การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากการแจ้งเบาะแสของสายลับว่า ผู้ต้องหารายนี้มีพฤติกรรมจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าผ่านเฟซบุ๊กอย่างเปิดเผย เจ้าหน้าที่จึงวางแผนสืบสวน ก่อนเข้าตรวจค้นและยึดของกลางภายในห้องพัก
จากการสอบสวนเบื้องต้น น.ส.เอฟ (นามสมมติ) ให้การรับสารภาพว่า เดิมเคยทำงานเป็นผู้ช่วยด้านความงามในคลินิก แต่ต้องตกงานในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว จึงเริ่มหันมาสูบบุหรี่ไฟฟ้าและซื้อจากเพื่อนรายหนึ่งในราคาชิ้นละ 300 บาท ก่อนนำมาขายต่อผ่านเฟซบุ๊ก โดยเฉพาะในช่วงที่รัฐกวาดล้าง ทำให้ราคาตลาดพุ่งสูงถึงชิ้นละ 600 บาท ทำให้มีส่วนต่างกำไรสูง
ผู้ต้องหาระบุว่าสามารถจำหน่ายได้มากกว่า 20 ชิ้นต่อวัน มีรายได้เฉลี่ยเดือนละกว่า 200,000 บาท
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหา “ช่วยซ่อนเร้น ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ หรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากรโดยถูกต้อง” ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 ก่อนควบคุมตัวพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย
เจ้าหน้าที่เตรียมขยายผลไปยังเครือข่ายลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าในพื้นที่ท่องเที่ยวต่อไป
ประสิทธิ์ สองเมืองแก่น / น่าน
แสดงความคิดเห็น