จนกระทั่งไปถึงบริเวณถนนทางหลวงสาย 323 หน้าหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 11 สำนักงานพัฒนาภาค 1 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (นพค.11) หมู่ 4 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ เจ้าหน้าที่พบรถตู้สีขาวติดฟิล์มมืด ทะเบียนป้ายเหลือง 10-2634 ลพบุรี ขับมาจากทางด้านอำเภอสังขละบุรี มุ่งหน้าไปทางด้านอำเภอทองผาภูมิ นายชาคริต ตันพิรุฬห์ นายอำเภอทองผาภูมิ จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ติดตามไป พร้อมประสานไปยังเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจร่วมสามแยกทองผาภูมิ หมู่ 1 ต.ท่าขนุน ปิดด่านตรวจเพื่อสกัดจับ
แต่ปรากฎว่าก่อนถึงด่านตรวจมีกลุ่มผู้ร่วมขบวนการที่ขับอยู่ด้านหน้าได้ชะลอแล้วให้รถยนต์ตู้คันดังกล่าวนั้นแซงไป จากนั้นรถยนต์คันดังกล่าวได้พยาบามปิดทางรถยนต์ของเจ้าหน้าที่เพื่อไม่ให้แซงไปได้ จนสุดท้ายรถตู้คันดังกล่าวได้หายไปโดยไม่ทราบทิศทางในการหลบหนี ส่วนรถยนต์ที่ขับขวางเจ้าหน้าที่ได้เร่งเครื่องยนต์หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
ส่วนเจ้าหน้าที่ชุดที่สองออกลาดตระเวนไปพบรถยนต์ตู้คันดังกล่าวจอดทิ้งเอาไว้ใกล้กับร้านอาหารแห่งหนึ่งในเขตอำเภอทองผาภูมิ และจากการตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมานั่งแออัดกันอยู่ภายในรถ รวมจำนวน 33 คน ส่วนคนคนขับได้หลบหนีไป เจ้าหน้าที่จึงนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดมารวมกันที่จุดตรวจร่วมสามแยกทองผาภูมิ ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวแรงงานทั้งหมดได้จำนวน 42 คน เป็นชาย 29 คน หญิง 11 คน อีก 2 คนเป็นเด็กซึ่งเป็นลูกของกลุ่มแรงงาน
เบื้องต้นกลุ่มแรงงานให้การผ่านล่ามว่า พวกตนหลบหนีเข้ามาเพื่อใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านในการมุ่งหน้าไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย โดยจ่ายค่าหัวให้กับนายหน้าคนละ 10,000 - 20,000 บาท
ระหว่างเดินทางก็มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้เสียก่อน
หลังจากผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ สอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อทำการขยายผลติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการ ก่อนที่จะดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อกล่าวหา พระทำความผิดฐาน "เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต"
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์
แสดงความคิดเห็น