Top News/ข่าวยอดนิยม

Recent News/ข่าวล่าสุด

นครนายก - สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวนครนายก จัดกิจกรรมส่งเสริมการท่อง เที่ยวจังหวัดนครนายก Nakhonnayok Bike Week Festival 1 แปรอักษร อัญเชิญธงชาติไทยผืนใหญ่ยาว 100 เมตรกว้าง 20 เมตร

เมื่อเวลา 15.45 น. ของวันที่ 7 ธันวาคม 2568 ที่ลานกิจกรรมเขื่อนของพ่อ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเขื่อนขุนด่านปราการชล ตำบลหินตั้ง อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก นายธนวัฒน์ ปิ่นแก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก  และผู้เข้าร่วมกิจกรรมถวายอาลัย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนารถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ยืนสงบนิ่งถวายความอาลัยเป็นเวลา 93 วินาที พร้อมเชิญนายธนวัฒน์ ปิ่นแก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก  เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดนครนายก Nakhonnayok Bike Week Festival 1 โดยมีนายสันติ นุชหอม นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวนครนายก กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ของการจัดกิจกรรมฯ โดยมี ท่านวุฒิสมาชิก พลตำรวจตรีอังกูร คล้ายคลึง ผู้บริหารบริษัทแกร็ปประเทศไทย จำกัด ผู้บริหารสมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย ผู้บริหารบริษัทวันเดอร์ลัสต์ ทัวร์ แอนด์ ทราเวล คอนซัลติ้ง จำกัด หัวหน้ากลุ่มบิ้กไบค์สายบันเทิง สมาชิกจำนวน 600 คัน เข้าร่วมในกิจกรรมนี้เป็นจำนวนมากด้วยสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวนครนายก
ร่วมกับจังหวัดนครนายก หน่วยงานทุกภาคส่วนร่วมจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดนครนายก - สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวนครนายก Nakhonnayok Bike Week Festival ครั้งที่ 1 โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวห้วใจสีเขียว บิ้กไบค์สายบันเทิง 600 คันกว่า 700 คน ที่เข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดนครนายกในเทศกาลวันพ่อแห่งชาติ โดยเดินทางมาทุกภูมิภาคทั่วประเทศ และเข้าพักค้างทำกิจกรรมในจังหวัดนครนายก ก่อนวันงานและหลังวันงาน ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวต้นแบบของการขับขี่จักรยานยนต์อย่างมีวินัยมีภาพลักษณ์อันดีงามของการขับขี่บิ้กไบค์อีกด้วย พร้อมการทำ CSR ปลูกป่าโดยการยิงเมล็ดพันธุ์ปลูกป่าเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับเขื่อนจุนด่านปราการชล และร่วมพลังความสามัคคีแสดงความรักผืนแผ่นดินไทยของกลุ่มเยาวชนคนไทยรุ่นใหม่ โดยมีบริษัทแกร็บประเทศไทย จำกัด มอบหมวกกันจำนวน 200 ใบ จังหวัดนครนายก จะได้นำไปดำเนินการตามวัตถุประสงค์ต่อไป/
///ภาพข่าว//สมบัติ เนินใหม่//รัชชานนท์ เนินใหม่//ผู้สื่อข่าวนิวส์๒๔สถานีประชาชนประจำจังหวัดจังหวัดนครนายก///สุพจน์บดินทร์ กุ่มประสิทธิ์ บก ข่าวออนไลน์ ๗๗จังหวัด





ข่าว - "เสือโคร่งวัยรุ่น" ปรากฏตัวผารักษ์สลัดได จ.ปราจีนบุรี พบเป็นพฤติกรรมธรรมชาติ เตือนประชาชนระวังแต่ไม่ต้องตระหนก !

เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2568  ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ปราจีนบุรี  นายยศวัฒน์ เธียรสวัสดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 (สบอ.1) ปราจีนบุรี เปิดเผยว่า  ได้รับรายงานการพบเห็นเสือโคร่งในพื้นที่บริเวณผารักษ์สลัดได อุทยานแห่งชาติทับลาน (ในพื้นที่รอยต่อ 2 จังหวัด จังหวัดปราจีนบุรีและ จังหวัดนครราชสีมา) จากนายประวัติศาสตร์  จันทร์เทพ  หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลานหัวหน้าสถานีเรดาร์เขาสลัดได แจ้งว่ามีนักท่องเที่ยวพบเสือโคร่งบริเวณจุดชมวิวผารักษ์สลัดได จำนวน 1 ตัว ขณะนั้น จึงได้ส่งกำลังเจ้าหน้าที่เข้าพื้นที่ และประสานหัวหน้าสถานีวิจัยสัตว์ป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ เข้าร่วมตรวจสอบ นายประวัติศาสตร์  จันทร์เทพ  หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน(ในพื้นที่รอยต่อ 2 จังหวัด จังหวัดปราจีนบุรีและ จังหวัดนครราชสีมา) กล่าวว่า   จากการตรวจสอบขั้นต้นทราบว่าเสือโคร่งตัวดังกล่าวเป็นลูกเสือโคร่งเพศผู้ อายุประมาณ 2 ปี
 เป็นลูกของเสือโคร่งเพศเมียรหัส 106 ซึ่งโดยปกติมีถิ่นที่อยู่อาศัยอยู่กลางป่าลำแปรง ซึ่งถือเป็นใจกลางของอุทยานแห่งชาติทับลานและผืนป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ สาเหตุที่ลูกเสือโคร่งเคลื่อนย้ายมายังบริเวณชายขอบป่าเชื่อได้ว่าเกิดจากการที่มีเสือโคร่งเพศผู้ตัวเต็มวัยเข้ามายึดถิ่นอาศัยจากเสือเพศผู้ซึ่งเป็นพ่อ จึงเป็นเหตุให้ลูกเสือเพศผู้ตัวดังกล่าวต้องออกเดินทางเพื่อหาถิ่นที่อยู่อาศัยใหม่ของตนเอง  แต่ด้วยความน้อยประสบการณ์ไม่คุ้นชินต่อรถยนต์จึงไม่ได้ระวังตัวมาก และออกมาเดินอยู่บนถนน เส้นทางขึ้นเขาสู่สถานีเรดาร์ปัจจุบันไม่มีนักท่องเที่ยวอยู่ในพื้นที่แล้ว โดยได้ประสานเจ้าหน้าที่จากสถานีเรดาร์ ช่วยกันพื้นที่ งดเข้าพื้นที่ไว้ก่อน  ทั้งนี้อุทยานแห่งชาติทับลานได้จัดส่งเจ้าหน้าที่พร้อมรถยนต์ อุปกรณ์สำรวจ เข้าประจำพื้นที่เพื่อประชาสัมพันธ์แก่นักท่องเที่ยวที่ยังขึ้นไปบนเขาเรดาร์เพื่อชมวิว  อีกทั้งเป็นการกดดันผลักดันให้เสือโคร่งตัวดังกล่าวได้รู้ถึงความพลุกพล่านของมนุษย์และออกสำรวจพื้นที่ป่าให้ลึกกว่าเดิมต่อไปและกล่าวต่อไปว่า การปรากฏตัวของเสือโคร่งวัยรุ่นในครั้งนี้ นับเป็นสัญญาณที่ดีที่แสดงถึงความสมบูรณ์ของระบบนิเวศป่าในพื้นที่ และความสำเร็จในการอนุรักษ์เสือโคร่งซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยเจ้าหน้าที่จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป เพื่อความปลอดภัยของทั้งประชาชนและสัตว์ป่า และยังบ่งชี้ถึงความสำเร็จของการที่เสือจะข้ามฝั่งไป-ผ่านระหว่างผืนป่าดงพญาเย็นได้ดี  ระหว่างอุทยานแห่งชาติทับลานสู่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ผ่านทางอุโมงค์ด้านบนซึ่งเชื่อมต่อถนนสาย304 (นาดี –นครราชสีมา) ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ด้วย นายประวัติศาสตร์  กล่าว
###    มานิตย์  สนับบุญ 081-5583238- / ผู้สื่อข่าวนิวส์ ๒๔ สถานีประชาชนประจำจังหวัดปราจีนบุรี///สุพจน์บดินทร์ กุ่มประสิทธิ์ บก ข่าวออนไลน์๗๗จังหวัด










