Recent News/ข่าวล่าสุด

นนทบุรี “สมนึก” ดัน “กอล์ฟ ดาราวรรณ” เขต 3 พรรคเพื่อไทย เปิดศูนย์ประสานงานรับเรื่องร้องทุกข์

นนทบุรี “สมนึก” ดัน “กอล์ฟ ดาราวรรณ” เขต 3 พรรคเพื่อไทย เปิดศูนย์ประสานงานรับเรื่องร้องทุกข์

     นายสมนึก ธนเดชากุล นายกเทศมนตรีเทศบาลนครนนทบุรี ได้ให้เกียรติเป็นประธานเปิดศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทย เขต 3 นนทบุรี ต.บางคูเวียง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี โดยมี ดร.ดาราวรรณ อัจฉริยะประสิทธิ์ (กอล์ฟ) เป็นตัวแทนของพรรคเพื่อไทย ลงสมัครเขต 3 ได้แก่ อำเภอบางกรวย อำเภอเมือง (ตำบลบางไผ่) อย่างเป็นทางการ ซึ่งภายในงานมีประชาชน ผู้สนับสนุน และตัวแทนชุมชน เข้าร่วมรับฟังนโยบายอย่างต่อเนื่อง สะท้อนความเชื่อมั่นต่อบทบาทของผู้สมัครฯในการขับเคลื่อนนโยบายเพื่อประชาชน

     ดร.ดาราวรรณ (กอล์ฟ) กล่าวว่า วันนี้ได้มีการเปิดศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทย เขต 3 นนทบุรี ได้แก่ อำเภอบางกรวย อำเภอเมือง (ตำบลบางไผ่) อย่างเป็นทางการ เพื่อใช้เป็นพื้นที่ในการติดต่อประสานงานกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ และพร้อมเป็นจุดรับเรื่องร้องเรียน ร้องทุกข์ ปัญหาต่าง ๆ รับฟังเสียงสะท้อนของคนในชุมชนอย่างใกล้ชิด ทั้งด้านสวัสดิการ เศรษฐกิจ และพัฒนาคุณภาพชีวิตในภาพรวม เพื่อรวบรวมข้อมูลไปสู่การผลักดันนโยบายในระดับจังหวัด และระดับประเทศ

     นายสมนึก กล่าวว่า วันนี้ตนได้มาเปิดศูนย์พรรคเพื่อไทย เขต 3 นนทบุรี โดยมีผู้สมัคร คือ คุณดาราวรรณ อัจฉริยะประสิทธิ์ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก นายพงษ์ศักดิ์ อัจฉริยะประสิทธิ์ นายกเทศมนตรีเมืองปลายบาง และ นางวไลพร อัจฉริยะประสิทธิ์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนนทบุรี สังกัดพรรคเพื่อไทย ให้การสนับสนุน ซึ่งถือเป็นลูกหลาน เป็นตัวแทนของพี่น้องชาวบางกรวย ที่พร้อมขับเคลื่อนนโยบายพรรคเชื่อมต่อกับประชาชน







ร้อยเอ็ด เปิดการอบรม “Pink Room For Children” รุ่นที่ 2 ประจำปี 2568 เสริมเกราะคุ้มครองเด็กอย่างเป็นระบบ

