จากกรณีที่ ผู้ใช้เฟสบุ๊ค ชื่อ Tpnn Khukaew ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สำโรงใต้ จังหวัดสมุทรปราการ ได้โพสต์ข้อความถึงสื่อมวลชน เกี่ยวกับการทำงานของตนเอง โดยที่ลงข้อความว่า #ฝากเสียงเล็กๆของตำรวจชั้นผู้น้อยอย่างผมฝากถึงสื่อที่สามารถให้ความเป็นธรรมช่วยติดต่อมาทีครับ #อินบล็อกข้อความส่วนตัว #โหนกระแสน #สายใหมต้องรอด #กันจอมพลัง #ตำรวจภูธรสมุทรปราการ / ผม ส.ต.อ.ฐาปนิต คู่แก้ว ขอระบายความในใจ ผมได้ถูกนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ตำรวจภูธรจังหวัดให้ผมใส่ร้ายประชาชน โดนบังคับเซ็นคำให้การโดยที่ผมไม่สมัครใจ และไม่สบายใจเป็นอย่างมาก ไม่สามารถไปปรึกษาใครได้ โดยมีเนื้อหาเป็นคำให้การกล่าวถึงประชาชน ว่ารู้จักประชาชนคนนี้ไหม และพยายามที่จะให้รู้จักประชาชนคนนี้ในฐานะผู้ค้ายาเสพติด ซึ่งผมไม่สามารถระบุได้ว่าประชาชนหลายคนที่ถูกกล่าวถึง ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด แต่ก็จะพยายามจะโยงเชื่อมให้เกี่ยวพันธุ์กับประชาชนผู้ถูกกล่าวถึงให้ได้ ทั้งที่ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นเรื่องจริง ที่ผมลงลายเซ็นไปให้ในสำนวนให้ถ้อยคำและพยาน ทั้งที่ผมไม่มีส่วนรู้เห็นและเกี่ยวข้องกับคดีนี้เลย พยายามให้ผมเป็นพยานว่ากล่าวถึงประชาชนผู้ถูกกล่าวถึง ว่ายุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ใจจริงผมไม่อยากเซ็น แต่กลัวขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชาไม่ได้ หากประชาชนที่ถูกกล่าวถึง ไม่มีส่วนยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ต้องมาเดือดร้อนกับสิ่งที่บังคับฝืนใจผมเซ็น ผลสุดท้ายคนที่รับกรรม และโดนฟ้องคือตัวผมเอง และครอบครัวผมที่ต้องมาเดือดร้อน และครอบครัวของประชาชนที่ถูกกล่าวหาที่ต้องมาเดือดร้อน ใครจะรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น ผมเครียดมากครับ ถูกนายบังคับในเซ็นเป็นพยานใส่ร้ายประชาชนแบบนี้ผมรับไม่ไหวครับ ครอบครัวผมและผมขอออกมาต่อสู้เรื่องที่ถูกต้องเราจะไม่รังแกประชาชน ผมเป็นตำรวจแต่ที่นายให้ผมทำแบบนี้มันไม่ใช่จรรยาบันตำรวจอย่างผม / โดยหลังจากข้อความดังกล่าวนั้นได้เผยแพร่สู่โลกออนไลน์แล้ว ทำให้มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็น และ แชร์โพสต์ดังกล่าวเป็นจำนวนมาก

   ล่าสุด เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา วันที่ 28 กันยายน 2567 ที่ ห้องประชุมชั้น 3 สภ.สำโรงใต้ จังหวัดสมุทรปราการ ทางด้าน พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พร้อมด้วย พ.ต.อ.รักศักดิ์ เมฆจินดา ผกก.สภ.สำโรงใต้ ได้เรียก ส.ต.อ.ฐาปนิต คู่แก้ว อายุ 28 ปี ผบ.หมู่.(ป.) สภ.