กระทรวงศึกษาลุย ขับเคลื่อนการศึกษา 2568 “สุรศักดิ์” ย้ำสร้างความร่วมมือในพื้นที่ "ปฏิวัติการศึกษาแก้ปัญหาประเทศ" ปั้นคนไทย "ฉลาดรู้ ฉลาดคิด ฉลาดทำ" พร้อมเน้นย้ำนำเด็กที่หลุดจากระบบการศึกษาภาคบังคับ กลับเข้าสู่ระบบการศึกษาให้หมด
(14 พ.ย.67) นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุม ขับเคลื่อนนโยบายการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในระดับพื้นที่ ประจำปีงบประมาณ 2568 เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ และส่งเสริมนโยบายด้านการศึกษาอย่างเป็นรูปธรรม โดยเน้นการพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพการศึกษาของคนไทยทุกช่วงวัย ร่วมด้วย นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และ ผู้บริหารระดับสูง โดยมีนายปิยะ ปิจนำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ให้การต้อนรับ และมีผู้เข้าร่วมจากหน่วยงานทั้งในส่วนกลางและพื้นที่ประมาณ 330 คน ณ โรงแรมเทพนคร (อัลวาเรซ) อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์
นายสุรศักดิ์ กล่าวว่า กลไกในการทำงานในภูมิภาค ของกระทรวงศึกษาธิการ นอกจากคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค (คปภ.) ที่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ เป็นประธาน มีอำนาจหน้าที่กำหนดทิศทางการดำเนินงานของกระทรวงศึกษาธิการ ในระดับภูมิภาคหรือจังหวัดแล้ว
ยังมีสำนักงานศึกษาธิการภาค และสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด ที่เปรียบเสมือนตัวแทนของกระทรวงศึกษาธิการในระดับพื้นที่ ทำหน้าที่เสนาธิการในการวางแผนและขับเคลื่อนการศึกษาในกลุ่มจังหวัดและจังหวัด โดยอาศัยกลไกของคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด หรือ กศจ. ในการอำนวยการ ส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาการศึกษาแบบร่วมมือกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในพื้นที่นั้น ๆ ซึ่งกลไกนี้ถือเป็นจุดแข็งของกระทรวงศึกษาธิการ ในการประสานการบริหารงานระหว่างส่วนราชการ และยังสอดคล้องกับการทำงานในภูมิภาค
สำหรับแนวทางการขับเคลื่อนนโยบายสู่การปฏิบัติ ขอให้ส่วนราชการในสังกัด และองค์กรในกำกับกระทรวงศึกษาธิการ นำนโยบายการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการไปเป็นกรอบแนวทางในการจัดการศึกษา และดำเนินงานอย่างเป็นรูปธรรม โดยจัดทำ Action Plan ให้สอดคล้องกับนโยบาย ซึ่งในการขับเคลื่อนนโยบาย ไม่จำเป็นว่าทุกหน่วยงานจะต้องดำเนินการทุกนโยบาย ให้ดำเนินการเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้อง และให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด
“ผมเชื่อมั่นว่า สำนักงานศึกษาธิการภาคทั้ง 18 ภาค และสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดทั้ง 77 จังหวัด จะเป็นกำลังสำคัญ และเป็นตัวแทนของกระทรวงศึกษาธิการขับเคลื่อนภารกิจที่ตอบสนองต่อนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ และตอบสนองต่อนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ และตอบสนองต่อเป้าหมายตามยุทธศาสตร์การพัฒนากลุ่มจังหวัด และจังหวัดได้อย่างแน่นอน” รมช. ศธ. กล่าว
นายสุรศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้มีข้อสั่งการและแนวปฏิบัติ โดยให้นำนโยบายด้านการศึกษาของคณะรัฐมนตรีที่แถลงต่อรัฐสภาและนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการไปดำเนินการปฏิปฏิปติอย่างเป็นรูปธรรม (Action) ยึดหลักคุณธรรมจริยธรรม หลักธรรมาภิบาลในการปฏิบัติงาน และดำเนินการป้องกันและปราบปรามการทุจริตอย่างเคร่งครัด ตลอดจนน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่การปฏิบัติ ร่วมกันปลูกฝังการรักษาสิ่งแวดล้อมและมุ่งสู่การใช้พลังงานสะอาด ส่งเสริมการอ่านและการคิดวิเคราะห์อย่างเป็นกระบวนการ โดยผู้บริหารและครูต้องเป็นต้นแบบ
ส่วนการลงพื้นที่ตรวจราชการหรือตรวจเยี่ยมให้ดำเนินการอย่างเรียบง่าย โดยเฉพาะผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องมาร่วมรับการตรวจราชการหรือตรวจเยี่ยม โดยให้ดำเนินการอย่างเรียบง่าย และประหยัด ยึดบทบาทเป็นผู้ให้คำปรึกษา แนะนำ และให้ข้อเสนอแนะแก่ศึกษาธิการจังหวัด เพื่อให้สามารถหาแนวทางในการขับเคลื่อนงานด้านการศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสมตามบริบทของแต่ละพื้นที่
รวมทั้งเรื่องเด็กที่หลุดจากระบบการศึกษา ซึ่งปัจจัยหลักเกิดจากรายได้ในครอบครัว รมว.ศธ. ได้สั่งการให้สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับทุกหน่วยงาน ที่มีสถานศึกษาในสังกัดในพื้นที่ โดยต้องพยายามนำเด็กกลับเข้าสู่ระบบการศึกษาให้หมด ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นความท้าทายอย่างยิ่งที่ทุกท่านจะได้ช่วยกันระดมความคิดเห็น เพื่อหาแนวทางในการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพต่อไป
สุรชัย พิรักษา / บุรีรัมย์
แสดงความคิดเห็น