แต่นางสาคร และนางสาวมัลลิกา แม่และพี่สาวของทหารกล้า ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่เชื่อใจกัมพูชาว่าจะทำตามข้อตกลง เพราะที่ผ่านมามีการประชุมเจรจาและทำบันทึกข้อตกลงหลายครั้ง ไม่เคยเห็นกัมพูชาจะทำตามเลยสักครั้ง และไม่รู้ว่ากัมพูชาจะหักหลังไทยอีกเมื่อไหร่ ที่ผ่านมามีแต่ฝั่งไทยที่เป็นฝ่ายดำเนินการตามข้อตกลง จึงมองว่าการทำข้อตกลงสันติภาพครั้งนี้ ไทยอาจเป็นฝ่ายเสียเปรียบและสุ่มเสี่ยงที่จะเสียดินแดนให้กัมพูชา และในฐานะที่คนในครอบครัวซึ่งเป็นทหารต้องสูญเสียขา จากการปฏิบัติหน้าที่ปกป้องอธิปไตยชายแดน ก็เสียใจกับการเสียสละของทหารที่ต่อสู้จนได้ชัยชนะ เมื่อปลายเดือน ก.ค.68 อาจจะต้องสูญเปล่า ก็อยากให้เห็นใจครอบครัวของเหล่าทหารกล้าที่เขาสูญเสียคนในครอบครัว เพื่อป้องกันผืนแผ่นดิน แต่สุดท้ายไทยอาจต้องมาเสียเปรียบหรืออาจะเสียดินแดน ที่เหล่าทหารกล้าร่วมกันสละชีวิตปกป้องไป
นางสาวมัลลิกา ยังกล่าวอีกว่า ตอนนี้ลูกชายตนเองยังปฏิบัติหน้าที่อยู่ชายแดน จ.สุรินทร์ ก็ยังแชทพูดคุยกันตลอด
แม้ลูกชายจะไม่เคยพูดเรื่องทางการทหารหรือการปฏิบัติหน้าที่เลย แต่ในฐานะแม่ก็เป็นห่วงและเข้าใจหัวอกลูกชาย ก็ขอให้เขาปลอดภัยสุรชัย พิรักษา / บุรีรัมย์







แสดงความคิดเห็น