เมื่อเวลา 9.00 น. วันที่ 23 กุมภาพันธ์ ที่บริเวณจุดตรวจสัมภาระศุลกากร ภายในอาคารผู้โดยสารขาเข้า ด่านพรมแดนคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว

เจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานประกอบด้วย พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ตม.จว.สระแก้ว, พ.ต.อ.อโณทัย จินดามณี ผกก.สภ.คลองลึก ,ร้อยโทสาโรจน์ โยธา ผู้บังคับกองร้อย ทหารพรานที่.1201 ชค.ทพ.12 (ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่ 1201ชุดควบคุมกรมทหารพรานที่12) และ นายด่านศุลกากรอรัญประเทศ  ได้ร่วมกันตรวจบุคคลแลกระเป๋าสัมภาระที่นำติดตัวเข้าประเทศ  อย่างเข้มงวด ตามมาตรการป้องกันและสกัดกั้นขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ลักลอบเดินทางและลักลอบขนอุปกรณ์เครื่องมือสื่อสาร ผ่านเข้า-ออก จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก  ตามนโยบายซีล บอเดอร์ สกัดกั้นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ย้ายฐานปฏิบัติการจากประเทศเมียนมา มาประเทศกัมพูชา 

ขณะปฎิบัติหน้าที่ได้ตรวจพบชายต้องสงสัยลักษณะคล้ายชาวอินเดียสะพายกระเป๋าเป้สีฟ้าใบใหญ่ เดินเท้าข้ามด่านพรมแดน จากฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา เข้ามา จนท.จึงได้แสดงตัวขอตรวจค้น สอบทราบว่าเป็นคนไทยเชื้อสายอินเดีย ชื่อนายเอ (นามสมมุติ) อายุ 47 ปี มีภูมิลำเนา อยู่ กทม.เมื่อตรวจค้นในกระเป๋าเป้ ที่สะพายอยุ่ พบเงินสดสกุลบาทของ

ไทย เป็นธนบัตร ฉบับละ 1,000 บาท  มัดรวมกันมัดละ 100,000บาท จำนวน 157 มัด รวมเป็นเงินทั้งหมดจำนวน 15.7 ล้านบาทซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋า เบื้องต้นนายเอ อ้างว่าเป็นเงินที่ได้มาจากการเล่นพนันในบ่อนกาสิโนแห่งหนึ่งในฝั่งปอยเปต  แต่ จนท.ยังไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากโดยพฤติการณ์แล้ว น่าจะเป็น เป็นการลักลอบขนเงินสดเข้าประเทศ โดยไม่สำแดงกับศุลกากร อาจจะเป็นเงินที่ได้มาอย่างไม่ถูกต้องหรือเป็นเงินที่มีส่วนพัวพันกับขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์

ชุดจับกุมจึงนำตัวไปสอบสวนเพิ่มเติม พร้อมกับแจ้งขอกล่าวว่าลักลอบนำเงินตราเข้าราชอาณาจักรโดยไม่แจ้งรายการเกี่ยวกับเงินตราต่อพนักงานศุลกากรในขณะผ่านศุลกากรเป็นการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตาม มาตรา 242 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 และเป็นการฝ่าฝืนหรือละเลยไม่ปฏิบัติตามประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน (ฉบับที่ 6) จากนั้นจึงไดั คุมตัวส่ง จนท.ฝ่ายกฎหมาย ด่านศุลกากรอรัญประเทศ  ดำเนินคดี และ ให้ จนท.ชุดสืบสวน ตม.จว.สระแก้ว สืบสวนขยายผลหาเส้นทางการเงินจำนวนนี้ต่อไป


แสดงความคิดเห็น