(19 มิ.ย.68) ตำรวจ สภ.โนนสุวรรณ จ.บุรีรัมย์ ได้เข้าจับกุมตัวนายสมพร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี ชาว ต.โนนสุวรรณ อ.โนนสุวรรณ พร้อมของกลางมีดทำครัว 1 เล่ม เป้สะพายสีดำ 1 ใบ และรถจักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนที่ใช้ประกอบก่อเหตุ หลังได้ก่อเหตุใช้มีดทำครัวจี้พนักงานธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สาขาโนนสุวรรณ โดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) และเจ้าหน้าที่ ธกส. ได้ช่วยกันล็อกตัวเอาไว้ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมาจับกุมตัว
จากการสอบถามนายสมพร ผู้ก่อเหตุ ให้การรับสารภาพว่า ไม่ได้วางแผนล่วงหน้า ตัดสินใจลงมือในเช้าวันเกิดเหตุเลย เพราะต้องการหาเงินไปจ่ายค่าฟอกไตให้แม่ที่ป่วยโรคไต โดยอ้างว่า “บัตรทองใช้ฟอกไตไม่ได้” ต้องเสียเงินค่าฟอกไตเองครั้งละ 20,000 บาท แต่ไม่มีเงินและหาทางออกไม่ได้ จึงตัดสินใจก่อเหตุ
จากการสอบถามญาติของผู้ก่อเหตุ ก็ให้ข้อมูลว่าแม่ของผู้ก่อเหตุ ป่วยเป็นโรคไตจริง แต่ส่วนเรื่องค่ารักษาหรือใช้สิทธิ์บัตรทองไม่ได้ ยังไม่มีข้อมูลชัดเจน ต้องรอตรวจสอบอีกครั้ง
ด้านนายสมภพ จันทร์ศิริสุข อายุ 59 ปี เจ้าหน้าที่ รปภ.ธนาคาร ธกส.สาขาโนนสุวรรณ ที่เกิดเหตุ เล่าว่า เมื่อวานเห็นผู้ก่อเหตุเข้ามานั่งใส่แมสและหมวกกันน็อค ตนก็เข้าไปเตือนว่าให้ถอดหมวกกันน๊อก เพราะเป็นกฎของธนาคาร แต่เขากลับตรงเข้าไปใช้มีดจี้พนักงานธนาคารที่อยู่เคาน์เตอร์ ตนจึงเข้าล็อกตัวและแย่งมีดจากมือผู้ก่อเหตุ
ก่อนจะมีเจ้าหน้าที่คนอื่นเข้ามาช่วยและแจ้งตำรวจมาจับกุมตัว ตนทำงานเป็น รปภ.มา 12 ปีแล้ว เมื่อก่อนอยู่ที่ศาลจังหวัดนางรอง และเพิ่งย้ายมาที่ ธกส.แห่งหนี้ได้ไม่กี่ปี แต่ก่อนมาเป็น รปภ.เคยเป็นทหารผ่านศึกมาก่อน ก็ได้รับการฝึกมาบ้าง
หลังจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจปัสสาวะนายสมพร พบมีสารเสพติดในร่างกาย เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา “พยายามชิงทรัพย์ และเสพยาเสพติดประเภท 1(ยาบ้า)”
ขณะที่นายสมยศ โยสาจันทร์ ผอ. ธ.ก.ส.จังหวัดบุรีรัมย์ ก็ได้เดินทางไปให้กำลังใจ เจ้าหน้าที่ประจำสาขา และมอบของให้กับนายสมภพ รปภ.ของธนาคาร ที่ควบคุมสถานการณ์ได้อย่างกล้าหาญ
สุรชัย พิรักษา / บุรีรัมย์
แสดงความคิดเห็น