ข่าว – เขาใหญ่!หยุดต่อเนื่องวันผ่อนทท.เฮ!ขึ้นรับโอโซนอันดับ7ของโลกมากกว่า20,000 คน แน่นลานกางเต้นทั้ง 3 แห่ง

 อุณหภูมิต่ำสุดที่ 16 องศาฯสูงสุดที่ 25 องศาฯ สินค้าเกษตรกรฯที่นำมาจำหน่ายขายดีกระฉูด เตือนหน้าหนาวไฮซีซั่นให้ระวังช้างป่าตกมันและช้างออกหากินริมถนนเป็นพิเศษ ต้องปฏิบัติ ตามป้ายเตือนประชาสัมพันธ์เคร่งครัด ขณะที่ระหว่างวันที่14 - 17 ธันวาคม 2568 แจงเขาใหญ่ได้รับเลือกใช้เป็นสถานที่จัดการแข่งขันจักรยานประเภทถนนกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 จะปิดเส้นทางด่านตรวจเนินหอม ปราจีนบุรี  ชั่วคราววันที่ 14 ธ.ค.68 จะปิดอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ 3 ชั่วโมงวันที่ 15 ธ.ค.68ปิดเช้า-บ่าย วันที่ 16 ธ.ค.68 จักรยานปั่นจากสุวินทวงศ์  เส้นชัยที่ผาตรอมใจ ให้ทุกคนมาร่วมเชียร์ โปรดใช้เส้นหลีกเลี่ยงทาง 3 วัน  เมื่อเวลา 18.30 น.วันที่ 6 ธันวาคม2568 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ปราจีนบุรี ในบรรยากาศหยุดยาวต่อเนื่องพบ นนท.หนาแน่นมาท่องเที่ยวพักผ่อน โดยเฉพาะทางขึ้นจากฝั่งด่านเนินหอม ต.เนินหอม อ.เมืองปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรีนายชัยยา   ห้วยหงษ์ทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มรดกโลก(ในพื้นที่รอยต่อ 4 จังหวัด จ.ปราจีนบุรี จ.นครนายก จ.สระบุรี และ จ.นครราชสีมา ) กล่าวว่า    ช่วงหยุดยาวต่อเนื่องในโอกาสวันพ่อแห่งชาติ  อุทยานฯเขาใหกญ่แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติใกล้กรุงเทพฯสุดพบมีนักเที่ยวมาเที่ยวพักผ่อน  รวมจำนวน 21,000 คน   โดยที่นิยมช่วงไฮซีซั่นนี้คือการการเต้นท์ พบจุดลานกางเต้น์ แน่นทั้งหมดท่ามกลางระดับอุณหภูมิต่ำสุดที่ 16 องศาเซลเซียส 
ระดับสูงสุดที่ 25 องศาเซลเซียสบริเวณจุดลานกางเต็นท์ ลําตะคอง รวมจำนวน 1,200 คน ,ที่พักลานกางเต้นท์ผากล้วยไม้ รวมจำนวน 300 คน  และบริเวณลานกางเต้นท์ชั่วคราวลาเฮลิคอปเตอร์ หรือ เขาร่ม รวมจำนวน  1,200 คน ฝากแจ้งเตือนแจ้งสำหรับนักท่องเที่ยวช่วงหน้าหนาวนี้ในเรื่องช้างป่า  ช่วงหน้าหนาวหรือไฮซีซั่นนี้   ที่เขาใหญ่ต้องระวังช้างป่าตกมันและช้างออกหากินริมถนนเป็นพิเศษ ต้องปฏิบัติ ตามป้ายแจ้งเตือนที่มีประชาสัมพันธ์อยู่แล้วอย่างเคร่งครัด! ประกอบด้วย  โดยนักท่องเที่ยวต้อง ห้ามเข้าใกล้เด็ดขาด, ห่างอย่างน้อย 30 เมตร, ห้ามบีบแตร/ส่งเสียงดัง/ใช้แฟลช