กัลฟ์ เจพี เอ็นแอลแอล เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็น ขยายกำลังผลิตโรงไฟฟ้าหนองละลอก

วันที่ 1 ส.ค.68 ที่ห้องประชุมลำไย สวนสุภัทราแลนด์ ต.หนองละลอก อ.บ้านค่าย จ.ระยอง บริษัท กัลฟ์ เจพี เอ็นแอลแอล จำกัด ได้จัดการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 1 โครงการโรงไฟฟ้าหนองละลอก (ส่วนขยาย ครั้งที่ 1) โดยมี นายวิจิตร พาพลงาม นายอำเภอบ้านค่าย ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดงาน พร้อมด้วยนายปราโมทย์ ฉันทมิตร์ นายกอบต.หนองละลอก นายสุทธิพงศ์ ทองส่องแสง นายกเทศมนตรีตำบลบ้านค่าย

นายอาจิน อ่ำพุด นายกเทศมนตรีเมืองนิคมพัฒนา นายอดุลย์ นิยมสมาน ส.อบจ.ระยอง เขตอำเภอบ้านค่าย รวมถึงหัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ เอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สถาบันการศึกษา สื่อมวลชน ผู้นำชุมชน และประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมแสดงความคิดเห็นอย่างคับคั่ง

นายณรงค์ศักดิ์ ศรีชมภู ผู้จัดการโรงไฟฟ้ากัลฟ์ เจพี เอ็นแอลแอล จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าจากเดิม 125.3 เมกะวัตต์ เพิ่มเป็น 137.0 เมกะวัตต์ เพื่อรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่ โดยมีแผนดำเนินการปรับปรุงหน่วยผลิตน้ำเย็น ติดตั้งชุดกรองอากาศและคอยล์น้ำเย็น รวมถึงท่อส่งน้ำเย็นเพิ่มเติม เพื่อช่วยลดอุณหภูมิอากาศขาเข้ากังหันก๊าซ (Gas Turbine) ทำให้ประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าดียิ่งขึ้น

ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวอยู่ในข่ายที่จะต้องจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ซึ่งบริษัทได้มอบหมายให้ บริษัท ยูไนเต็ด แอนนาลิสต์ แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแตนท์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาดำเนินการจัดทำรายงาน EIA ให้ถูกต้อง ครบถ้วน และครอบคลุมในทุกด้านการประชุมครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อชี้แจงข้อมูลโครงการ ขอบเขตการศึกษา และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้รับทราบอย่างรอบด้าน รวมถึงเปิดโอกาสให้ประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่าง ๆ เพื่อนำไปใช้ประกอบการศึกษาและปรับปรุงแผนการดำเนินงานให้สอดคล้องกับความต้องการของชุมชนและรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

นายณรงค์ศักดิ์ กล่าวย้ำในตอนท้ายว่า บริษัทให้ความสำคัญกับความคิดเห็นของประชาชนในทุกขั้นตอน พร้อมขอบคุณทุกภาคส่วนที่ให้ความร่วมมือและเข้าร่วมแสดงความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์ โดยยืนยันว่าจะดำเนินการทุกขั้นตอนด้วยความโปร่งใส รอบคอบ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และยึดหลักการอยู่ร่วมกับชุมชนอย่างยั่งยืนต่อไป