอก

วันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 เวลา 18.30 น. ณ ลานกิจกรรมหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลศาลายา จังหวัดนครปฐม ศูนย์การค้าเซ็น ทรัล ศาลายา ร่วมกับ แอร์ออร์คิดส์ และพันธมิตรชั้นนำ ตอกย้ำศักยภาพจังหวัดนครปฐม ในฐานะแหล่งปลูกกล้วยไม้ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ เนรมิต "ต้นคริสต์มาสอัตลักษณ์ท้องถิ่น ต้นแรกในประเทศ ไทยสัญลักษณ์แห่งความงามและความภาคภูมิใจของจังหวัดนคร ปฐม ที่ร้อยเรียงจากดอกกล้วยไม้ 6 สาย พันธุ์ ในชื่อ Salaya Melody of orchid ความสูงกว่า 15 เมตร ประดับด้วยสัญลักษณ์นกยูงประจำพระองค์ เพื่อสืบสานพระปณิธานและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของ สมเด็จพระ นางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ผู้ทรงเป็นองค์อุปถัมภ์การอนุรกษ์กล้วยไม้ไทย พร้อมกันนี้ยังได้จัดงาน The Sense of Orchid 2025" ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 ชมความงดงามของประติมากรรมดอกกล้วยไม้อลังการนับแสนดอกภายในงานเปิดไฟต้นคริสต์มาสได้รับเกียรติจาก คุณอโรชา นันทมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนคร ปฐม
เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วย คุณพิมพ์ภัทรา จันทร์หรัญ ผู้จัดการทั่วไป ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ศาลายา , คุณนั้นทพร เทพเท วิน ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด GBKK บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) , คุณจุไรรัตน์ ชัยทวีทรัพย์ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานราช บุรี , คุณธนนันท์ ศรีสุวะ เกษตรจังหวัดนครปฐม คุณรัฐชญา วัฒนกุล รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม คุณสมพงษ์ ทวีสุข นายกสมาคมผู้ปลูกกล้วยไม้ไทย จังหวัดนครปฐม พร้อมชมมินิคอนเสิร์ตจาก ATLAS ณ ลานกิจกรรมหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลศาลายา
"ต้นคริสต์มาสอัตลักษณ์ Salaya Melody of Orchid" สร้างสรรคขึ้นด้วยแรงบันดาลใจจากกล้วยไม้ 6 สายพันธุ์หลักที่นิยมปลูกในจังหวัดนครปฐม เช่น สกุลหวาย, แคทลียา, แวนด้า, ฟาแลนนอปชิส, สกุลช้าง และ ม็อคคาร่าโดยเฉพาะ แคทลียาควีนสิริกิตต์ (Cattleya Queen Sirikit) เป็นไฮไลต์สำคัญในการจัดสร้าง เพื่อสื่อถึงพระเมตตาและความงามที่พระองค์ทรงหล่อเลี้ยงไว้ในแผ่นดิน ซึ่งตำบลศาลายา จังหวัดนครปฐม ถือเป็นพื้นที่ปลูกกล้วยไม้ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ มีมูลค่าการส่งออกสูงถึงประมาณ 1,253 ล้านบาทต่อปีนอกจากความวิจิตรของต้นคริสต์มาส ซึ่งเป็น 1 ใน 9 ต้นคริสต์มาสอัตลักษณ์ท้องถิ่นในโครงการสร้างสรรค์ทั่วประเทศแล้ว ภายในงานยังจัดแสดงนิทรรศการหาชมยาก "6 กล้วยไม้สายพันธุ์พระราชทานนาม ราช วงศ์จักรี" อาทิชมพูนครินทณ์, รักตสิริน, ม่วงราชกุมารี, โสมสวลี, ควีนสิริกิตต์ และช้างสีน้ำเงิน เพื่อให้ประชาชนได้ร่วมสัมผัสความงดงามและศึกษาเรื่องราวของ "บทเพลงแห่งกล้วยไม้ ถวายแด่พระแม่แห่งแผ่นดิน" ทั้งนี้ งาน The Sense of Orchid 2025 เกิดจากความร่วมมือของหลายภาคส่วน ทั้งจังหวัดนครปฐม, ททท. สำนัก งานราชบุรี, สำนักงานเกษตรจังหวัด, สมาคมผู้ประกอบการสวนกล้วยไม้ไทย, แอร์ออร์คิดส์ และหอการค้าจังหวัดนครปฐม เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวท้องถิ่นในช่วงไฮซีชั่น
งานแสดงนิทรรศการกล้วยไม้สายพันธุ์พระราชทานนามฯ จัดแสดงระหว่างวันที่ 27 พฤศจิกายน - 3 ธันวาคม 2568และ "ต้นคริสต์มาสกล้วยไม้ Salaya Melody of Orchid" จัดแสดงตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน 2568- 5 มกราคม 2569 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ศาลายา


สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม ภาพ/ข่าว
 

ตำรวจ 191 ตัดเส้นทรงลำเลียง รวบนักบินรถบรรทุก ควบ “ม้า 5 ล้านเม็ด” กลางถนนนครสวรรค์ ขณะลำเลียงยานรก จากภาคเหนือสู่ภาคกลาง มูลค่าแตะ 150 ล้าน

  เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 28 พฤศจิกายน 2568 ที่อาคารศึกษาอบรม บก.สปพ. 191 พล.ต.ท.สยาม  บุญสม ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.วรวิทย์  ญาณจินดา ผบก.สปพ. ร่วมแถลงผลการจับกุมขบวนการลำเลียงยาเสพติดจากภาคเหนือสู่ภาคกลาง มูลค่า 150 ล้าน โดยตำรวจนครบาล เปิดปฏิบัติการเช้าตรู่สะเทือนเครือข่ายค้ายา เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 27 พ.ย. 2568

เปิดปฏิบัติการเช้าตรู่ เริ่มขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่ สปพ.191 ผสานกำลังหน่วยข่าวกรองทหาร บุกสกัดรถบรรทุก 12 ล้อ ฮีโน่สีเขียว บริเวณถนนหน้า ม.มหิดล วิทยาเขตนครสวรรค์ หลังสะกดรอยข้ามคืนตั้งแต่เชียงใหม่ ก่อนรวบ “นายสมนึก” วัย 45 ปี พร้อมยาบ้าอัดแน่น 25 กระสอบ รวมกว่า 5,000,000 เม็ด มูลค่ากว่า 150 ล้านบาท
ปฏิบัติการครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายเร่งกวาดล้างอาชญากรรมร้ายแรงของรัฐบาล “อนุทิน ชาญวีรกูล” และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.สำราญ นวลมา รอง ผบ.ตร./ผอ.ศอ.ปส.ตร. และ พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้ช่วย ผบ.ตร. สั่งการเข้มจัดการเครือข่ายขน ขายยาเสพติดที่สร้างผลกระทบต่อความมั่นคงและประชาชน
ปฏิบัติการเริ่มจากชุดสืบสวน ชปส.บก.สปพ. และหน่วยข่าวกรองกองทัพบก รับข้อมูลสำคัญว่า เครือข่ายใหญ่เตรียมลำเลียงยาเสพติดจาก จ.เชียงใหม่ ใช้รถบรรทุกสิบสองล้อคอกสูง ทะเบียนสระบุรี เป็นพาหนะหลัก ส่งต่อเข้าพื้นที่ภาคกลาง

ในช่วงค่ำวันที่ 26 พ.ย. เจ้าหน้าที่พบรถต้องสงสัยขับออกจากเชียงใหม่เวลา 22.00 น. เคลื่อนตัวหลบเส้นทางหลัก ใช้ถนนรองซอกแทรกเข้าพื้นที่นครสวรรค์ ลักษณะผิดสังเกตทุกช่วงทาง ทำให้ทีมสะกดรอยเชื่อว่ารถคันนี้ “บรรทุกของผิดกฎหมายเต็มพิกัด”กระทั่งเช้าวันรุ่งขึ้น (27 พ.ย.) เมื่อรถขับถึงหน้ามหาวิทยาลัยมหิดลฯ นครสวรรค์ ชุดปฏิบัติการจึงเผยตัวเข้าตรวจค้นทันที พบกระสอบป่าน 25 ใบซุกอยู่ท้ายกระบะคอก ภายในอัดเม็ดยาบ้าสีส้มทะลักอื้อ แสดงให้เห็นว่าเพิ่งรับมาจากพื้นที่เหนือเพื่อส่งต่อเข้ากลางประเทศตามขบวนการ


