โดยตลอดเส้นทางการเคลื่อนร่างผ่าน ไปจนถึงทางเข้าวัด ได้มีประชาชนออกมายืนโบกสะบัดธงชาติไทย เพื่อสดุดีความกล้าหาญ ของจ่าเริง พร้อมยกย่องให้เป็นวีรบุรุษของแผ่นดิน ท่ามกลางความโศกเศร้าอาลัย และความภาคภูมิใจของครอบครัว และประชาชนชาวจังหวัดบุรีรัมย์ ทันทีที่ร่างจ่าเริง มาถึงวัดห้วยปอ กองทหารเกียรติยศได้ตั้งแถวรอรับร่างอย่างสมเกียรติ ก่อนจะเคลื่อนหีบศพจ่าเริงไปยังศาลา
ในโอกาสี้ นายปิยะ ปิจนำ ผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอประโคนชัย ข้าราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้มาร่วมตั้งแถวรับร่างอย่างพร้อมเพรียง เพื่อเป็นเกียรติแก่ จ.ส.อ.สำเริง ด้วย หลังจากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ได้เป็นประธานพิธีรดน้ำศพ
และช่วงเย็นก็จะมีพิธีอัญเชิญพวงมาลาพระราชทาน จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ มาวางเรียงอย่างสมเกียรติ ณ หน้าหีบศพ ภายในศาลาเพื่อแสดงความอาลัยแด่ จ.ส.อ.สำเริง คลังประโคน
ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับศพ จ.ส.อ.สำเริง ไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ โดยกำหนดการพิธีบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรม รวม 3 คืน ตั้งแต่คืนวันที่ 21-23 ธันวาคม 2568 ส่วนพิธีพระราชทานเพลิงศพ กำหนดจัดขึ้นในวันพุธที่ 24 ธันวาคม 2568 ณ เมรุวัดห้วยปอ ปอ ต.ปังกู อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ด้านนางเอี่ยม คลังประโคน อายุ 79 ปี มารดาของ จ.ส.อ.สำเริง กล่าวว่า ขอบคุณคนไทยทุกคนที่ไม่ทิ้งกัน ถึงแม้จะสละชีวิตไปแล้ว แต่ก็ยังมาให้กำลังใจ วีรบุรุษ รู้สึกภาคภูมิใจกับการจัดพิธีอันทรงเกียรติให้กับลูกชาย ก็มีทั้งเสียใจและภูมิใจ แต่อะไรจะเท่าชีวิตลูกคงไม่มีอีกแล้ว ต่อไปก็ไม่เห็นหน้าลูกอีกแล้ว ถ้าชาติหน้ามีจริงก็ขอให้มาเป็นลูกของแม่อีก ตอนนี้คิดถึงลูกมาก ยังทำใจไม่ได้ที่สูญเสียลูก ตอนนี้เห็นทหารทุกคนก็เหมือนลูกของเรา ทำใจยากเหลือเกิน
สุรชัย พิรักษา / บุรีรัมย์




แสดงความคิดเห็น