วันที่ 25 พฤศจิกายน 2568 เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมชั้น 1 โรงแรมเอ็มแกรนด์ จังหวัดร้อยเอ็ด นายชัชวาลย์  เบญจสิริวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด มอบหมายให้ นายพิชัยยา ตุระซอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานพิธีเปิดโครงการ Pink Room For Children ประจำปี 2568 รุ่นที่ 2 โดยมี หัวหน้าส่วนราชการ ผู้ทรงคุณวุฒิ เครือข่ายภาคีด้านสวัสดิการเด็ก ตลอดจนบุคลากรทางการศึกษาและแกนนำเยาวชน เข้าร่วมฯประเทศไทยขับเคลื่อนงานคุ้มครองเด็กภายใต้วิสัยทัศน์ “เด็กทุกคนอยู่ดี มีสุข ปลอดภัย” ตามยุทธศาสตร์การคุ้มครองเด็กแห่งชาติ พ.ศ. 2560–2564 ซึ่งเน้นระบบคุ้มครองเด็กแบบเชิงรุกและเชิงบูรณาการ พร้อมสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยในครอบครัว ชุมชน และสังคม บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดร้อยเอ็ด ได้ให้ความช่วยเหลือเด็กและผู้ประสบปัญหาทางสังคมกว่า 1,250 รายในปี 2567 หลายกรณีเป็นเหตุเร่งด่วนภายใน 24 ชั่วโมง
จึงจำเป็นต้องสร้างเครือข่ายแกนนำในพื้นที่ เพื่อเพิ่มศักยภาพการคุ้มครองและสวัสดิการเด็กอย่างทั่วถึงและยั่งยืน “Pink Room For Children” ในสถานศึกษาและศูนย์เด็กเล็ก เป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการคุ้มครองเด็ก เพราะช่วยให้เกิดกระบวนการดูแล สงเคราะห์ และส่งต่อช่วยเหลือเด็กอย่างเป็นระบบ สอดคล้องกับทิศทางพัฒนาคุณภาพชีวิตของจังหวัดร้อยเอ็ด ปี 2566–2570 ที่มุ่งดูแลคนทุกช่วงวัย โครงการ Pink Room For Children รุ่นที่ 1 จัดขึ้นตลอดทั้งวัน พร้อมกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการ การให้ความรู้ด้านสวัสดิการเด็ก และการเสริมพลังให้เยาวชนเป็นแกนนำด้านการคุ้มครองเด็กในชุมชนต่อไป สำหรับโครงการ Pink Room For Children ประจำปี 2568 มีวัตถุประสงค์เพื่อ สร้างกลไกสวัสดิการเด็กและเยาวชนอย่างเป็นรูปธรรม, พัฒนาศักยภาพบุคลากรที่ทำงานด้านเด็กและเยาวชน รวมถึงเสริมความเข้าใจเกี่ยวกับระบบสวัสดิการสังคมที่ถูกต้อง รุ่นที่ 1 มีผู้เข้าร่วม 100 คน ประกอบด้วยแกนนำเยาวชนอายุ 16–18 ปี จำนวน 25 คน และบุคลากรทางการศึกษา 75 คน รวมถึงโรงเรียน ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
////คมกฤช พวงศรีเคน ข่าว/ภาพ ผู้สื่อข่าวนิวส์24สถานีประชาชนประจำจังหวัดร้อยเอ็ด///สุพจน์บดินทร์ กุ่มประสิทธิ์ บก.ข่าวออนไลน์ 77จังหวัด






ร้อยเอ็ด จัดประชุมชี้แจงโครงการเพิ่มทักษะด้านอาชีพแก่นักเรียนที่ไม่ได้เรียนต่อหลังจบการศึกษาภาคบังคับ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569

