วันศุกร์ที่ 5 ธันวาคม 2568 พลตำรวจโท รุทธพล เนาวรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม  

พร้อมด้วย พันตำรวจโท ประวุธ วงศ์สีนิล อธิบดีกรมราชทัณฑ์และนายชาญ วชิรเดช รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์  

ฝ่ายพัฒนา ผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม นายสังคม เกิดก่อ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ผู้บัญชาการเรือนจำ / ผู้ 

อำนวยการทัณฑสถาน เขต 8 และ เขต 9 ผู้บริหารกรมราชทัณฑ์ และเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนที่ 

ประสบอุทกภัย พร้อมให้กำลังใจประชาชน ในพื้นที่จังหวัดสงขลา  

ในการลงพื้นที่ช่วยเหลือในครั้งนี้จากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ของประเทศ เป็นเหตุให้

ทรัพย์สิน บ้านเรือนราษฎรสิ่งสาธารณูปโภค พื้นที่การเกษตร สถานที่ราชการได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก  

ตลอดจนมีผู้เสียชีวิต บาดเจ็บ และสูญหาย ดังนั้น เพื่อให้การช่วยเหลือ ผู้ประสบอุทกภัยและการบูรณะฟื้นฟูความ 

เสียหายที่เกิดขึ้นได้รับการช่วยเหลือและแก้ไขจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างเร่งด่วน กรมราชทัณฑ์ ซึ่งเป็น 

หน่วยงานในกระทรวงยุติธรรม เพื่อให้การดำเนินการให้ความช่วยเหลือ การบรรเทาทุกข์ และการฟื้นฟูแก่ประชาชน 

ผู้ประสบภัย ในพื้นที่ภาคใต้ กรณีเกิดเหตุอุทกภัย เป็นไปด้วยความรวดเร็ว มีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับนโยบาย 

ของรัฐบาล ตลอดจนข้อสั่งการของอธิบดีกรมราชทัณฑ์ในการใช้ศักยภาพของหน่วยงานและผู้ต้องราชทัณฑ์ในการทำ

คุณประโยชน์ตอบแทนสังคม โดยมี เรือนจำกลางสงขลา เรือนจำจังหวัดสงขลา ทัณฑสถานบำบัดพิเศษสงขลา  

และทัณฑสถานหญิงสงขลา นำคณะเจ้าหน้าที่และผู้ต้องขังกองงานจ่ายนอก จากศูนย์ราชทัณฑ์ช่วยเหลือสังคม  

กลุ่มเรือนจำ/ทัณฑสถาน จังหวัดสงขลา ภายใต้โครงการ “ศูนย์ราชทัณฑ์ช่วยเหลือสังคม เขต 9” ลงพื้นที่ช่วยเหลือ 

ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งการช่วยเหลือครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนกำลังพลจาก 

เรือนจำ/ทัณฑสถานในสังกัดเรือนจำประธานเขต 9 เพื่อร่วมทำงานเคียงข้างประชาชนอย่างใกล้ชิด ตามนโยบายของ 

กระทรวงยุติธรรมและกรมราชทัณฑ์ ที่มุ่งบรรเทาความเดือดร้อนและฟื้นฟูชุมชนในช่วงเวลาวิกฤต 

โดยคณะผู้บริหารกระทรวงยุติธรรมและกรมราชทัณฑ์ เดินทางลงพื้นที่ในครั้งนี้ เพื่อร่วมให้กำลังใจ 

ประชาชนผู้ประสบภัย พร้อมแจกสิ่งของและถุงยังชีพ จำนวน 600 ชุด บริเวณมัสยิดสะพานดำ และตรวจเยี่ยม

การทำความสะอาดบ้านเรือนของประชาชน รวมถึงช่วยเหลือซ่อมแซม บ้านเรือน โรงเรียน ในพื้นที่ชุมชนต่างๆ ได้แก่  

พื้นที่บริเวณ ชอย 7 ชุมชนเพลินจิต บริเวณชุมชนคลองลาน โรงเรียนบ้านท่าไทร หมู่บ้านท่าไทร โดยร่วมมือกับ 

มูลนิธิ SCG วิทยาลัยอาชีวะศึกษาระยอง และผู้ต้องขังจากเรือนจำ / ทัณฑสถาน ในเขต 8 และเขต 9 จำนวนทั้งสิ้น 

300 คน ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ผู้ต้องขังได้ออกช่วยเหลือ บรรเทาทุกข์ และให้บริการประชาชน จึงถือเป็นกิจกรรมที่ 

ส่งเสริมให้เขาเหล่านี้ได้มีส่วนร่วมช่วยเหลือประชาชน เปิดโอกาสเพื่อสร้างการยอมรับจากสังคม เสริมสร้างจิตอาสา  

สร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างเรือนจำกับชุมชนภายนอกและพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ต้องขังให้สามารถกลับคืนสู่ 

สังคมได้อย่างมีคุณภาพต่อไป


 

แสดงความคิดเห็น