เพราะเป็นช่วงที่ช้างอาจเครียดและทำร้ายคนได้ระยะปลอดภัย: ให้ห่างจากช้างอย่างน้อย 30 เมตร และถอยรถรักษาระยะหากช้างเข้ามาใกล้ ระวังโขลง: ช้างที่เห็นอาจเป็นตัวเดียว แต่โขลงช้างอาจอยู่ใกล้ๆ; โดยเฉพาะช้างตัวผู้ที่ออกตามหาตัวเมีย (ช้างตกมัน) ในหน้าหนาวนี้อันตรายมาก ให้ หยุดรถห่างๆ, เปิดไฟปกติ, ดับเครื่องยนต์ไม่ได้, ค่อยๆ ถอย และถ้าตกในวงล้อมให้ขับไปทางที่ช้างน้อยที่สุด ห้ามส่งเสียงดัง: ไม่บีบแตร, ห้ามส่งเสียงดัง หรือใช้แฟลชถ่ายรูป เพราะช้างจะตกใจและอาจทำร้ายได้สำคัญคือ ห้ามทิ้งขยะหรืออาหารไว้ในรถ เพราะช้างจะเข้ามาคุ้ยหาและพลิกคว่ำรถได้ ปฏิบัติตามเจ้าหน้าที่ หากมีเจ้าหน้าที่ดูแล
ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด และ จากที่อุทยานเขาใหญ่ได้รับเลือกใช้เป็นสถานที่จัดการแข่งขันจักรยานประเภทถนนกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ระหว่างวันที่ 14 - 17 ธันวาคม 2568 มีรายละเอียด ใช้สถานที่เขาใหญ่ปั่นจักรยานจาก ศาลสมเด็จพระนเรศวร ไปแยกไฟแดง เข้าตัวเมืองปราจีนบุรีวันที่ 14 ธ.ค.68 จะปิดอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ 3 ชั่วโมงวันที่ 15 ธ.ค.68ปิดเช้า-บ่าย วันที่ 16 ธ.ค.68 จักรยานปั่นจากสุวินทวงศ์  เส้นชัยที่ผาตรอมใจ ทำการจัด 3 วันวันที่ 14 -15 -16 ธันวาคม 2568 อยากให้ทุกคนมาร่วมเชียร์  โปรดใช้เส้นหลีกเลี่ยงทาง 3 วัน  โดยมีรายละเอียดการปิดเส้นทางด่านตรวจเนินหอม ปราจีนบุรี ดังนี้   14 ธ.ค. 68 เวลาปิดด่าน 08.00 น. เวลาเปิดด่าน 10.00 น.  15 ธ.ค. 68 แบ่งเป็น 2 รอบ ได้แก่ เวลาปิดด่าน 08.00 น. เวลาเปิดด่าน 09.30 น. และ เวลาปิดด่าน 12.00 น. เวลาเปิดด่าน 14.00 น.  และในวันที่ 16 ธ.ค. 68 เวลาปิดด่าน 10.30 น. เวลาเปิดด่าน 12.00 น. ทั้งนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถใช้เส้นทางด่านตรวจศาลเจ้าพ่อได้ปกติ แต่ไม่สามารถขึ้นลงฝั่งปราจีนบุรีในวันและเวลาดังกล่าวในช่วงไฮซีซั่นนี้  มีสินค้าชุมชนร่วมกับเกษตรอำเภอนำสินค้าชุมชนด้านล่างขึ้นมาบริการขายด้านบนอุทยานฯ ให้ชาวบ้านมีรายได้ เฉพาะวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ และ วันนักขัตฤกษ์ด้วยพบรายการสินค้าเกษตรขายดีมากหยุดยาวนี้ นายชัยยา   กล่าว
##  มานิตย์ สนับบุญ 081-5583238-ข่าว/ณัฐนันท์-ภาพ/ ผู้สื่อข่าวนิวส์๒๔สถานีประชาชนประจำจังหวัดปราจีนบุรี////สุพจน์บดินทร์ กุ่มประสิทธิ์ บก ข่าวออนไลน์๗๗จังหวัด















