จากกรณีผู้ใช้เฟชบุ๊กในชื่อ Diana Jandai Pakakong ได้โพสต์ภาพกระดูกบรรพบุรุษ และญาติพี่น้อง ถูกคนร้ายนำเอาโกศและขวดโหลเก็บกระดูกบริเวณกำแพงด้านทิศตะวันออก หน้าโบสถ์วัดวิทยานุกิจ ม.1 ต.หมูม่น อ.เมืองอุดรธานี พร้อมกับระบุข้อความว่า “ไม่น่าเชื่อเมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ มันทำลายแม้กระทั่งกระดูกผี…เทกระจัดกระจายรอบวัด #เดนมนุษย์..เทโกฏิ กระดูกพ่อ แม่ บรรพบุรุษ เพื่อจะเอาเงินในโกฏิ เพียงไม่กี่บาท #น้ำตาจิไหล มันไม่รู้ของต่ำ ของสูง คุณค่าของบรรพบุรุษ #ชั่วช้าเลวทราม สุดๆๆ มันทำให้เห็นความน่ากลัว ความไม่ปลอดภัยในชุมชน ยาเสพติดมันรุนแรงหนัก จนเอาไม่อยู่ ขอผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ตั้งใจ จริงจังกับปัญหา อย่าปล่อยผ่าน มันรุกล้ำแม้กระทั่งคนที่ตายไปแล้ว กระดูกผี มันห่วยสุดๆ #สังคมต้องการดูแล #ไม่เคยเห็นมาก่อน #ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง #ปราบยาเสพติด” เหตุเกิดช่วงกลางดึกวันที่ 19 พฤษภาคม ซึ่งตรงกับวันพระ
ต่อมาเมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 21 พฤษภาคม 2568 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดวิทยานุกิจ หรือวัดบ้านหมูม่น ม.1 ต.หมูม่น อ.เมือง จ.อุดรธานี พบกับพระครูประภากร สาธุกิจ อายุ 58 ปี เจ้าอาวาส นายชัยชนะ รูปเหมาะ อายุ 51 ปี ผญบ.ม.1 บ้านหมูม่น นายคำรณ ชัยฤทธิ์ อายุ 66 ปี สารวัตรกำนัน ต.หมูม่น และนางจันใด ผกากอง อายุ 55 ปี ชาวบ้านผู้เสียหาย และเป็นคนโพสต์ลงสื่อโซเชียล นำผู้สื่อข่าวตรวจสอบกระดูกบรรพบุรุษชาวบ้านหมูม่น ที่ถูกคนร้ายย่องเข้าวัดมาทุบฝาปิดช่องเก็บกระดูก นำโกศและขวดโหลบรรจุกระดูกผีออกมาเทกระดูกออก เพื่อเขี่ยหาเงินเหรียญ ที่ญาติผู้ตายนำมาบรรจุไว้ในธาตุที่ทำเป็นกำแพงรั้ววัด เสียหายจำนวน 60-70 ช่อง กระดูกบางส่วนญาติคนตายได้เก็บเข้าธาตุแล้ว แต่ยังคงเหลือบางส่วน ที่ไม่สามารถแยกแยะได้ว่าเป็นกระดูกของญาติผู้ใดบ้าง
นางจันใด กล่าวว่า อัฐิในโกศที่อยู่ในเบ้ามีทั้งหมด 6 คน มีกระดูกของพ่อแม่ พี่ชาย น้าชาย และตายาย ซึ่งเวลาตนมีโอกาสก็จะมาทำบุญไหว้อัฐิของพ่วงท่าน และเมื่อช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาก็เป็นวันไหว้อัฐิสรงน้ำธาตุบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว ตนก็ได้เดินทางมาทำบุญ และก็มาทำแบบนี้ตลอดทุกปี โดยภาพที่เห็นก็มีคนร้ายมาทำลาย และรื้อ ตนรู้สึกเสียใจที่เขามาทำร้ายจิตใจมาก ตนไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ที่คนร้ายมาทำกับเรา และยิ่งมาเห็นภาพที่ไม่ได้เกิดขึ้นกับตนเพียงคนเดียว แต่เกิดกับคนในชุมชนจำนวนมาก ซึ่งตนเห็นภาพตอนแรก ที่ก่อนตนจะมาเจอ ก็มีคนมาเก็บกระดูกญาติเข้าไปไว้เหมือนเดิมแล้ว มันเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น มันเป็นสิ่งที่สะเทือนใจมาก และมันเป็นเรื่องลบหลู่ความเชื่อทางศาสนาพุทธ และบรรพบุรุษของเรา
