อีกแนวทางหนึ่งที่ช่วย ลดการเผา ลดค่าฝุ่น สร้างแปลงเกษตรริมทางให้สวยงาม รับท่องเที่ยวอีกด้วย
เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2568 ที่บริเวณแปลงนาของ นางพิสมัย พิมพ์ทอง หมู่ที่ 5 ตำบลนาคำไฮ อำเภอเมืองหนองบัวลำภู ริมถนนหมายเลข 210 หนองบัวลำภู -เลย นายศศิน พัฒนภิรมย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู เป็นประธานจัดกิจกรรม KICK OFF โครงการไถคนละครึ่ง ส่งเสริมการหยุดเผาในพื้นที่เกษตร หยุดเผา หยุดฝุ่น เพื่อคุณ เพื่อเรา
โดยมี นายอำพน ศิริคำ เกษตรจังหวัดหนองบัวลำภู เกษตรอำเภอ ตัวแทนบริษัทรถไถนาคูโบต้า นายอำเภอเมืองหนองบัวลำภู นายกเทศมนตรีตำบลนาคำไฮ และชาวบ้านแกนนำเกษตรกรเข้าร่วม ในการเปิดกิจกรรม โครงการไถคนละครึ่ง เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการหยุดเผาในพื้นที่การเกษตร “หยุดเผา หยุดฝุ่น เพื่อคุณ เพื่อเรา” ให้เกษตรกรได้รับรู้ถึงแนวทางการจัดการเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรในพื้นที่ดินของตนเอง ให้ปรับเปลี่ยนแนวทางในการทำการเกษตรเป็นการทำการเกษตรปลอดการเผา
และร่วมกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในชุมชน ลดการเผา ลด PM 2.5 ซึ่งในวันนี้ ค่า PM2.5 ของจังหวัดหนองบัวลำภู สภาพอากาศอยู่ในระดับปานกลาง อยู่ที่ 35.8 มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่วนค่า AQI อยู่ที่ 93 ซึ่งจากสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้ทางจังหวัดยังต้องเดินหน้าเร่งดำเนินการ สร้างการประชาสัมพันธ์การรับรู้ให้กับเกษตรกรและชาวบ้านในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
นายอำพน ศิริคำ เกษตรจังหวัดหนองบัวลำภู กล่าวว่า เนื่องจากปัญหาวิกฤตหมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ซึ่งจังหวัดหนองบัวลำภู มีหลายสาเหตุและสาเหตุหลักมาจาก ไฟป่าในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ และการเผาในพื้นที่เกษตรกรรม โดยเฉพาะการเผาไร่อ้อย การเผาเศษฟางและตอซังข้าว จึงมีการจัดโครงการไถคนละครึ่ง โดยวันนี้มีการสาธิตการไถกลบตอซังข้าวและหว่านเมล็ดพันธุ์ปอเทือง ซึ่งปกติเกษตรกรจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการไถกลบเต็มจำนวน ภาคเอกชนจึงเข้ามาสนับสนุนช่วยเหลือค่าใช้จ่ายให้เกษตรกรลดลงครึ่งราคา เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของเกษตรกร ภาครัฐ และภาคเอกชน ป้องกันและแก้ปัญหาการเผาในพื้นที่การเกษตร ให้เกษตรกรสามารถลดการเผาเศษวัสดุที่เหลือใช้ภาคการเกษตรในพื้นที่
ซึ่งการไถกลบตอซังเพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์แก่ดิน ลดการเผา ลด PM2.5 มีพื้นที่เป้าหมาย 200 ไร่ ไร่ละ 300 บาท เกษตรกรออกครึ่งหนึ่ง คือ 150 บาทต่อไร่ ที่เหลือภาคเอกชนเข้าช่วยเหลือ อีกทั้งยัง เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว จากการปลูกปอเทือง เนื่องจากหลังปลูก 45 วัน ปอเทืองจะออกดอกสวยงามเหลืออร่าม สร้างภูมิทัศน์ที่งดงามเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวอีกทางหนึ่ง รวมไปถึงเป็นการสร้างการรับรู้ ถึงมาตรการเกี่ยวกับการหยุดเผา และรณรงค์ให้เกษตรกรช่วยกันหยุดเผาในพื้นที่ ให้หันมาทำการเกษตรปลอดการเผา โดยการปลูกพืชใช้น้ำน้อย รวมถึงสร้างมูลค่าจากเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อลดการเผา ลดPM2.5 อีกด้วย
นายอำพนฯเกษตรจังหวัดหนองบัวลำภู กล่าวว่า วันนี้ได้ kick off โครงการไถคนละครึ่ง โดยความร่วมมือระหว่างสำนักงานเกษตรจังหวัดหนองบัวลำภู กับ บริษัท คูโบต้าจักรเกษตรยนต์จำกัด " โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างโอกาสให้เกษตรกร ผู้ทำนาที่มีฐานะยากจน ไม่สามารถที่จะไถกลบตอซังข้าวได้เนื่องจากค่าจ้างไถค่อนข้างแพง คือไร่ละประมาณ 300-600 บาท ขึ้นอยู่กับแต่ละพื้นที่ ขณะที่นโยบายรัฐบาลต้องหยุดเผา 100% เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรดังกล่าว ตนจึงได้คิดโครงการไถคนละครึ่ง ขึ้น โดยเชิญภาคเอกชนที่มีศักยภาพ และมีจิตเป็นกุศล มาช่วยสนับสนุนเกษตรกร โดยให้เกษตรกรออกค่าไถครึ่งหนึ่ง ส่วนที่เหลือให้เอกชนช่วย ซึ่งจะทำให้เกษตรกรมีโอกาสที่จะไถกลบต่อซังข้าวได้มากขึ้น เพิ่มความร่วนซุย เพิ่มปุ๋ยให้แก่ดิน และลดความเสี่ยงจากการเผา ลด PM 2.5
เกษตรจังหวัดหนองบัวลำภู กล่าวเพิ่มเติมอีกว่าสำหรับที่ดินแปลงนี้ ซึ่งอยู่ติดถนนหลัก เมื่อไถกลบตอซังแล้ว ได้ร่วมกันหว่านเมล็ดปอเทืองและจะออกดอกหลังปลูกประมาณ 45-50 วัน จะเป็นช่วงที่ใกล้เคียงเทศกาลสงกรานต์พอดีและเชื่อว่าจะเป็น แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรของหนองบัวลำภู อีกด้วย ทั้งนี้แนวคิดโครงการไถคนละครึ่ง ดังกล่าว กำลังประสานภาคเอกชนรายอื่นๆ ทั้งในภาคการเกษตรและนอกภาคการเกษตร ที่มีผลกำไรดี มีจิตเป็นกุศล มาร่วมโครงการดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดหจก.ศรีปรีชา โฮลดิ้ง(ยันม่าร์)ได้ทำ MOU เข้าร่วมโครงการแล้วอีกจำนวน 200 ไร่ รวมเป็นพื้นที่ 400 ไร่ จะเริ่มไถในเร็ววันนี้ นายอำพน ศิริคำ เกษตรจังหวัดหนองบัวลำภู กล่าวในที่สุด
สุภัชรกานต์ แก้วสิงห์ หนองบัวลำภู
แสดงความคิดเห็น