วันที่ 25 พฤศจิกายน 2568 เวลา 10.00 น. ณ หอประชุมสาเกตฮอลล์ 2 ศูนย์ประชุมสาเกตฮอลล์ ตำบลเหนือเมือง อำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด นายชัชวาลย์ เบญจสิริวงศ์์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด มอบหมายให้ นายพิชัยยา ตุระซอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานเปิดการประชุมชี้แจงโครงการเพิ่มทักษะด้านอาชีพแก่นักเรียนที่ไม่ได้เรียนต่อหลังจบการศึกษาภาคบังคับ ประจำปีงบประมาณ 2569 โดยมีนางจารุวรรณ บุญเกิดรัมย์ จัดหางานจังหวัดร้อยเอ็ด ในนามคณะผู้จัดประชุมเป็นผู้กล่าวรายงานฯการประชุมมีวัตถุประสงค์เพื่อชี้แจงแนวทางดำเนินงาน ขั้นตอน ปฏิทินกิจกรรม ข้อกฎหมาย และทบทวนผลการดำเนินงานที่ผ่านมา ซึ่งในปีงบประมาณ 2568 กลุ่มเป้าหมายเข้าร่วมจำนวน 15 คน ผ่านการฝึกอบรม 13 คน ได้งานทำแล้ว 8 คน ศึกษาต่อ 1 คน และยังไม่พร้อมทำงาน 3 คน สำหรับการประชุมในครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมรวม 498 คน ประกอบด้วยผู้บริหารเขตการศึกษา ผู้แทนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา เขต 10 ผู้อำนวยการสถานศึกษา ครูแนะแนว บุคลากรทางการศึกษา ผู้นำท้องถิ่น และบัณฑิตแรงงานโครงการเพิ่มทักษะด้านอาชีพเป็นกลไกสำคัญในการสนับสนุนเยาวชนที่ไม่ได้ศึกษาต่อให้มีความพร้อมทั้งด้าน Hard Skills และ Soft Skills ในการเข้าสู่ตลาดแรงงานที่กำลังเปลี่ยนแปลงจากปัจจัยด้านโครงสร้างประชากร เทคโนโลยีดิจิทัล ภาวะโลกร้อน และความผันผวนทางเศรษฐกิจโลก พร้อมย้ำว่าโครงการนี้เกิดจากความร่วมมือของหลายหน่วยงาน เพื่อสร้างโอกาสให้เยาวชนมีงานทำอย่างมั่นคงและเป็นกำลังสำคัญของประเทศในอนาคต ทั้งนี้ การชี้แจงจัดโดย 5 หน่วยงานหลัก ได้แก่ สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 39 ร้อยเอ็ด สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดร้อยเอ็ด สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดร้อยเอ็ด สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดร้อยเอ็ด และสำนักงานจัดหางานจังหวัดร้อยเอ็ด
/////คมกฤช พวงศรีเคน ข่าว/ภาพ ผู้สื่อข่าวนิวส์24สถานีประชาชนประจำจังหวัดร้อยเอ็ด////สุพจน์บดินทร์ กุ่มประสิทธิ์ บก.ข่าวออนไลน์ 77จังหวัด









จ.ขอนแก่น – เจ้าของรถบรรทุก ร้องเรียน!! จอดรถซ่อมที่อู่นาน 1 ปี 4 เดือน ไม่มีคืบหน้า

วันนี้ (25 พ.ย.68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสดใส วันสาสืบ อายุ 49 ปี (เจ้าของรถ) เดินทางเข้าแจ้งความ เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2568 ตามสัญญาที่ทำขึ้นที่ อู่เฮงเซอร์วิส อ.พล จ.ชอนแก่น ระหว่าง นายบรรพด ทิพย์ทอง ช่างทำสี และช่างใน ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง ช่างทำเครื่องยนต์รถ กับนายสดใส วันสาสืบ เจ้าของรถบรรทุกพ่วง 12 ล้อ คันทะเบียน 70-1538 จ.มหาสารคาม สัญญาฉบับดังกล่าวได้ทำขึ้นมาใหม่
คุณเจี๊ยบ ภรรยาเจ้าของรถ เล่าว่า..เนื่องจาก รถได้ถูกซ่อมอยู่ในอู่นานเกินไป (1 ปี 4 เดือน) และรถคันดังกล่าวก็ยังอยู่ในสภาพเดิม เพราะปกติรถบรรทุกนี้เอาไว้ใช้ทำงานวันนึงมีรายได้เกือบ 100,000 บาท แต่พอเอามาซ่อมเลยขาดรายได้ จึงเดินทางไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.พล ไว้เป็นหลักฐาน เพื่อจะได้ให้พนักงานสอบสวนเรียกคู่กรณีมาเจรจาตกลงกัน และได้รับความเป็นธรรมต่อไป.





 

ฐานิสร์ เทียนทอง นายก อบจ.สระแก้ว ส่งเครื่องเรือยนต์ YAMAHA สมรรถนะสูง ช่วยพี่น้องหาดใหญ่และพื้นที่ภาคใต้ หลังเผชิญมหาอุทกภัยอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

