วันที่ 29 พฤศจิกายน 2568 ที่กองพันมณฑลทหารบกที่ 42  อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา น.พ.วีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เข้าร่วมการประชุมติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา  โดยมี พล.อ.อุกฤษณ์ บุญตานนท์ ผบ.สส.เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วยผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน อาทิ กรมการปกครอง,การประปาส่วนภูมิภาค การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค,กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย,จิตอาสา 904,แม่ทัพภาคที่ 4,กองทัพเรือ,หน่วยงานทหาร, สำนักงานตำรวจภูธรภาค 9,กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม,กรมประชาสัมพันธ์ และหน่วยงานที่เข้าร่วมประชุมผ่านระบบออนไลน์
  โดยที่ประชุมรายงานว่า ขณะนี้ เสาสัญญาณโทรศัพท์สามารถใช้งานได้ประมาณร้อยละ 70 และมีแผนเร่งฟื้นฟูพื้นที่เมืองภายในวันที่ 10 ธันวาคม 2568 โดยแบ่งพื้นที่ดำเนินการออกเป็น 4 โซน เพื่อจัดการงานฟื้นฟูอย่างมีประสิทธิภาพ ครอบคลุมการจัดหาแหล่งน้ำสะอาดเพื่อแจกจ่ายประชาชนในช่วง 2–3 วัน การขนถ่ายขยะและยานพาหนะออกจากเส้นทาง การฉีดล้างทำความสะอาดพื้นที่ในช่วงกลางคืน การติดตั้งไฟส่องสว่างสำหรับปฏิบัติงานกลางคืน รวมถึงการเร่งรัดขั้นตอนการส่งมอบศพคืนแก่ญาติอย่างถูกต้อง รวดเร็ว และเป็นธรรม
ภารกิจสนับสนุนด้านการแพทย์และสุขภาพจิต,ทีมจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น,พยาบาลจิตเวช และนักจิตวิทยา ได้รายงานตัวต่อ น.พ.สกานต์ บุนนาค รองอธิบดีกรมการแพทย์ เพื่อเข้าปฏิบัติงานใน โรงพยาบาลสนาม – ศูนย์พักพิง มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ รองรับผู้ป่วยได้ 30 เตียง และมีแผนขยายขีดความสามารถเป็น 150 เตียง โดยทีมแพทย์ยังร่วมดำเนินการคัดกรองภาวะทางอารมณ์ (MCATT) ดูแลผู้ป่วยใน และรองรับผู้ป่วยรายใหม่อย่างต่อเนื่อง

   ขณะเดียวกัน แพทย์จากกลุ่มนิติเวชคลินิก เข้าร่วมสนับสนุนงานรักษาพยาบาลผู้ป่วยในโรงพยาบาลสนาม พร้อมจัดหายาและเวชภัณฑ์ที่จำเป็น เช่น ยามหาหิงคุ์ เพื่อบรรเทาอาการให้แก่ผู้ป่วยในศูนย์พักพิง

                        ภารกิจด้านนิติวิทยาศาสตร์และการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลนายอรุณ สุขน่วม ยุติธรรมจังหวัด พร้อมเจ้าหน้าที่ ได้ตั้งจุดรับแจ้งข้อมูลบุคคลสูญหายในระบบ CIR (ฐานข้อมูลกลางบุคคลสูญหายและศพนิรนาม) ณ ศูนย์บริการเบ็ดเสร็จร่วมกับกรมการปกครอง กองพิสูจน์หลักฐาน ตำรวจภูธร และกรมสุขภาพจิต เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนและญาติผู้สูญหาย ทีมเจ้าหน้าที่ ศูนย์ปฏิบัติการนิติวิทยาศาสตร์จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้สนับสนุนศูนย์พิสูจน์หลักฐานในการเก็บตัวอย่างสารพันธุกรรม (DNA) ของญาติผู้สูญหาย เพื่อการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลเพื่อยืนยันบุคคลและดำเนินการส่งคืนร่างผู้เสียชีวิตแก่ญาติตามหลักนิติวิทยาศาสตร์อย่างถูกต้อง โปร่งใส และเชื่อถือได้

พร้อมกันนี้ ทีมแพทย์นิติเวช และทีมจาก กองพัฒนาระบบการติดตามคนหายและการพิสูจน์ศพนิรนาม ยังร่วมสนับสนุนการตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลกับทีมนิติเวช มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้กระบวนการชันสูตรดำเนินไปอย่างรวดเร็วและได้มาตรฐาน

 น.พ.วีระกิตติ์ฯ เปิดเผยว่า "เหตุการณ์ครั้งนี้สร้างความสูญเสียอย่างยิ่ง หลายครอบครัวยังไม่สามารถรับร่างผู้เสียชีวิตกลับไปประกอบพิธีได้ เนื่องจากบ้านเรือนและวัดจำนวนมากยังถูกน้ำท่วม ส่งผลให้ “ขณะนี้มีร่างค้างจำนวนมาก” ไม่ใช่เพราะกระบวนการล่าช้าของเจ้าหน้าที่ แต่เนื่องจากประชาชนยังไม่พร้อมรับร่างกลับไปทำพิธีตามปกติ สถานที่ประกอบพิธียังไม่สามารถใช้งานได้ จึงจำเป็นต้องฝากร่างผู้เสียชีวิตไว้ที่ศูนย์ฯ เป็นการชั่วคราว แม้ศูนย์ฯ จะรองรับได้จำกัด แต่ทุกหน่วยงานพยายามบริหารจัดการภายใต้ข้อจำกัดอย่างเต็มกำลัง

ด้านการตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล ผอ.นิติวิทยาศาสตร์ยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องน่ากังวล ร่างส่วนใหญ่ยังสามารถพิมพ์ลายนิ้วมือและบันทึกข้อมูลได้ตามปกติ ก่อนเชื่อมเข้าสู่ระบบกรมการปกครองเพื่อยืนยันตัวตนอย่างแม่นยำ โดยทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่เร่งปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์หลายครั้ง และกำชับให้ทุกหน่วยงานเร่งช่วยเหลือประชาชนและญาติผู้สูญเสีย เพื่อบรรเทาความเครียดและความทุกข์ของทุกครอบครัว"

สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ยังคงสนับสนุนภารกิจฟื้นฟูและการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลอย่างเต็มกำลัง เพื่อให้ประชาชนได้รับความช่วยเหลือที่ถูกต้อง ทันท่วงที และเป็นธรรมตามหลักนิติวิทยาศาสตร์และหลักสิทธิมนุษยชน
 

แสดงความคิดเห็น