จากกรณีนายชุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มอบหมายให้ พล.ต.ต. นันทชาติ ศุภมงคล ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หัวหน้าชุดเฉพาะกิจกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ฉก.ทส.)นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หัวหน้าคณะทำงาน นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ชุดเฉพาะกิจฯ นายเทวิน มีทรัพย์ ชุดเฉพาะกิจฯ นายนฤพนธ์ ทิพย์มณฑา ผู้อำนวยการสำนักป้องกันปราบปรามและควบคุมไฟป่า นายราชันย์ บัวตรี ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) พร้อมด้วยคณะเจ้าหน้าที่ซึ่งประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เจ้าหน้าที่สำนักป้องกันปราบปรามและควบคุมไฟป่า เจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (พญาเสือ)เจ้าหน้าที่สำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 1 (ภาคกลาง) และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเอราวัณร่วมกันนำหมายศาลจังหวัดกาญจนบุรี เข้าตรวจค้นรีสอร์ทชื่อดังแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ที่หมู่ 3 ตำบลท่ากระดาน อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี พื้นที่ยึดถือครอบครอง ปรับเปลี่ยนการใช้ประโยชน์ที่ดิน ในเขตอุทยานแห่งชาติเอราวัณ โดยมีนายสุเทพ (ขอสงวนนามสกุล) ผู้ดูแลรีสอร์ท นำพาตรวจสอบ ผลการตรวจสอบพื้นที่และสภาพการครอบครอง พบว่า 1.จับค่าพิกัดรอบพื้นที่ได้ 41 จุด พื้นที่รวม 16–0–08 ไร่ อยู่ ในเขตอุทยานแห่งชาติเอราวัณทั้งแปลง 2.พบการก่อสร้างรีสอร์ทครบวงจร ได้แก่ อาคารต้อนรับ ห้องพัก บ้านพักคนงาน เส้นทางยกระดับ ระบบน้ำ-ไฟฟ้า และอื่นๆ รวม 62 รายการ 3.ตรวจสอบประวัติการครอบครองตาม ม.64 พ.ร.บ.อุทยานฯ (สำรวจปี 2562) พบการ ขยายพื้นที่เพิ่มอีก 3–3–21 ไร่ 4.ตรวจสอบแหล่งข้อมูลออนไลน์ พบการโฆษณาที่พัก ผ่าน Facebook/Tiktok มีการชำระเงินเข้าบัญชีเจ้าของโดยตรง 5.พบเอกสารสัญญาซื้อขายที่ดินเมื่อปี 2558 6.ตรวจคุณภาพลุ่มน้ำ พบพื้นที่อยู่ใน ชั้น 1A, 2 และ 3 และ 7.พื้นที่มีลักษณะ บุกรุกใหม่ หลังปี 2557 ซึ่งไม่สามารถเข้ากระบวนการตาม ม.64 แห่ง พ.ร.บ. อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562ได้จากกรณีดังกล่าว ล่าสุดเมื่อเวลา 23.57 น.ของคืนวันที่ 21 พ.ย.ต่อเนื่องมาถึงเช้าวันใหม่ นายพิพัฒน์ ฉิมพลี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเอราวัณ ได้นำหลักฐานเอกสารพร้อมรูปถ่ายต่างๆ เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.ศรีสวัสดิ์ เพื่อแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ ต่อเจ้าของรีสอร์ทดังกล่าวมาดำเนินคดี ใน 7 ข้อกล่าวหาประกอบด้วย กระทำความผิด 1. ฐาน “ก่อสร้าง แผ้วถาง หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือครอบครองป่า เพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่” ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 ม.54 ประกอบ ม.55 และ 72 ตรี 2. ฐาน ยึดถือหรือครอบครองที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆให้เสื่อมสภาพหรือเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่ไปจากเดิม ภายในเขตอุทยานแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามความในม.19(1) ประกอบม.41 วรรคหนึ่ง แห่งพ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 3. ฐาน กระทำด้วยประการใด ๆ ให้เป็นอันตราย หรือทำให้เสื่อมสภาพ ดิน หิน กรวด ทราย หรือทรัพยากรธรรมชาติอื่นหรือกระทำการอื่นใดอันส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ ความหลากหลายทางชีวภาพ และทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามความในม. 19(2) ประกอบม.42 แห่งพ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 4. ฐาน เข้าไปดำเนินกิจการใด ๆ เพื่อหาผลประโยชน์ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามความในม. 19(6) ประกอบม.44 แห่งพ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 5. ฐาน ผู้ใดกระทำการหรืองดเว้นกระทำการไม่ว่าจงใจหรือประมาทเลินเล่อโดยมิชอบด้วยกฎหมาย และก่อให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพยากรธรรมชาติในอุทยานแห่งชาติ วนอุทยาน สวนพฤกษศาสตร์ หรือสวนรุกขชาติ ผู้นั้นต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้แก่รัฐตามมูลค่าทั้งหมดของทรัพยากรธรรมชาติที่ถูกทำลาย สูญหาย หรือเสียหายไปนั้น ตามความในม.40 แห่งพ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 6. ฐาน ประกอบธุรกิจโรงแรม โดยมิได้ รับอนุญาตจากนายทะเบียน ตามความในม.15 วรรคหนึ่ง ประกอบม. 59 พ.ร.บ.โรงแรม พ.ศ. 2547 7. ฐาน การก่อสร้างดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามความในม. 21 ประกอบม. 65 แห่งพ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันตรวจยึดพื้นที่ป่าบุกรุก จำนวน 16–0–08 ไร่ สิ่งปลูกสร้างจำนวน 62 รายการ โดยจัดทำบันทึกตรวจสอบ/ตรวจยึด และรวบรวมเอกสารหลักฐานประกอบ ในส่วนค่าเสียหายของรัฐตาม ม. 40 วรรคสามพ.ร.บ.อุทยานฯ จากนั้นจะได้ทำการคิดค่าเสียหายของรัฐนำส่งพนักงานสอบสวนในภายหลังต่อไป ขณะเดียวกันนายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ออกมาระบุผ่านเฟสบุ๊กว่า หลังชุดเฉพาะกิจ ทส. (ฉก.ทส.) เข้าตรวจสอบรีสอร์ทหรูในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเอราวัณ จ.กาญจนบุรี พบหลักฐานชัดเจนมีการซื้อขายที่ดินหลวงผิดกฎหมาย และขยายพื้นที่บุกรุกป่าอีกกว่า 2 ไร่ สร้างสิ่งปลูกสร้าง 43 รายการไม่ขออนุญาตประกอบกิจการ ไม่เสียภาษี "ที่ดินแห่งนี้เป็นของแผ่นดิน เป็นของประชาชนทุกคน ไม่ยอมให้ใครมายึดถือครอบครองผิดกฎหมาย" พร้อมสั่งกำชับหัวหน้าอุทยานแห่งชาติทั่วประเทศให้ตรวจสอบพื้นที่ของตนเอง หากพบความผิดปกติหรือมีอิทธิพลมืดเข้ามาเกี่ยวข้องให้แจ้งไปยัง รมว.ทส. ทันที จะส่ง ฉก.ทส. ลงไปช่วยเหลือเคสนี้ถือเป็นการแสดงเจตจำนงของรัฐบาลภายใต้การนำของท่านนายกฯอนุทิน ไม่ให้ราคาผู้มีอิทธิพลที่เอาป่าไม้ อุทยานมาเป็นของส่วนตัวแบบผิดกฎหมาย พร้อมดำเนินการตามกฎหมายอย่างเต็มที่ทั้ง พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ร.บ.ป่าไม้และ ปปง. ในการยึดทรัพย์สิน/
/////ข่าวภูมิภาค/ ปรีชา ไหลวารินทร์ ผู้สื่อข่าวนิวส์24สถานีประชาชนประจำจังหวัดกาญจนบุรี ////สุพจน์บดินทร์ กุ่มประสิทธิ์ บก.ข่าวออนไลน์ 77จังหวัด





แสดงความคิดเห็น