ผลการดำเนินการ อนุมัติสัญชาติไทย จำนวน 81 ราย จัดทำบัตรฯ 25 ราย ยังไม่ได้จัดทำบัตร 56 ราย (เนื่องจากอายุต่ำกว่า 7 ปี ยังไม่ครบเกณฑ์การจัดทำบัตรฯ) อยู่ระหว่างรอผลการตรวจประวัติจาก สภ.สังขละบุรี เนื่องจากอายุเกินกว่า 18 ปี จำนวน 24 ราย รวมทั้งหมด 105 ราย
โดยนายสุริยศักดิ์ เหมือนอ่วม นายอำเภอสังขละบุรี ได้ประชาสัมพันธ์ฝากทุกคนให้กำลังใจท่านปลัดอำเภอ เจ้าหน้าที่ อาสาสมัครทะเบียน และผู้ที่เกี่ยวข้อง ทุกคนมุ่งมั่นตั้งใจ ปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย สะดวก และรวดเร็วที่สุด การดำเนินการไม่เสียค่าใช้จ่าย อำเภอสังขละบุรีต่อต้านการทุจริตและการเรียกรับผลประโยชน์ในทุกรูปแบบหากพบพฤติกรรมการเรียกรับผลประโยชน์ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด สามารถแจ้งเบาะแสการกระทำความผิดได้ที่ป.ป.ช. หรือ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ตู้ ปณ. 100 เขตดุสิต กรุงเทพ 10300 หรือ แจ้งความดำเนินคดีได้ที่ สถานีตำรวจภูธรสังขละบุรี
ล่าสุดวันนี้ 19 ก.ค.68 ที่ว่าการอำเภอสังขละบุรี - ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ได้โพสต์ผ่านเฟสบุ๊กระบุว่า แจ้งความดำเนินคดีแล้ว และจะเอาผิดให้ถึงที่สุด อ.สังขละบุรี แจ้งเตือนกลุ่มมิจฉาชีพหลอกว่าจะทำบัตรฯ ให้ภายใน 3 เดือน เนื้อหาระบุว่า ด้วยมีกลุ่มมิจฉาชีพกล่าวอ้างว่ามาจากสมาคมแห่งหนึ่ง เข้ามาในพื้นที่ อ.สังขละบุรี โดยมีพฤติกรรมหลอกลวงชาวบ้านให้ลงเชื่อ และเรียกเก็บเงิน ดังนี้
1. หลอกลวงชาวบ้านว่า จะทำบัตรฯ ให้ภายใน 3 เดือน 2. มีการจัดทำบัตรของสมาคมให้ พร้อมกล่าวอ้างว่า สามารถนำไปใช้ในการเดินทางไปยังที่ต่างๆ ได้อย่างถูกต้อง โดยการแสดงบัตรดังกล่าวกับเจ้าหน้าที่ 3. มีการเรียกรับผลประโยชน์เป็นเงิน 5,000 บาท แต่ออกในเสร็จรับเงิน จำนวน 1,600 บาท และแสดงข้อความว่า เป็นการบริจาคเงินให้กับสมาคม 4. มีการกล่าวอ้างกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แต่ภายหลังไปบอกชาวบ้านว่า อย่าให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้านรู้เรื่อง และ 5. มีการหลอกลวงเพิ่มเติมโดยอ้างว่า ตอนนี้มีคนรู้เรื่องเป็นจำนวนมาก ต้องเร่งดำเนินการ โดยจะต้องจ่ายค่าตอบแทนเป็นเงินเพิ่มเติมอีก 2,000 บาท
อำเภอสังขละบุรี ขอนำเรียนให้ชาวอำเภอสังขละบุรี ทุกคนได้ทราบว่า 1. พฤติกรรมข้างต้นเป็นพฤติกรรมของมิจฉาชีพ หลอกลวงให้หลงเชื่อ และเรียกรับผลประโยชน์ 2. ไม่มีแนวทางดำเนินการที่จะให้ชาวบ้านที่เสียค่าใช้จ่ายให้กับสมาคมดังกล่าว ได้บัตรฯ ภายใน 3 เดือน ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใดก็ตาม และบัตรสมาชิกดังกล่าวไม่สามารถใช้เป็นเอกสารอนุญาตสำหรับการเดินทางได้ ไม่ว่าจะเป็นกรณีใด จะถูกจับกุมทันที
3. อ.สังขละบุรี ได้รับเรื่องการร้องขอความช่วยเหลือ และได้พาไปแจ้งความดำเนินคดีที่สถานีตำรวจภูธรสังขละบุรีแล้ว และจะเอาผิดกับบุคคล หรือกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องดังกล่าวให้ถึงที่สุด 4. จัดให้ “ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอสังขละบุรี” เป็นศูนย์รับเรื่องและให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ขอให้ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อเข้ามาแจ้งต่ออำเภอสังขละบุรี เพื่อจะได้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือเป็นการด่วน และ 5. ได้มีการหารือกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) หากพบว่าเข้าเงื่อนไขเป็นคดีพิเศษ จะได้แจ้งประสาน DSI ลงพื้นที่เพื่อเอาผิดกับผู้กระทำความผิดโดยเด็ดขาดทันที
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์
แสดงความคิดเห็น