ดำเนินคดีพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และ สส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ เป็นเจ้าพนักงานรัฐเรียกรับเงิน เข้าข่ายการกระทำผิดฐานฟอกเงิน และตรวจสอบเส้นทางการเงินพลเอกประวิตร รวมทั้ง ‘นายโอ๋’ และ ’ป๊อด‘ (ซึ่งปรากฏชื่อในคลิป) ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 3 ในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญา ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์กรหรือหน่วยงานของรัฐ หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ หรือทุจริตต่อหน้าที่ตามกฎหมายอื่น จากกรณีคลิปเสียงหลุด “เรียกรับเงิน” ซึ่งถูกนำมาเผยแพร่ทางรายการเจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ช่อง 9 MCOT เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา
นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า พลเอกประวิตร ในฐานะที่เคยเป็นถึงรองนายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และเป็น สส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ ถือเป็นเจ้าพนักงานของรัฐ จึงต้องประพฤติตนโดยยึดถือผลประโยชน์ชาติเหนือกว่าประโยชน์ส่วนตน ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่แสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ หรือมีพฤติการณ์ที่รู้เห็นหรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้ตำแหน่งหน้าที่ของตนแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ
“พูดง่าย ๆ พลเอกประวิตรต้องไม่ขอ ไม่เรียก ไม่รับ ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดที่จะส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ เว้นแต่เป็นการรับจากการให้โดยธรรมจรรยาซึ่งก็ต้องไม่เกิน 3,000 บาท ที่สำคัญจากบทสนทนาในคลิป น่าสงสัยว่าเงินที่พลเอกประวิตรถามหาเอาจากนายโอ๋ เป็นเงินที่ไม่ใช่เงินที่เกิดจากมูลหนี้อันชอบด้วยกฎหมาย และแม้จะไม่มีหลักฐานยืนยันว่าสุดท้ายแล้วมีการมอบเงินให้กับพลเอกประวิตรจริงหรือไม่ แต่ถือว่า เป็นความผิดสำเร็จแล้วตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1246/2510“ นายพร้อมพงศ์กล่าว
แสดงความคิดเห็น