องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนไทยประกอบด้วย
สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ และ
สหภาพแรงงานกลางสื่อมวลชนไทย
ขอปฏิเสธข้อมูลที่ให้ร้ายสื่อไทยและแสดงความไม่พอใจอย่างยิ่งต่อแถลงการณ์ของสมาคมนักข่าวกัมพูชา
(Club
of Cambodian Journalists: CCJ) ที่กล่าวหาว่าสื่อมวลชนไทยขาดจริยธรรมในการรายงานข่าวสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา
โดยถือเป็นการดูหมิ่นที่ไม่อาจยอมรับได้ พร้อมทั้งมีข้อเรียกร้องดังนี้
1. เรียกร้องให้
CCJ
หยุดแทรกแซงกิจการภายในของสื่อมวลชนในประเทศไทย
และทำหน้าที่ตรวจสอบจริยธรรมในการรายงานข่าวของสื่อกัมพูชาอย่างเข้มแข็ง
และปราศจากการบงการครอบงำ
2. เรียกร้องให้
CCJ
มุ่งมั่นในการจัดการปัญหาข่าวปลอมและข้อมูลบิดเบือนที่มีต้นทางแพร่กระจายในโลกออนไลน์จากกัมพูชาอย่างเป็นรูปธรรม เนื่องจากตรวจพบข้อมูลบิดเบือนจำนวนมาก อาทิ
ข้อกล่าวอ้างว่าเครื่องบิน F-16
ของไทยทิ้งสารเคมีลงในกัมพูชา, การกล่าวหาว่าไทยใช้เครื่องบิน
F-16 ทิ้งระเบิด MK ซึ่งมีอำนาจทำลายล้างสูงใส่บ้านเรือนประชาชนชาวกัมพูชา,
การปล่อยข่าวว่า พล.ท. บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เสียชีวิต
รวมถึงข่าวบิดเบือนอื่น ๆ อีกหลายประการ ซึ่งล้วนแต่ทำให้เกิดความเข้าใจผิด
1.
1. องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนไทยขอยืนยันว่า
สื่อมวลชนไทยมีระบบการกำกับดูแลกันเองทางด้านจริยธรรมที่เข้มแข็ง
ยึดมั่นและเคารพในสิทธิเสรีภาพของประชาชนและสื่อมวลชนอย่างเต็มที่
พร้อมยืนยันเจตนารมณ์ในการรายงานข่าวตามหลักจริยธรรม ความเป็นกลาง
ความครบถ้วนรอบด้าน ไม่ยุยงให้เกิดความเกลียดชังระหว่างประชาชนทั้ง 2 ประเทศ
และต้องการให้เกิดสันติภาพในพื้นที่ชายแดนอย่างแท้จริงและยั่งยืน
เนื่องจากการกระทำของ
CCJ
ดังกล่าว
มีลักษณะหมิ่นเหม่ต่อการเป็นกระบอกเสียงของรัฐบาลกัมพูชามากกว่าการทำหน้าที่ขององค์กรวิชาชีพที่มีความเป็นอิสระ
ดังนั้น สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ซึ่งมีบันทึกความเข้าใจร่วมกับ CCJ
โดยมุ่งมั่นปรารถนาที่จะใช้กลไกความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างสื่อมวลชนในการเสริมสร้างความเข้าอันดีระหว่างประชาชนทั้ง
2 ประเทศ จึงจำเป็นต้องระงับความสัมพันธ์กับ CCJ เป็นการชั่วคราว จนกว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติ
สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย
สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์
สหภาพแรงงานกลางสื่อมวลชนไทย
31 กรกฎาคม 2568
แสดงความคิดเห็น