เพราะเสียหายทั้งตู้หยอดเหรียญที่ถูกงัดแงะตู้หลักหมื่น และยังสูญเงินที่ลูกค้างในแต่ละเครื่อง แต่สุดท้ายก็ไม่รอดสายตาเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังแกะรอยจากหลักฐานกล้องวงจรปิดที่บันทึกได้ ขณะไปตระเวนก่อเหตุ จึงได้ติดตามจับกุมได้ถึงห้องเช่าแห่งหนึ่งใน ต.อิสาณ อ.เมือง
จากการสอบถามนายพรหมลิขิต หนึ่งในผู้ต้องหา บอกว่า เมื่อก่อนทำธุรกิจจำหน่ายติดตั้งอุปกรณ์กรองน้ำ และตู้หยอดเหรียญน้ำดื่ม เครื่องซักผ้าทั่วภาคอีสาน แต่เมื่อปี 2563 ได้เจอพิษโควิดทำให้ประสบปัญหาขาดทุน ทำให้ธุรกิจเจ๊ง จากนั้นก็ผันตัวไปเป็นช่างรับติดตั้งและซ่อมตู้หยอดเหรียญตามจังหวัดต่างๆ แต่ก็ไม่ค่อยมีงานทำให้รายได้ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย
จึงตัดสินใจก่อเหตุตระเวนงัดตู้หยอดเหรียญเพราะมีความชำนาญในการติดตั้งและซ่อมตู้หยอดเหรียญลักษณะนี้อยู่แล้ว ด้วยความชำนาญจึงใช้เวลาก่อเหตุตู้ละแค่ 2-3 นาทีเท่านั้น ก็ได้เงินเครื่องละประมาณ 3,000 บาท โดยเงินที่ได้ไปก็จะนำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน บางส่วนเอาไปเล่นการพนันออนไลน์ และเสพยาเสพติดด้วย ก็อยากจะขอโทษเจ้าของอพาร์ทเมนต์ และหอพักต่างๆ ที่ไปก่อเหตุงัดแงะตู้หยอดเหรียญด้วย เพราะบางที่ก็เป็นลูกค้าที่เคยไปติดตั้งและซ่อมให้
จากนั้นชุดจับกุมได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งสอง ส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้น โดยใช้ยานพาหนะ”
สุรชัย พิรักษา / บุรีรัมย์
แสดงความคิดเห็น