เกิดเหตุสะเทือนใจเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 12 พฤศจิกายน 2568 ที่บ้านหลังหนึ่งใน ต.เมืองจัง อ.ภูเพียง จ.น่าน เมื่อแก๊งเงินกู้นอกระบบสุดกร่าง กล้าล็อกกุญแจประตูบ้าน ขังคุณยายและหลานวัยไม่ถึงขวบไว้ภายใน เพียงเพราะ “ทวงเงินไม่ได้”
นี่ไม่ใช่แค่การทำผิดกฎหมาย แต่เป็นการเหยียบย่ำศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์แบบไม่เกรงกลัวใครหน้าตา
ผู้เป็นยายตกอยู่ในสภาพจนมุม ออกไปไหนไม่ได้ ต้องรวบรวมสติ โทรแจ้ง 191 ขอความช่วยเหลือด่วน ตำรวจจึงประสานผู้ใหญ่บ้านเข้าพังกุญแจจนสามารถช่วยทั้งยายและหลานออกมาได้อย่างปลอดภัย
โชคดี…ที่เธอยังโทรออกทัน
น่าเศร้า…ที่ชาวบ้านยุคนี้ต้อง “ลุ้นเอาเอง” ว่าจะรอดจากเงื้อมมือแก๊งเงินกู้นอกระบบหรือไม่
ชาวบ้านระบุว่า พฤติกรรมของกลุ่มนี้คือ “ชายฉกรรจ์จากนอกพื้นที่” เดิมเร่ทวงหนี้ด้วยรถจักรยานยนต์ แต่ระยะหลัง อัปเกรดความกร่างเป็นรถกระบะแต่งซิ่ง ท่อดังสนั่น ขับเข้าหมู่บ้านเหมือนประกาศศักดาว่า
“กูมาแล้ว…ใครจะทำไม?”
ไม่เพียงเท่านั้น ยังโปรย นามบัตรเงินกู้ ไว้ตามบ้าน ร้านค้า จนชุมชนหวาดผวาไม่แพ้เสียงท่อซิ่งของพวกเขา
คำถามที่คนในจังหวัดน่านเริ่มหลีกเลี่ยงไม่ได้คือ ทำไมจังหวัดอื่นเขามีมาตรการปราบปรามแบบเอาจริงเอาจัง แต่จังหวัดน่านกลับมีแต่ข่าวแก๊งเงินกู้นอกระบบอาละวาด…โดยไม่เห็นผลการกวาดล้างอย่างเป็นรูปธรรม?
ชาวบ้านหลายพื้นที่เริ่มตั้งข้อสงสัยอย่างเจ็บแสบว่า
“หรือมีใครคอยหนุนหลัง ถึงไม่มีใครกล้าจับ หรือปล่าว”
แม้เป็นเพียงเสียงสะท้อนของประชาชน—not หลักฐานยืนยัน—แต่สะท้อนชัดเจนว่า
ความเชื่อมั่นต่อหน่วยงานรัฐกำลังสั่นคลอน
ในขณะที่ความกร่างของแก๊งเงินกู้นอกระบบทวีคูณขึ้นทุกวัน
เพราะพวกเขา “ไม่เคยกลัวใคร”
และยังไม่เห็นสัญญาณว่ากฎหมายจะทำให้พวกเขากลัวได้จริง
นี่ไม่ใช่แค่ปัญหาหนี้นอกระบบ
นี่คือปัญหาความปลอดภัยของคนทั้งจังหวัด
จังหวัดน่านต้องมีคำตอบ ต้องมีการลงมือ ต้องมีมาตรการที่ชัดเจน—
ก่อนที่เหยื่อรายต่อไป…
อาจไม่ใช่แค่ยายกับหลานทารก แต่เป็นใครก็ได้ในน่าน
ประสิทธิ์ สองเมืองแก่น จ.น่าน





แสดงความคิดเห็น