เมื่อบ่ายที่ผ่านมา (25 พฤศจิกายน 2568) ผมสั่งการด่วนให้ฝ่ายป้องกันบรรเทาสาธารณภัย สำนักปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระแก้ว เร่งสนับสนุนเครื่องยนต์เรือ YAMAHA สมรรถนะสูง จำนวน 5 เครื่อง ให้กับมูลนิธิสว่างสระแก้วธรรมสถาน และทีมจิตอาสา เพื่อเดินทางไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยพื้นที่ภาคใต้ผมและพี่น้องชาวสระแก้วทุกคนได้ภาวนาอธิษฐานให้ภัยพิบัติครั้งนี้ได้ผ่านพ้นไปโดยเร็วที่สุด ภาพการรอความช่วยเหลือบนหลังคาบ้าน ยอดต้นไม้ เสาสัญญาณไฟแดง และดาดฟ้าอาคารบ้านเรือน มันแสนเจ็บปวดทรมานและบีบหัวอกคนไทยด้วยกัน สิ่งหนึ่งสิ่งใดที่พวกเราชาวสระแก้วจะช่วยได้ก็ต้องเร่งส่งความช่วยเหลือไปให้เร็วที่สุดครับผมทราบว่าขณะนี้กองกำลังบูรพาได้เปิดรับสิ่งของ อาทิ ผ้าอนามัย แปรงสีฟัน ยาสีฟัน เสื้อผ้า น้ำดื่มและอาหารกึ่งสำเร็จรูป เพื่อลำเลียงไปช่วยฟื้นฟูพี่น้องชาวใต้ที่ประสบภัยพิบัติมหาอุทกภัยในครั้งนี้ อำเภอตาพระยา หน่วยเฉพาะกิจตาพระยา (ฉก.ตาพระยา)ข้างศาลเจ้าพ่อปลัดสน อำเภอโคกสูง หน่วยทหารในพื้นที่อำเภอโคกสูง อำเภออรัญประเทศ หน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ (ฉก.อรัญประเทศ บ้านดงยาง ตำบลเมืองไผ่ อำเภอคลองหาด หน่วยเฉพาะกิจคลองหาด (ฉก.คลองหาด)ใกล้วัดคลองหาดอำเภอวัฒนานคร ด่านตรวจกองกำลังบูรพา บ้านเสาสูง ตำบลห้วยโจด จากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ในขณะนี้ ผมขอส่งกำลังใจให้ผู้ประสบภัย และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ทุกท่าน ผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปด้วยความปลอดภัย และขอให้สถานการณ์คลี่คลายโดยเร็ว #Saveภาคใต้ #Saveหาดใหญ่#กำลังใจ #จากใจ #คนสระแก้ว#ฐานิสร์ เทียนทอง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระแก้ว
////ภาพข่าว เพจ////สุพจน์บดินทร์(จัด)กุ่มประสิทธิ์ บก.ข่าวออนไลน์นิวส์24สถานีประชาชน 77จังหวัด โทร 0953071918