หนองคาย “นบ.ยส.24” จับกุมขบวนการค้ายาไอช์ น้ำหนัก 889 กก., เคตามีน 200 กก. มูลค่ารวมกว่า 150,460,000 บาท

เมื่อวันที่  5 ธ.ค. 68  เวลา 03.20 น. กองทัพบก โดย พล.ท.วีระยุทธ รักษ์ศิลป์ มทภ.2/ผบ.นบ.ยส.24 อำนวยการให้ กกล.สุรศักดิ์มนตรี/สกัดกั้น ฯ ตอนบน/ บก.ควบคุมที่ 2 (ร.13)  หน่วยเฝ้าตรวจชายแดนที่ 21 จัดกำลังพล ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกองกำกับการ สืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย เฝ้าตรวจ/สกัดกั้น บริเวณช่องทาง บ้านบอน หมู่ 4 ตำบลหาดคำ อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย ซึ่งคาดว่าจะใช้ลำเลียงยาเสพติด ผ่านเข้ามาในพื้นที่ จนกระทั่งวันที่ 5 ธันวาคม 2568 เวลา 02.30 น. พบความเคลื่อนไหวบริเวณช่องทางโรงสูบน้ำ บ้านบอนฯ ตรวจพบรถยนต์ตู้ทึบ วิ่งออกจากช่องทาง ไปตามถนนหลวง หมายเลข 212 มุ่งหน้าไปยังทางทิศตะวันออก จึงแจ้งให้ชุดสกัดกั้น (หน่วยเฝ้าตรวจชายแดนที่ 21 ร่วมกับ กองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย) ทำการสกัดกั้นตรวจสอบรถคันดังกล่าว และเมื่อเวลา 03.20 ณ ชุดสกัดกั้น ตรวจพบรถยนต์ต้องสงสัย บริเวณปากทางเข้าบ้านดงเวร ตำบลสีกาย อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย จึงได้ทำการขอตรวจค้นภายในรถ พบกระสอบ ข้างในบรรจุยาเสพติดประเภท 1 (ไอซ์) รวมทั้งสิ้นจำนวน 889 กก. (กระสอบสีดำ 20 กระสอบ กระสอบสีขาว 2 กระสอบ)
เคตามีน 200 กก. บรรจุในกระสอบสีขาว จำนวน 5 กระสอบ ซากหนังเสือจำนวน 1 ผืน และรถยนต์ จำนวน 1 คัน และผู้ต้องหาที่เป็นคนขับรถ 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือนายคมสัน อายุ 28 ปี ภูมิลำเนาจังหวัดหนองคาย ตรวจยึดยาเสพติดทั้งหมดและควบคุมตัวผู้ต้องหามา ที่ฐานปฏิบัติการ หน่วยเฝ้าตรวจชายแดนที่ 21 บก.ควบคุมที่ 2 เพื่อสอบปากคำเบื้องต้นและทำบันทึกการจับกุมที่ฐานปฏิบัติการ หน่วยเฝ้าตรวจชายแดนที่ 21 บก.ควบคุมที่ 2 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี โรงเรียนบ้านดงเวร ต.หินโงม อ.เมืองหนองคาย จ.หนองคาย นายศรัณศักด์ ศรีเครือเนตร ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย , นายไพฑูรย์ มหาชื่นใจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย , พ.อ.เรวัฒ ธรรมจิรเดช เสธ.กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี , พล.ต.ต.อัทธชนม์ ช่วงงาม ผบก.จ.หนองคาย , พ.อ.วีรเทพ การุณรอบดุล รอง ผอ.รมน.จังหวัด น.ค.(ท.) , นายประทีป อุ่ยเจริญ ปลัดจังหวัดหนองคาย พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2568 หน่วยเฝ้าตรวจชายแดนที่ 21 ได้รับรายงานด้านการข่าวจาก
ชุดปฏิบัติการข่าวที่ 3 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ได้ทราบว่ามีความเคลื่อนไหวจากกลุ่มนัก ค้ายาเสพติด ในพื้นที่ บ้านควายแดง เมืองหาดทรายฟอง เขตนครหลวงเวียงจันทน์ ฝั่งตรงข้าม บ้านบอน หมู่ 4 ตำบลหาดคำ อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย ว่าจะมีการขนย้ายยาเสพติดข้ามมายังฝั่งไทย ในห้วงวันที่ 2-5 ธันวาคม 2568จากการสอบถามผู้ต้องหาเบื้องต้น รับว่าทำมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ได้รับค่าจ้างครั้งละ 7,000 บาท ครั้งนี้เมื่อส่งของเสร็จจึงจะได้รับเงินค่าจ้าง ซึ่งของกลางทั้งหมดคาดว่า น่าจะนำไปส่งในพื้นที่ภาคใต้ เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่ง สภ.เมืองหนองคาย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
////ภาพข่่าว///เดวิท โชคชัย รายงาน ผู้สื่อข่าวนิวส์๒๔ สถานีประชาชนประจำจังหวัดมุกดาหาร////สุพจน์บดินทร์ กุ่มประสิทธิ์ บก ข่าวออนไลน์๗๗จังหวัด



