วันนี้ (16 มิ.ย. 68) นายปิยะ ปิจนำ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วยนายจำเริญ แหวนเพ็ชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ นายชาติชาย ศรีษะนอก เกษตรจังหวัดบุรีรัมย์ หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สื่อมวลชน ตลอดทั้งนักท่องเที่ยว ร่วมกิจกรรม “ผู้ว่าพาเลาะสวนทุเรียนน้ำแร่บุรีรัมย์” ของ นางเฑียร ที่รัก หรือสวนยายเฑียร บ้านดอนสมบูรณ์ ต.ดงอีจาน อ.โนนสุวรรณ จ.บุรีรัมย์ โดยสำนักงานเกษตรจังหวัดบุรีรัมย์ จัดขึ้น เพื่อประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวเชิงเกษตร สร้างการรับรู้ถึงศักยภาพของเกษตรกรชาวอำเภอโนนสุวรรณ และอีกหลายพื้นที่ของจังหวัดบุรีรัมย์ที่มีศักยภาพ สามารถปลูกทุเรียน ในพื้นที่อำเภอโนนสุวรรณ ปะคำ บ้านกรวด และอำเภอละหานทราย รวมเนื้อที่ 5,200 ไร่ และเริ่มให้ผลผลิตแล้วประมาณ 1,700 ไร่ ซึ่งล้วนเป็นทุเรียนมีคุณภาพ ได้มาตรฐาน โดย “ทุเรียนน้ำแร่บุรีรัมย์” ได้รับการรับรองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์(GI) มีรสชาติโดดเด่น กรอบนอก หอมละมุน เนื้อเหนียวนุ่มดุจคัสตาร์ด เป็นเอกลักษณ์เฉพาะถิ่นที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง
โดยในงานนอกจากผู้ว่าราชการจังหวัด
พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ จะเดินเยี่ยมชมสวนทุเรียนน้ำแร่แล้ว ยังมีผลผลิตทุเรียนน้ำแร่จากสวนของเกษตรกรที่เป็นสมาชิกมาวางจำหน่ายให้ผู้ที่มาร่วมงานได้เลือกซื้อไปบริโภค และเป็นของฝากอีกด้วย นอกจากนั้นยังมีเงาะ มังคุด และผลไม้ชนิดอื่นๆ ที่ปลูกในพื้นที่มาวางจำหน่ายอีกด้วย ก็ได้รับความสนใจจากส่วนราชการ และผู้มาร่วมงานต่างเลือกซื้อทุเรียนน้ำแร่ กันอย่างคึกคัก
นายปิยะ ปิจนำ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า จังหวัดบุรีรัมย์นอกจากโดดเด่นด้านการท่องเที่ยวและกีฬาแล้ว ยังมีทุเรียนน้ำแร่ เป็นผลผลิตที่เติบโตในพื้นที่ดินภูเขาไฟเก่า มีแต่ธาตุอุดมสมบูรณ์ และได้รับน้ำจากแหล่งน้ำแร่ธรรมชาติ ทำให้มีรสชาติหวานมัน เนื้อเนียนนุ่ม กลิ่นหอมเฉพาะตัวแตกต่างจากทุเรียนพันธุ์เดียวกันกับพื้นที่อื่นถือว่าเป็นของดีของจังหวัดบุรีรัมย์ ที่มีศักยภาพสูในการสร้างซื่อเสียงให้กับจังหวัดบุรีรัมย์ เช่นที่สวนยายเฑียร แห่งนี้พื้นที่ปลูกทุเรียนประมาณ 8 ไร่ ให้ผลผลผลิตกว่า 2,000 ลูก
ถือว่าเป็นผลไม้ที่สร้างเศรษฐกิจให้กับชุมชน เป็นแหล่งเรียนรู้ แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรด้วย จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวไปชิมรสชาติของทุเรียนน้ำแร่บุรีรัมย์ ซึ่งมีผลวิจัยของมหาวิทยาลัยราชภัฎบุรีรัมย์พบว่า มีแร่ธาตุ ที่เป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค
ด้านนางเฑียร ที่รัก เจ้าของสวนยายเฑียร บอกว่า ก่อนหน้านี้เกษตรกรในพื้นที่ส่วนใหญ่จะปลูกมันสำปะหลัง พอดีช่วงที่เก็บเกี่ยวผลผลิตก็จะประสบปัญหาราคาตกต่ำ โดยของตนเองปลูกมันสำปะหลัง 5 ไร่มีรายได้จากการขายผลผลิตประมาณ 20,000 บาท แต่พอภาครัฐเข้ามาส่งเสริมให้ปรับเปลี่ยนปลูกพืชชนิดอื่น จึงหันมาปลูกทุเรียนน้ำแร่ปลูกมาแล้ว 8 ปี มีรายได้จากการขายผลผลิตในเนื้อที่ 5 ไร่เฉลี่ยหลักแสนบาท มากกว่าปลูกมันสำปะหลังหลายเท่า และยืนยันว่าทุเรียนน้ำแร่หวานมัน เนื้อเนียนนุ่มดุจคัสตาร์ด เป็นเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น หากใครได้ลองลิ้มรสแล้วรับรองว่าจะติดใจ
สุรชัย พิรักษา / บุรีรัมย์
แสดงความคิดเห็น