ข่าวสระแก้ว ยุทธการปิดสัญญาณมิจฉาชีพแก๊งค์คอเชนเตอร์ข้ามแดนเพื่อนบ้าน

ตำรวจสระแก้วเปิดยุทธการ “ปิดสัญญาณมิจฉาชีพ” ตัด–ซีลไฟเบอร์ข้ามแดน 2 จุด สกัดเส้นทางสื่อสารแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว เดินหน้าปฏิบัติการเข้มตามนโยบายรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภายใต้การสั่งการของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 โดยมุ่ง “ตัดช่องทางการติดต่อสื่อสาร” ของเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์และสแกมเมอร์ ที่ใช้อุปกรณ์ซิมบ็อกซ์ (Sim Box) และโครงข่ายอินเทอร์เน็ตผิดกฎหมายเป็นเครื่องมือหลอกลวงประชาชนตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ร่วมกับ กสทช. เดินหน้าล้มเสาสัญญาณและควบคุมโครงข่ายโทรคมนาคมตามแนวชายแดนอย่างต่อเนื่อง เพื่อสกัดกั้นอาชญากรรมข้ามชาติที่อาศัยพื้นที่ชายแดนเป็นฐานปฏิบัติการ ล่าสุดภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.ถาวร ดุลยวิทย์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.จตุรภัทร สิงหัษฐิต รอง ผบก.ภ.จว.สระแก้ว,พ.ต.อ.ดำรง เอี่ยมไพโรจน์ ผกก.สส.ภ.จว.สระแก้ว, พ.ต.อ.ภัทรกร ขาวนวล ผกก.สภ.คลองลึก, พ.ต.ท.สมัชญ์ นาคพน รอง ผกก.สส.สภ.คลองลึก,
พ.ต.ท.รัชกร เหลืองทองคำ รอง ผกก.กก.สส.ภ.จว.สระแก้ว, พ.ต.ท.พุฒิพัฒน์ โกสินอภิวัฒน์ รอง ผกก.ป.สภ.คลองลึกพร้อมเจ้าหน้าที่ กก.สส.ภ.จว.สระแก้ว สภ.คลองลึก และตัวแทนบริษัท ยูไนเต็ด อินฟอร์เมชั่น ไฮเวย์ จำกัด (UIH) ลงพื้นที่ตัดและติดแท็กซีลสายเคเบิ้ลใยแก้วนำแสงที่มีการส่งต่อสัญญาณไปยังประเทศกัมพูชา ผลการตรวจพบ 2 จุด รวม 4 เส้นจุดที่ 1 บริเวณสายหลักสถานีรถไฟบ้านคลองลึก (ข้างด่านศุลกากร)พบสายเคเบิ้ลใยแก้วจำนวน 3 เส้น ซึ่งเคยถูกตัดไปก่อนหน้าแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการม้วนเก็บและจัดระเบียบให้เรียบร้อย คู่สายเป็นของบริษัทแม่โขงเน็ตจุดที่ 2 บริเวณใต้สะพานหนองเอี่ยนพบสายเคเบิ้ลใยแก้วจำนวน 1 เส้น อยู่ระหว่างรอการเชื่อมต่อในอนาคต จึงได้ดำเนินการตัดและซีลเพื่อป้องกันการนำกลับมาใช้งานการปฏิบัติครั้งนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย สอดคล้องตามมาตรการควบคุมและป้องกันการใช้สัญญาณสื่อสารข้ามแดนในทางที่ผิดกฎหมาย ถือเป็นการยกระดับการควบคุมโครงข่ายสื่อสารชายแดนไทย–กัมพูชาอย่างจริงจัง เพื่อสกัดเส้นทางสื่อสารของขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ ลดความเสียหายต่อประชาชน และเสริมสร้างความมั่นคงในพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรม./////ภาพข่าว///วีระยุธท///นางธณวรรณ แฉล้มชาติ ผู้สื่อข่าวนิวส์24สถานีประชาชนประจำจังหวัดสระแก้้ว////สุพจน์บดินทร์ บก.ข่าวออนไลน์ 77จังหวัด โทร 0953071918
./////ภาพข่าว///วีระยุธท///นางธณวรรณ แฉล้มชาติ ผู้สื่อข่าวนิวส์24สถานีประชาชนประจำจังหวัดสระแก้้ว////สุพจน์บดินทร์ บก.ข่าวออนไลน์ 77จังหวัด โทร 0953071918




ศูนย์ราชทัณฑ์ช่วยเหลือสังคมเขต 7 ดำเนินกิจกรรมบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ ตัดผมให้กับเด็กนักเรียนโรงเรียนบ้านหนองงูเหลือม

วันที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 นายจักร ลิ่มบุตร ผู้บัญชาการเรือนจำกลางนครปฐม ปฏิบัติหน้าที่ประธานคณะอำนวยการศูนย์ราชทัณฑ์ช่วยเหลือสังคมเขต 7 นำเจ้าหน้าที่และผู้ก้าวพลาด เรือนจำกลางนครปฐม ดำเนินกิจกรรมบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ให้กับชุมชน สังคมและประชาชนทั่วไป (CSR) โดยได้ร่วมกันตัดผมให้กับเด็กนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษา และชั้นมัธยมศึกษา จำนวน 50 คน ณ โรงเรียนบ้านหนองงูเหลือม อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีในการร่วมผนึกกำลังและสร้างความสามัคคีให้ชุมชนภาคีเครือข่าย และให้ผู้ก้าวพลาดได้บำเพ็ญประโยชน์ตอบแทนสังคม เป็นการปลูกฝังจิตสาธารณะให้กับผู้ก้าวพลาดเป็นการคืนคนดีสู่สังคม
////น.ส.  ลาวัลย์  แสงสว่าง  ผู้สื่อข่าวนิวส์24สถานีประชาชนประจำจังหวัดนครปฐม///สุพจน์บดินทร์ กุ่มประสิทธิ์ บก.ข่าวออนไลน์ 77จังหวัด