นายไอศูรย์ เปิดเผยว่า ตนได้รับผลกระทบจากการเลี้ยงนกนางแอ่นของนายทุนมากว่า 1 ปีแล้วทั้งเรื่องกลิ่นเหม็นของมูลนก เสียงของนก และเชื้อโรคจากสัตว์พาหะของโรค โดยพบว่ามีไรดูดเลือดนก ไต่ยั้วเยี้ยเต็มบ้าน จนลูกเมียเป็นตุ่มผื่นขึ้นเต็มตัว จนไม่สามารถอยู่ได้ จึงตัองย้ายออกไปพักอาศัยอยู่ที่อื่น ร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยังไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน จนทำให้ชาวบ้านบางรายต้องจำใจขายตึกให้นายทุนเอาไปเลี้ยงนกนางแอ่น หรือเลี้ยงเอง เพื่อตัดปัญหา ซึ่งหากยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ตนก็อาจจะตัดใจขายตึกให้นายทุนไปเลยด้วยเช่นกัน ซึ่งปัจจุบันนี้แก้ไขปัญหา ทำได้แค่เพียงเปิดเสียงไล่นกนางแอ่นให้ไปหากินที่อื่น เพื่อไม่มีการรวมตัวของนกนางแอ่นกันเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ชี้ชัดไปเลยว่าเลี้ยงได้หรือไม่ได้ในเขตชุมชมเมือง หรือถ้าหากเลี้ยงได้ควรจำกัดสิทธิ์ผู้ที่จะเลี้ยงรายใหม่เพิ่ม เพื่อเป็นการไม่ให้มีการส่งผลกระทบเพิ่มขึ้นไปอีก ซึ่งปัจจุบันพบว่ามีการเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ชัดเจนกรณีดังกล่าว
ต่อมีนายอรุณ พงศ์ไพฑูรย์ ผอ.ส่วนอนุรักสัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) และเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดระยอง พร้อมเจ้าหน้าที่เทศบาลนครระยอง ได้เดินทางมาตรวจสอบหลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านเจ้าของตึกพาณิชย์ เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาต่อไป
นายอรุณ เปิดเผยว่า เบื้องต้น ได้มาตรวจสอบกรณีดังกล่าว ซึ่งในอำนาจหน้าที่นั้น จะสามารถดำเนินคดีเจ้าตึกพาณิชย์ที่เลี้ยงนกนางแอ่น จะต้องเป็นการกระทำความผิดซึ่งหน้า เช่น การเก็บรังนก ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง กระทำการเก็บไม่ได้ ซึ่งในตัวกฎหมายของกรมอุทยานฯ สามารถทำได้ แต่ประกอบด้วยหลายๆ พ.ร.บ. ซึ่งเบื้องต้น จะได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ว่า จะสามารถดำเนินการอย่างไรได้ต่อไป ทั้งสาธารณสุข จะต้องมาดูแลในเรื่องความสะอาด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะต้องมาดูเรื่องการดัดแปลงอาคาร รวมทั้งเรื่องเสียงดัง เป็นต้น.









แสดงความคิดเห็น