อีกจุดหนึ่ง เจ้าหน้าที่บุกจับแพทย์ชายภายในหอพักโรงพยาบาล ขณะเพิ่งออกเวร โดยผู้ต้องหาให้การว่า รู้จักกับ “หมอแอร์” และถูกชักชวนให้ใช้ชื่อขึ้นทะเบียนเป็นแพทย์ประจำคลินิกแลกค่าจ้างเดือนละ 20,000 บาท ยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสั่งยา และอ้างว่าลายเซ็นในเอกสารเป็นการปลอมแปลง
พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ รอง ผบก.ปส.1 เปิดเผยว่า"จากการตรวจสอบพบพฤติกรรมใช้ชื่อคลินิกและเวชระเบียนในการสั่งยาจาก อย. แต่ไม่นำไปใช้รักษาผู้ป่วยตามวัตถุประสงค์ กลับนำออกจำหน่าย ซึ่งเข้าข่ายความผิด สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด และได้กระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้สมคบกันแล้ว และสนับสนุนหรือช่วยเหลือผู้กระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดก่อนหรือขณะกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด” หากพบพยานหลักฐานเพิ่มเติมจะได้มีการสืบสวนขยายผลต่อไป
ซึ่งนับตั้งแต่ปฏิบัติการ EP.1 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปส. สามารถจับกุมผู้ต้องหาไปแล้ว 12 ราย รวมถึง “หมอแอร์” ซึ่งขณะนี้สำนวนคดีถูกอัยการส่งฟ้องแล้ว โดยผู้ต้องหาทั้งหมดยังคงปฏิเสธข้อกล่าวหา
ความคืบหน้าล่าสุด ปส. สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 6 ราย ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างการติดตาม พล.ต.ต.นพสิทธิ์ มิตรภักดี ผบก.ปส.1 ย้ำว่า การกระทำดังกล่าวถือเป็นอาชญากรรมที่บ่อนทำลายสังคมไทย และเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเดินหน้าตามล่าผู้กระทำผิดทุกรายให้ถึงที่สุด และขอเตือนบุคคลที่คิดจะทำผิดกฎหมายว่า ไม่สามารถพ้นจากการติดตามและการบังคับใช้กฎหมายได้
ทั้งนี้ หากประชาชนพบเบาะแสเกี่ยวกับยาเสพติด หรือการกระทำความผิดในลักษณะเดียวกัน สามารถแจ้งได้ที่ สถานีตำรวจใกล้บ้าน หรือโทร สายด่วน 191 ตลอด 24 ชั่วโมง
แสดงความคิดเห็น