สืบเนื่องจากเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 24 มกราคมที่ผ่านมา มีคนร้ายก่อเหตุอุกอาจขี่จักรยานยนต์สีน้ำเงิน “ปาระเบิดไปป์บอมบ์“ ที่บ้านของบิดามารดาของนายพลภูมิ (ผช.รมว.กระทรวงวัฒนธรรม) โดยหลังเกิดเหตุชุดสืบสวน บก.น.2 ชุดสืบนครบาล และ สืบสวนสน.ในพื้นที่รับผิดชอบไล่กล้องวงจรปิดกระทั่งสามารถทราบตัวผู้ก่อเหตุคือ “นายนิว” เป็นอดีตคนงานส่งเอกสารของบริษัทแห่งหนึ่งซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับบ้านหลังที่เกิดเหตุ
กระทั่งช่วงเย็นที่ผ่านมาชุดสืบสวน สน.สุวินทวงศ์ ได้ออกตรวจพื้นที่ปราบปรามยาเสพติด ในซอยสุวินทวงศ์ 50 พบนายนิวมีท่าทีพิรุธ จึงเข้าไปขอตรวจค้นปรากฏว่ามีลักษณะตรงตามตำหนิรูปพรรณที่ตำรวจกำลังต้องการตัว จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำและแจ้งให้สน.มีนบุรีและสน.คันนายาวรับทราบ จากการสอบปากคำนายนิว ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุดังกล่าวจริงและยังเคยไปก่อเหตุในลักษณะเดียวกันที่บริษัทแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ตรงข้ามซอยรามอินทรา 109 ซึ่งเคยทำงานที่บริษัทดังกล่าวแต่ถูกไล่ออก จึงเกิดความแค้นและตัดสินใจซื้อประทัดยักษ์ไล่นกมาประกอบเป็นระเบิดไปป์บอมป์ ไล่ก่อเหตุไปยังพื้นที่ต่างๆ ทั้งนี้เจ้าตัวยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องทางการเมืองหรือมีผู้ใดสั่งการทั้งสิ้น
ด้านนายพลภูมิ ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ขอขอบคุณ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งนี้ขอชื่นชมการทำงานของตำรวจที่เร่งรัดติดตามจับกุมคนร้ายได้ในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง สำหรับการก่อเหตุดังกล่าวถือเป็นคดีที่อุกอาจมาก ส่งผลให้พี่น้องประชาชนที่อยู่บริเวณข้างเคียงขวัญผวาและหวาดระแวง
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหา มีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , ทำให้เกิดระเบิดจนทรัพย์สินเสียหาย, ข้อหาทำให้เสียทรัพย์, และบุกรุกในเวลากลางคืน โดยจะแยกดำเนินคดีต่างกรรมต่างวาระกันทั้ง 2 สถานที่
จากการตรวจสอบประวัติของนายนิวพบว่า เคยทำงานที่บริษัทดังกล่าว ตั้งแต่ปี 2557 และต่อมาปี 2559 ถูกจับกุมข้อหาลักทรัพย์ฯ จึงถูกให้ออกไป ต่อมาในปี 2561 ได้กลับมาสมัครงานที่บริษัทเดิมอีกครั้งและทำงานจนถึงปี 2563 แต่พบว่ามีปัญหายาเสพติด จึงถูกให้ออกจากบริษัท เป็นสาเหตุทำให้ผู้ต้องหาเกิดความคับแค้นใจและมาก่อเหตุดังกล่าว
แสดงความคิดเห็น