นางจันใด กล่าวต่อไปว่าตนได้ถูกสอนมาว่าให้มีการเคารพอัฐิบรรพบุรุษ และมากราบไหว้ทำบุญ ให้กับคนที่เสียชีวิตไปแล้ว แต่วันนี้สิ่งที่ตนเคารพได้ถูกทำลาย เพราะยุคนี้มันเปลี่ยนไป อาจเป็นสาเหตุที่ตนเข้าใจว่าเพราะยาเสพติด ทำให้คนเสพประสาทหลอน ทำให้ไม่มีสมองในการคิด ขนาดเป็นที่เก็บกระดูกผีก็ยังมาค้นหาทรัพย์สินจากคนที่ตายไปแล้ว ตนคิดว่าสังคมยุคนี้มันน่าเป็นห่วง คิดว่าคนที่มาทำต้องติดยาเสพติด จนมีปัญหาทางประสาท หรือสมองคิดไม่ได้ มันน่าจะหลอน หรือมีปัญหา อยากทำอะไรก็ทำ และคิดเหมือนคนปกติไม่ได้แล้ว
“คนร้ายน่าจะอยากได้เงินไปซื้อยาเสพติด เพราะเคยทำมาแล้ว จึงกลับมาทำอีก และก็ไม่รู้จะมีครั้งที่ 4 หรือไม่ หากยังจับคนก่อเหตุไม่ได้ ตนก็กลัวความปลอดภัยในชุมชน อยากฝากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับตัวคนร้ายที่มาก่อเหตุให้ได้โดยเร็ว เพื่อให้คนในชุมชนอยู่กันอย่างมีความสุข อย่าให้ยาเสพติดมาเป็นปัญหาในชุมชนต่อไป ส่วนคนที่ก่อเหตุตนก็อยากให้เลิกทำแบบนี้ และครอบครัวของคนทำก็ให้ว่ากล่าวตักเตือน และดูแลสอดส่องอย่างใกล้ชิด”
ขณะที่ นายชัยชนะ ฯ กล่าวว่า เมื่อวันจันทร์ที่ 19 พฤษภาคม ซึ่งตรงกับวันพระ มีชาวบ้านแจ้งไปว่า ถูกคนร้ายทุบฝาปิดช่องเก็บกระดูกของญาติพี่น้อง และบรรพบุรุษ นำโกศและโหลบรรจุกระดูกผีออกมาเทบริเวณรั้ววัด ที่สำหรับใส่ตามช่องของรั้ววัดไว้ ซึ่งครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก แต่โดนมาอย่างนี้ 3 ครั้งแล้ว และคนร้ายจะเลือกก่อเหตุช่วงกลางดึกที่ตรงกับวันพระ ครั้งแรกช่วงปลายปีที่ผ่านมา คนร้ายทุบฝาปิดช่องเก็บกระดูกออกมาเทไว้ที่พื้น ขโมยเอาโกศทองเหลือง และเงินที่อยู่ด้านในโกศ เสียหายประมาณ 20 ช่อง ส่วนครั้งที่ 2 เป็นช่วงวันพระใหญ่ในช่วงต้นเดือนนี้ เสียหายไปเกือบ 20 ช่อง และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ก็ตรงกับวันพระเช่นกัน เสียหายเกือบ 40 ช่อง รวม 3 ครั้ง โดนไปเกือบ 70 ช่อง
คนร้ายจะนำกระดูกผีออกมาเทตรงหน้าโบสถ์ เพราะอีกฝั่งของกำแพงรั้ววัดคนร้ายจะไม่ไปเอา เนื่องจากติดกับกุฎิของพระเจ้าอาวาสที่มีหมาเยอะ จะไปเอาทางหน้าโบสถ์ฝั่งทิศตะวันออก และจะเอาโกศและขวดโหลนำออกมาเท เพื่อเขี่ยหาเงินเหรียญ 5-10 บาท เพราะคิดว่าช่วงสงกรานต์ และวันพระใหญ่ที่ผ่านมา ญาติพี่น้องลูกหลานจะมาทำบุญสรงน้ำกระดูกผีปู่ย่าตายาย อาจจะใส่เงินเหรียญไว้ตอนมาทำบุญ หลังเกิดเหตุทางผู้ใหญ่บ้านฝ่ายปกครอง และสารวัตรกำนัน ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ สอบถามชาวบ้านว่าเป็นเด็กที่ไหนหรือคนที่ไหน ส่วนตอนนี้ก็ยังไม่ทราบตัว และอาจจะเป็นเด็กติดยา หรือคนสติไม่ดีก็ได้