 ผู้ต้องหาถูกแจ้งข้อหา “จำหน่ายและมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้เพื่อการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต” ซึ่งเป็นความผิดร้ายแรงตามนโยบายรัฐบาล ก่อนคุมตัวส่งดำเนินคดี พร้อมขยายผลตามล่าเครือข่ายต้นปลายทางทั้งหมดด้าน พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. ระบุว่า การจับครั้งนี้ถือเป็น “ของกลางล็อตใหญ่” ที่ป้องกันไม่ให้ยาเสพติดทะลักเข้าชุมชนได้หลายจังหวัด ย้ำว่าตำรวจและทหารจะเดินหน้าปิดประตูทุกเส้นทางลำเลียง พร้อมเร่งขยายผลถึงขบวนการเบื้องหลังทั้งหมดปฏิบัติการนี้สร้างสัญญาณชัดเจนว่า “ทางหลวงภาคเหนือและภาคกลาง” ไม่ใช่ทางผ่านของพ่อค้ายาอีกต่อไป เมื่อกำลังตำรวจ ทหาร จับมือกันแน่นหนา และจะเดินหน้าไล่ต้อนเครือข่ายทุกระดับจนหมดรูหลบซ่อน

“Quick Big Win : และ มหาดไทย ทำ ทัน ที Action 5 ปฏิบัติการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหายาเสพติดอำเภอบางคนที ( นอกบัญชีรายชื่อ การทอดผ้าป่ายาเสพติด)

  วันที่ 28 พ.ย.2568 ตั้งแต่เวลา 06.00 น. เป็นต้นไป นายปริพล  ทัดแก้ว. นายอำเภอบางคนที พร้อมด้วย  พ.ต.อ.เพชรกล้า ทวีกาญจน์  ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบางคนที มอบหมาย

ชุดเฉพาะกิจ ประกอบด้วย

1. นายถนอมรัตน์ บุญตน กำนันตำบลบางนกแขวก

2. นายสายชล  ภาณุมาศ  กำนันตำบลขุนพิทักษ์

3.ร.ต.ท.มาโนชบุญประกอบ รองสวป.สภ.บางคนที

4.ร.ต.ท. สมพงศ์ พ่วงทอง  รอง สวป.สภ.บางคนที

5. นายอมร  ยอดพินิจ  สารวัตรกำนันตำบลดอนมะโนรา

6. นายนพดล  ธนิตกุล  สารวัตรกำนันตำบลดอนมะโนรา

7. มญ.พันธศักดิ์. แย้มนาม จ่ากองร้อย  อส.อ.บางคนที 

8.ม.อ. พิพัฒน์ เต็งวิวัฒนะพานิช ชุดปฏิบัติการฯ   ร้อย อส.อ.บางคนที     

9. นายสัญญา บุญสังข์ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน  หมู่ที่ 1 ตำบลบางกุ้ง

10. นายสมศักดิ์  เสรีสำราญ ชรบ.ตำบลโรงหีบ

11. นางชลธิชา โรจนประดิษฐ์. ประชาชนจิตอาสา.     ตำบลบางกระบือ


ฝ่ายความมั่นคงอำเภอบางคนที  ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน  สภ.บางคนที  ตรวจสอบเรื่องร้องเรียนจากประชาชนเกี่ยวกับผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด  ในพื้นที่ตำบลดอนมะโนรา  โดยชุดทำงานฯ. ได้นำหมายค้นศาลจังหวัดสมุทรสงคราม. เข้าตรวจสอบบ้านบุคคลเป้าหมาย. ผลการปฏิบัติ  ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด. แต่อย่างไรก็ตามชุดทำงานฯ  จะได้เฝ้าตรวจสอบ/หาข่าว. และดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป








 

กาฬสินธุ์ กศจ.ประชุมแจ้งวาระการแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิและการหาความสมัครใจโอนโรงเรียนในสังกัดสพฐ.ไปสังกัด อปท.

