นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล

สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 3 จังหวัดแพร่ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึง พ.ร.บ. ภาษีสรรพสามิตว่า พ.ร.บ. ภาษีสรรพสามิตได้ผ่านสภาผู้แทนราษฎรแล้วว่า ต่อไปนี้การผลิตสุราจะไม่มีการจำกัดอะไรเลย ใครจะผลิตก็ให้ไปขออนุญาต


ที่สรรพสามิต ไม่มีจำกัดว่าเป็นโรงงานขนาดเล็ก ขนาดใหญ่ อีกเรื่องแหล่งน้ำการผลิตต้องห่างจากแหล่งน้ำ 100 เมตร แต่ถ้ามีระบบบำบัดน้ำเสียก็

คงไม่จำเป็น ซึ่งกฎเกณฑ์ต่างๆถูกปลดล็อคไป ในอดีตให้ทำแต่สุราขาว ต่อไปนี้สามารถผลิตสุราขาว และสุราสีได้ ขณะนี้รอระเบียบกฎ

เกณฑ์ของกรมสรรพสามิตที่จะออกมาล้อกับกฎหมาย พ.ร.บ.สรรพสามิต ที่ผ่านจาก

สภาผู้แทนราษฎรแล้ว และจะเข้าสู่ วุฒิสภาต่อไป

"ขอให้พี่น้องเกษตรกรที่จะแปรรูปผลิตผลทางการ

เกษตรจากข้าว ผลไม้ มันสำปะหลัง หรืออ้อย ที่สามารถ

นำมาผลิตสุราได้ ก็จะได้นำมาแปรรูปเสริมสร้างรายได้เพิ่มเติมได้ ทั้งนี้เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2568 ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาร่างพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ... หรือที่เรียกกันว่ากฎหมายสุราชุมชน โดยเป็นการพิจารณาในวาระ 2 และ 3 ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2567 ทางสภาผู้แทนราษฎร ได้พิจารณาร่างแก้ไขกฎหมายสรรพสามิต 3 ฉบับในวาระแรก และรับหลักการ 2 ร่างคือ "สุรารวมไทย ของพรรครวมไทยสร้างชาติ และสุราชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก ของพรรคเพื่อไทย"

"ส่วนร่างของพรรคประชาชน ที่แม้จะผลักดันในชื่อ สุราก้าวหน้า แต่ก็ถูกสภาผู้แทนราษฎรตีตกนั้น ด้วยเหตุผล

ก้าวหน้าและเสรีเกินไป หลังจากรับหลักการในวาระแรก

เมื่อปี 2567 จึงเข้าสู่การตั้งกรรมาธิการเพื่อแปรญัตติ โดยยึดร่างสุราชุมชนของพรรคเพื่อไทยเป็นหลัก ก่อนที่จะเข้าสู่สภาวาระ 2 และวาระ 3

ร่างกฎหมายที่ออกมาจากคณะกรรมาธิการฯ เป็นการปลดล็อกการผลิตเพื่อชุมชุน


สร้างอาชีพ สร้างรายได้ เพื่อการค้าเป็นหลัก ทำให้รายละเอียดการแก้ไขเกิดขึ้นแค่มาตราเดียว คือมาตรา 153 สาระสำคัญ 2 ข้อของการแก้ไขพ.ร.บ. สรรสามิต คือ 1. สนับสนุนให้สหกรณ์ กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน องค์กรเกษตรกร หรือผู้ประกอบการรายย่อย สามารถขอรับใบอนุญาตผลิตสุราเพื่อการค้าได้ โดยไม่ใช้หลัก


เกณฑ์ที่เป็นการเลือกปฏิบัติหรือผูกขาดทางเศรษฐกิจโดยไม่เป็นธรรม หรือสร้างภาระเกินสมควร 2. สนับสนุนการใช้สินค้าเกษตรในประเทศมาผลิตหรือนำมาเป็นส่วนผสมในการผลิตสุราทุกประเภท ซึ่งหลังจากนี้ กฎหมายจะเข้าสู่

การพิจารณาของวุฒิสภา หาก 

ของวุฒิสภาเห็นชอบ กรมสรรพสามิตจะต้องออกกฎกระทรวงมาแก้ไขภายใน 180 วัน พ.ร.บ. ภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2560 มาตรา 153 กำหนดว่า ผู้ใดประสงค์จะผลิตสุราหรือมีเครื่องกลั่นสำหรับผลิตสุราไว้ในครอบครอง ให้ยื่นคำขออนุญาต ดังนั้นการผลิต

สุรา ไม่ว่าจะเพื่อจุดประสงค์เพื่อบริโภคเองในครัวเรือนหรือเพื่อการค้า ก็ไม่สามารถทำได้ หากไม่ได้รับใบอนุญาต

แต่ร่างแก้ไขมาตรา 153 ที่ผ่านการพิจารณา คือ "มาตรา 153 ผู้ใดประสงค์จะผลิตสุรา

หรือมีเครื่องกลั่นสำหรับผลิตสุราไว้ในครอบครอง ให้ยื่นคำขออนุญาตต่ออธิบดีและ

ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีประกาศกำหนด การขออนุญาตและการออกใบ

อนุญาตตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกระทรวง

กฎกระทรวงตามวรรคสอง ให้

คำนึงถึงมาตรฐานการผลิตสุรา และต้องสนับสนุนให้สหกรณ์ กลุ่มเกษตรกรวิสาหกิจชุมชน องค์กรเกษตรกร หรือผู้ประกอบการรายย่อย สามารถขอรับใบอนุญาตผลิตสุราเพื่อการ

ค้า โดยนำสินค้าเกษตรในประเทศมาผลิตเป็นสุราทุก

ประเภทที่อาจมีสีหรือมีกลิ่นได้ แต่มิให้กำหนดหลักเกณฑ์ใดในการพิจารณาออกใบ

อนุญาตที่เป็นการเลือกปฏิบัติหรือผูกขาดทางเศรษฐกิจโดยไม่เป็นธรรม หรือสร้างภาระเกินสมควร เว้นแต่เป็นการกำหนดสัดส่วนความเป็น

เจ้าของของบุคคล ซึ่งมิใช่บุคคลสัญชาติไทย หรือเป็น

การผลิตสุราของรัฐวิสาหกิจที่มีวัตถุประสงค์เพื่อการผลิตสุรา หรือเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบอุตสาหกรรมรายย่อย

ใบอนุญาตที่ออกตามมาตรานี้ให้มีอายุ 3 ปีนับแต่วันที่ได้รับอนุญาต" โดยรายละเอียดทั้งหมดถูกกำหนดขึ้นเพื่อเป็นแนวทางในการออก กฎกระทรวง ว่าต้องไม่ขัดหรือแย้งกับ พ.ร.บ. ฉบับแก้ไขนี้ และกรมสรรพสามิตต้องออก

กฎกระทรวง ประกาศ หรือระเบียบ ภายใน 180 วัน"


ธีรพงษ์ ธงออน/แพ

ร่ 061-595-5297




















แสดงความคิดเห็น