“ที่ผ่านมาเราไม่ได้นิ่งนอนใจ ตนและชุด ชรบ.ออกตรวจเรื่อยๆในช่วงกลางคืน แต่ไม่ได้เน้นที่วัด เราเน้นตามถนนหนทาง และจุดเสี่ยง ของวัยรุ่นที่เขาจะรวมตัวกัน ส่วนทางท่านผู้ว่าฯ และนายอำเภอ ก็ไม่ให้ทิ้งตรงนี้ เพราะเราต้องสอดส่องดูแลชาวบ้าน และให้สแกนหาว่าลูกบ้านคนนี้ติดยาขายยาหรือไม่ และจะได้รายงานไปยังทางอำเภอ เพื่อจะได้แก้ปัญหายาเสพติด ส่วนในกรณีที่คนร้ายเอากระดูกของญาติพี่น้องออกมาเท ทำให้ชาวบ้านเสียใจมาก เพราะว่าเป็นจุดศูนย์รวมทางจิตใจของชาวบ้าน อยากให้ชาวบ้านสบายใจ ทางเราจึงได้ออกตรวจ ที่วัดและแจ้งข่าวสารไปทุกวัดในพื้นที่ เพราะเราไม่อยากให้วัดใกล้เคียงโดนแบบวัดที่บ้านของเรา กลัวจะเป็นพฤติกรรมเลียนแบบ และตอนนี้เราอยากจะหาคนที่กระทำความผิดให้เจอ หลังเกิดเหตุได้ไปแจ้งลงบันทึกประจำวันไว้เรียบร้อยแล้ว”
ด้านพระครูประภากร สาธุกิจ เปิดเผยว่า อันนี้ก็ขอเตือนคนที่ทำในสิ่งไม่ดี ที่มาขโมยโกศของพ่อแม่พี่น้องชาวบ้านหมูม่น ที่ล่วงลับไปแล้ว ถือว่าเป็นบาปเป็นกรรมหนักหลาย เพราะกระดูกพวกนี้ชาวบ้านเอาไว้บูชา ยามวันสำคัญเขาจะได้มาทำบุญ มาบูชา กราบไหว้ เพื่อจะได้มีความสำคัญทางจิตใจแก่ลูกหลาน ที่รักษาไว้ ก็อยากจะบอกให้คนที่กระทำความผิดให้เลิกพฤติกรรมแบบนี้ สมบัติมันในโกศก็ไม่ได้เยอะ มีแค่เงินเหรียญเงินบาท ที่สัปเหร่อเค้าใส่ไว้มันก็ไม่ได้เยอะมากมาย แต่คนที่กระทำความผิดได้ทำร้ายจิตใจของลูกหลานคนตาย ที่ได้ไปเทกระดูกของญาติพี่น้อง ปู่ย่าตายาย ที่เขาเก็บดูแลรักษาไว้ ทำแบบนี้มันไม่เหมาะสม เราเป็นชาวพุทธ ต้องดูแลรักษาวัด เพราะเรานับถือศาสนาพุทธ และอยากให้เลิกทำแบบนี้ มันเป็นบาปเป็นกรรม
“ทางพุทธศาสนาท่านว่าไว้ การที่เราทำลายกระดูกของคนที่ล่วงลับไปแล้ว มันเป็นบาปเป็นกรรม ส่วนคนที่มาทำพฤติกรรมแบบนี้ รู้สึกว่าจิตใจมันต่ำเกินไป แทนที่จะให้เค้าอยู่เย็นเป็นสุข ก็มาทำลายกระดูก เพื่อหวังเงินเล็กๆน้อยๆ ทำให้ญาติพี่น้องลุกหลานเขาเสียใจ ก็ขอให้เลิกซะ ส่วนอันไหนที่ผ่านไปแล้วก็ผ่านไป และขออย่าให้ทำอีกเลย บางคนมาเห็นโกศบรรจุกระดูกบรรพบุรุษ ที่โดนเทกระจัดกระจาย ต่างคนก็ต่างน้ำตาไหลด้วยความเสียใจ ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้ว ส่วนก่อนหน้านี้ก็จะมีแค่เล็กๆน้อยๆ แต่ครั้งนี้ทำเกินไปมาก ไม่ใช่แค่ว่าก่อนหน้านี้หรือวันพระใหญ่ ทางเราก็เก็บกระดูกไว้ดีแล้ว แต่ครั้งนี้เขาทำเยอะเกินไป ทำลายถึง 40 ช่อง แต่ละช่องมี 5-6 โหล สภาพที่เห็นตอนนี้คือเทปนเปกันไปหมด ไม่รู้ว่าของใครของใคร และไม่อยากให้มีอีก เราเป็นชาวพุทธ อาตมาก็ขอบิณฑบาต ทั้งที่เจตนาและไม่เจตนาก็ขอให้เลิกทำ เพราะมันเป็นสิ่งที่ไม่ดีกับคนที่กระทำ”
////////////////////////
แสดงความคิดเห็น