ชายแดนไทย-กัมพูชา ปะทะเดือด ทภ.2 สั่งรับมือเต็มรูปแบบ-เจ็บ 2 นาย ประกาศอพยพชาวบ้าน 4 จังหวัดอีสานใต้

เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2568 เกิดเหตุปะทะรุนแรงบริเวณพื้นที่ภูผาเหล็ก – พลาญหินแปดก้อน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กองทัพภาคที่ 2 แถลงการณ์ด่วน สั่งอพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยง 4 จังหวัด เพื่อความปลอดภัยสูงสุด หลังประเมินสถานการณ์ยังมีความไม่แน่นอนศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ชี้แจงภายใต้ปฏิบัติการ "ยุทธสินทร์" ระบุว่า เมื่อเวลา 14.15 น. ขณะที่หน่วย พัน.ร.13 (ฉก.1) กำลังปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนในพื้นที่รับผิดชอบ ได้เกิดการเผชิญหน้ากับกองกำลังติดอาวุธฝ่ายกัมพูชา (กพช.) โดยฝ่ายตรงข้ามได้เปิดฉากระดมยิงด้วยอาวุธปืนเล็กเข้ามายังฝ่ายไทยก่อน ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องทำการยิงตอบโต้เพื่อป้องกันตัวตามกฎการใช้กำลัง (ROE) อย่างได้สัดส่วนรายงานระบุว่าสถานการณ์ทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อเวลา 14.16 น. เมื่อฝ่ายตรงข้ามเริ่มใช้อาวุธหนักประเภทปืนไร้แรงสะท้อนถอยหลัง (ปรส.) ยิงถล่มเข้าใส่แนวปฏิบัติการของฝ่ายไทยอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้แม่ทัพภาคที่ 2 สั่งการให้หน่วยในพื้นที่เตรียมความพร้อมรบเต็มรูปแบบทันทีการปะทะกินเวลานานกว่า 30 นาที ก่อนจะยุติลงในเวลา 14.50 น. อย่างไรก็ตาม
จากเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้มีทหารไทยได้รับบาดเจ็บจากการปะทะจำนวน 2 นาย ได้แก่ 1. ส.อ.อนุชาติ เรือนคำ (สังกัด ป.6 พัน.6) ถูกยิงได้รับบาดเจ็บที่ขา และ 2. พลฯ พรชัย จำปาจุม (สังกัด ร.6 พัน.3) ถูกกระสุนปืนยิงเข้าอย่างจังบริเวณหน้าอก แต่โชคดีที่สวมใส่เสื้อเกราะป้องกันไว้ได้ ทำให้มีเพียงอาการฟกช้ำและแน่นหน้าอก โดยล่าสุดเมื่อเวลา 14.53 น. หน่วยได้ลำเลียงผู้บาดเจ็บส่งต่อจาก บก.