    วันที่27 พฤศจิกายน 2568 เวลา 09.30น. ที่ห้องประชุมสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดกาฬสินธุ์  นายธนภัทร ณ ระนอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดกาฬสินธุ์(กศจ.) พร้อมด้วยนางอรัญญา อินอ่อน ศึกษาธิการจังหวัดกาฬสินธุ์  และคณะกรรมการ กศจ.

      ประกอบด้วยศึกษาธิการภาค12 ผู้แทนสพฐ. ผู้แทน  สอศ. ผู้แทน อาชีวะ ผู้แทน ก.ค.ศ. ผู้แทน  สช. ผู้แทน  สกร. ผู้ทรงคุณวุฒิภาคเอกชน  ผู้ทรงคุณวุฒิภาคองค์กรวิชาชีพ ผู้ทรงคุณวุฒิภาคประชาชน และผู้ทรงคุณวุฒิด้านการศึกษา

    นายธนภัทร ณ ระนอง ประธานในที่ประชุม ได้แจ้งคำสั่งกระทรวงศึกษาธิการเรื่องการแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดกาฬสินธุ์ โดย ศาสตราจารย์นฤมล ภิญโญสินวัฒน์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับการแต่งตั้งประกอบด้วย

 1. พลตำรวจตรี มนตรี จรัลพงศ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ(ผู้แทนองค์กรภาคเอกชน)

  2. นายประยูร มังสังคำ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ(ผู้แทนองค์กรวิชาชีพ)

  3. นายสุวรรณ บัวพันธ์กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ(ผู้แทนภาคประชาชน)

  4. นายสมบูรณ์ นาสาทร คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ(ผู้แทนภาคประชาชน)

  5. นายสิทธิพร ไกยเดช กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ(ด้านการศึกษา)

  6. นายกุลธวัช จันทร์ประทักษ์  กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านการศึกษา)

  ครั้งนี้ ในที่ประชุมได้ขอความเห็นชอบคัดเลือกคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.)เพื่อมาเป็นอนุกรรมการผู้แทน กศจ.ในอ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึษาที่ว่าง ซึ่งประกอบด้วย อ.ก.ค.ศ. ของ  สพป. กาฬสินธุ์ เขต1 และ อ.ก.ค.ศ.ของสพม.กาฬสินธุ์ 

ผลการคัดเลือกได้ นายกุลธวัช  จันทร์ประทักษ์ เป็นอ.ก.ค.ศ.สพม.และได้ นายประยูร      มังสังคำ เป็น  อ.ก.ค.ศ.สพป.กาฬสินธุ์  เขต1  นอกจากนี้ยังมีวาระเรื่องการดำเนินการหาความสมัครใจให้โอนสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ไปสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ของโรงเรียนสหัสขันธ์ วิทยาคม ผลการดำเนินการปรากฏว่า โรงเรียนสหัสขันธ์วิทยาคม ไม่สมัครใจให้โอนสถานศึกษา ไปสังกัดเทศบาลตำบลโนนบุรี

 นายธนภัทร ณ ระนอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ประธานในที่ประชุมกล่าวว่า วันนี้ก็มีเรื่อง การประชุมของคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดกาฬสินธุ์  มีวาระที่สำคัญคือการแต่งตั้ง คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ของศึกษาธิการจังหวัด และคณะอนุกรรมการต่างๆ ที่จะต้องมาบริหารในคณะ กศจ.ของเรา ต้องขอบคุณคณะกรรมการทุกท่านที่ได้มาร่วมประชุม และได้แสดงความคิดเห็นเพื่อที่จะสร้างระบบการศึกษาของจังหวัดกาฬสินธุ์ให้ดีขึ้น ขอบคุณมากครับ

ข่าวทีวีนิวส์24กาฬสินธุ์

สมบูรณ์ นาสาทร ภาพข่าว

อนงค์ นาสาทร รายงาน