โดยอธิบดีกรมการปกครอง ได้สอบถามถึงอุปสรรคในการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรื่องของสถานที่ปฏิบัติงานที่มีความคับแคบ ไม่เพียงพอต่อการรองรับประชาชนที่มาใช้บริการเป็นจำนวนมาก ประกอบกับเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอต่อการให้บริการ ทำให้ประชาชนต้องใช้เวลารอนาน เบื้องต้นทางอำเภอได้มีการได้แก้ไขแล้วบางส่วน อาทิ การเพิ่มอุปกรณ์ในการทำงานและจ้างคนทำงานเพิ่ม โดยมีเป้าหมายจะให้บริการประชาชนให้วันละ 100 คน ซึ่งขณะนี้ผ่านมาแล้วกว่าสามเดือนสามารถดำเนินการแล้วเสร็จไปกว่า 8,200 คน คาดว่าอีกประมาณ 9 เดือน จะสามารถดำเนินการครบทั้งหมด 22,993 คน
จากนั้น อธิบดีกรมการปกครอง ได้ประชุมมอบนโยบายด้านการแก้ไขปัญหาสัญชาติและสถานะบุคคลให้แก่นายอำเภอ ทั้ง 5 อำเภอ คือ ฝาง แม่อาย ไชยปราการ เวียงแหง เชียงดาว พร้อมกับนายอำเภอและผู้ปฏิบัติงานอีก 20 อำเภอ ผ่าน DOPA Channel พร้อมเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานอย่าหงุดหงิด อย่าพูดจาไม่ดีกับประชาชน และอย่าให้เกิดช่องว่างในการดำเนินงานใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งค่าบริการใดๆ ที่ผิดกฎหมาย โดยให้นายอำเภอกำกับดูแลผู้ปฏิบัติงานให้ทำตามกฎระเบียบอย่างเข้มข้น และเมื่อเกิดการกระทำความผิดขึ้นในพื้นที่ต้องสอบข้อเท็จจริงให้เกิดความยุติธรรมโดยเร็วส่วนเรื่องระยะเวลาการดำเนินการ ที่มีการหลอกลวงว่า จะต้องจัดการภายใน 30 กันยายน 2568 ทางอำเภอต้องชี้แจงและประชาสัมพันธ์ให้ชัดเจนว่า สามารถยื่นได้ถึงวันที่ 29 มิถุนายน 2569 และหากมีความจำเป็นไม่สามารถทำให้แล้วเสร็จภายในกำหนด ทางอำเภอต้องยื่นหนังสือต่อสำนักทะเบียนเพื่อขอยึดเวลาดำเนินการต่อไป
ส่งศักดิ์ พรมเอี่ยม ศูนย์ข่าวภาคเหนือรายงาน
แสดงความคิดเห็น