โดนเอาว์ ไปยังโรงพยาบาลกันทรลักษ์ เพื่อรับการรักษาอย่างเร่งด่วนแล้วทั้งนี้ กองทัพภาคที่ 2 ประเมินว่าสถานการณ์ในปัจจุบันยังมีความไม่แน่นอนและมีแนวโน้มที่การปะทะอาจขยายวงกว้าง จึงได้ออกประกาศ ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในอำเภอแนวชายแดนของ 4 จังหวัด ได้แก่ บุรีรัมย์, สุรินทร์, ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ดำเนินการอพยพไปยังศูนย์พักพิงตามแผนอพยพประชาชนโดยด่วนเพื่อความปลอดภัย โดยหน่วยทหารในพื้นที่ยังคงเฝ้าระวังและตรึงกำลังอย่างใกล้ชิด#เหตุปะทะชายแดน #ภูผาเหล็ก #กันทรลักษ์ #กองทัพภาคที่2 #ยุทธสินทร์ #ข่าวชายแดน #ศรีสะเกษ #ทหารไทย #อพยพประชาชน #ข่าววันนี้
///ภาพข่าว_เดวิท โชคชัย รายงาน ผู้สื่อข่าวนิวส์สถานีประชาชนประจำจังหวัดมุดาหาร///สุพจน์บดินทร์ กุ่มประสิทธิ์ บก ข่าวออนไลน์ 















ร้อยเอ็ด ทำบุญตักบาตร และวางพานพุ่ม เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ปี 2568

วันที่ 5 ธันวาคม 2568 เวลา 07.00 น. นายชัชวาลย์ เบญจสิริวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล และวางพานพุ่ม เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ข้าราชการฝ่ายตุลาการ ศาล ทหาร ตำรวจ หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนเข้าร่วมพิธี ที่ หอประชุมจังหวัดร้อยเอ็ด อำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ดจากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด นำผู้เข้าร่วมพิธีร่วมกันทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ ซึ่งออกรับบิณฑบาตข้าวสาร อาหารแห้ง ดอกไม้ธูปเทียน จากพุทธศาสนิกชนที่มาตั้งแถวรอทำบุญตักบาตร เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระองค์ท่าน หลังจากนั้นได้นำส่วนราชการวางพานพุ่ม เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดี และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงทุ่มเทพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนทั่วประเทศผ่านโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริกว่า 4,000 โครงการ ครอบคลุมการบริหารจัดการน้ำ การเกษตร และการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ โดยมี “ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” เป็นหลักสำคัญในการพัฒนาที่สมดุลและยั่งยืน
/////
คมกฤช พวงศรีเคน ข่าว/ภาพ ผู้สื่อข่าวนิวส์24สถานีประชาชนประจำจังหวัดร้อยเอ็ด//สุพจน์บดินทร์ บก.ข่าวออนไลน์ 77จังหวัด