เมื่อวันที่ 30 ต.ค.ที่ห้องประชุมออดิทอเรียม อาคารนิทรรศน์พรรณพฤกษา สถานีแอลเอ็นจี มาบตาพุด แห่งที่ 2 หนองแฟบ ต.มาบตาพุด อ.เมืองระยอง นายโกสินทร์ สุวัชรังกูร ผจก.ส่วนพัฒนาสินทรัพย์ บริษัท พีทีที แอลเอ็นจี จำกัด เป็นประธานเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นของ ปชช. ครั้งที่ 1 สำหรับการจัดการศึกษาและจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการก่อสร้างวางท่อส่งก๊าซธรรมชาติและก๊าชธรรมชาติเหลวไปยังพื้นที่ขยายศักยภาพของบริษัท พีทีที แอลเอ็นจี จำกัด มีหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรด้านการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ องค์กรพัฒนาเอกชน สถาบันการศึกษา นักวิชาการอิสระ สื่อมวลชน และปชช.ทั่วไป เข้าร่วมแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก
ทั้งนี้สืบเนื่องจากบริษัทพีทีที แอลเอ็นจี จำกัด ได้ดำเนินธุรกิจท่าเทียบเรือและสถานีรับ-จ่ายก๊าชธรรมชาติเหลว มีแผนที่จะพัฒนาพื้นที่รองรับการขยายศักยภาพของสถานีรับ-จ่ายก๊าชธรรมชาติเหลว โดยก่อสร้างระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติและก๊าซธรรมชาติเหลวจากสถานีรับ-จ่ายก๊าชธรรมชาติเหลวหนองแฟบไปยังโรงแยกอากาศ แห่งที่ 2 โดยเป็นการวางท่อส่งก๊าซธรรมชาติ (NG) และท่อก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ระยะทาง 1.2 กม. พร้อมก่อสร้างโครงสร้างรับแนวท่อ รวมถึงระบบสนับสนุนอื่นๆ เพื่อส่งเสริมพลังงานความเย็นที่ได้จากกระบวนการเปลี่ยนสถานะของก๊าซธรรมชาติเหลวไปใช้ประโยชน์ และเพื่อขยายศักยภาพการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ในด้านการใช้ประโยชน์จากความเย็น รวมทั้งธุรกิจอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตด้วย จึงได้เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นดังกล่าวขึ้นมา โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อนำเสนอรายละเอียดโครงการและผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นทั้งทางตรงและทางอ้อม รวมทั้งขอบเขตการศึกษา และการประเมินทางเลือกโครงการให้ ปชช. และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียได้รับทราบ ตลอดจนเพื่อรับฟังความคิดเห็นของ ปชช. หน่วยงานราชการ และองค์กรต่างๆ อย่างรอบด้าน และนำข้อคิดเห็นมาใช้ประกอบการศึกษา และจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมให้ครบถ้วน ก่อนนำเสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการอนุญาตให้ดำเนินการก่อสร้างโครงการดังกล่าวต่อไป
อย่างไรก็ตามในเวทีประชุมรับฟังความคิดเห็นดังกล่าว มีผู้เข้าร่วมประชุมแสดงความคิดเห็นหลากหลายโดยเฉพาะในช่วงก่อสร้างระยะเวลากว่า 2 ปี กังวลทั้งเส้นทางขนส่งในขนวัสดุอุปกรณ์ในการก่อสร้างเข้ามาดำเนินการ และช่วงการวางท่อ หวั่นกระทบความเป็นอยู่ของ ปชช. ทั้งการจราจรแออัด เสียง และฝุ่นที่จะเกิดขึ้นตามมาด้วย รวมทั้ง ปชช.จะได้ประโยชน์ที่แท้จริงอย่างไร ซึ่งทางบริษัทฯ ยืนยันว่าพร้อมจะนำข้อคิดเห็นไปปรับ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับ ปชช.ต่อไป.




 

แสดงความคิดเห็น