สำโรงใต้ มาเข้าสอบถามหลังได้โพสต์เฟสบุ๊คของตัวเอง และร้องเรียนสื่อเพื่อขอความเป็นธรรม ในกรณีที่ถูกตำรวจชั้นผู้ใหญ่ของภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ให้แจ้งข้อกล่าวหา / เรื่องยาเสพติดกับชาวบ้านโดยไม่เป็นความจริง หรือให้ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทำให้ ส.ต.อ.ฐาปนิต ไม่สบายใจและกลัวนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ไม่พอใจหากไม่ทำตามคำสั่งดังกล่าว โดย พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ ได้มาสอบถามด้วยตัวเองเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็ได้รับทราบข้อมูลและเหตุผล จากนั้นจึงตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของภูธรจังหวัดสมุทรปราการ เพื่อให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่ายทั้งผู้ร้องและผู้ถูกร้อง โดยทางตำรวจมีกระบวนการให้ความยุติธรรมและตรวจสอบข้อเท็จจริงอยู่แล้ว 
          ด้าน พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ ได้กล่าวว่า กรณีที่มี ส.ต.อ.ฐาปนิต คู่แก้ว ผบ.หมู่.(ป.) สภ.สำโรงใต้ ได้โพสต์เฟสบุ๊คส่วนตัวและร้องเรียนสื่อเพื่อขอความเป็นธรรม จากจับคดียา 80,000 เม็ด และทำคดีต่อเนื่อง มีการสืบสวนขยายผล อยู่ในขั้นตอนของการซักถามสืบสวน ข้อมูลเบื้องต้น กับ ส.ต.อ.ฐาปนิต ทำให้เกิดความกังวลเรื่องคดี ว่าตำรวจไปแจ้งยัดข้อหาชาวบ้าน ทางการสืบสวนหากผู้ใดไม่เกี่ยวข้องก็ไม่สามารถยัดข้อหาให้ได้ เพราะมีกระบวนการกลั่นกรองชั้นสอบสวน ชั้นอัยการ และยังมีขบวนการของศาล ถ้าไม่ผิดไม่มีทางดำเนินคดีได้ ขอให้เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม โดย รอง.ผบก.ลงมาคุมคดีเอง ไม่มีทางที่จะไปกลั่นแกล้งได้ ตนต้องดูแลอยู่แล้ว และหากตรวจสอบพบ ว่ามีตำรวจไปเกี่ยวข้อง ทางส่วนคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงของภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ถ้าผิดจริงก็ต้องนำเข้าขบวนการทางกฎหมายต่อไป 
 โดยจะนำชุดนอกพื้นที่มาทำคดีนี้แทนในเมื่อไม่เชื่อมั่น ก็จะนำชุดนอกมาทำแทน จากการฟัง เบื้องต้นผู้ที่ร้องเรียน ขณะนี้ยังไม่มีความเกี่ยวข้องกับคดี ตนจะไม่ตัดสินใจโดยพละการต้องตั้งคณะกรรมการมาสอบสวนอีกครั้ง ตนให้คำมั่นจะให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย และจะทำตั้งคณะกรรมการสอบสวนให้เสร็จสิ้นภายใน 7 วัน เรื่องนี้เกิดขึ้น เพราะความไม่เข้าใจ ไม่เชื่อมั่น ตนเชื่อว่าความยุติธรรม จะเป็นเกราะป้องกันตัวเรา / ทางเจ้าหน้าที่ไม่มีการหยุดเรื่องยาเสพติดแน่นอน จับได้ก็มีการขยายผลทุกเคส จะไม่มีทางหยุด ถ้าหยุดสุดท้ายพี่น้องประชาชนก็จะเดือดร้อน 
  ส่วนทางด้าน ส.ต.อ.ฐาปนิต คู่แก้ว อายุ 28 ปี ผบ.หมู่ (ป.) สภ.สำโรงใต้ หลังจากที่ พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ ได้มาสอบถามด้วยตัวเอง ตนก็มีความมั่นใจและความปลอดภัย ว่าผู้บังคับบัญชาจะให้ความเป็นธรรมกับตน ส่วนที่ตนได้โพสต์เฟสบุ๊คและร้องเรียนไปถึงสื่อ เพราะในขณะนั้น ตนไม่มั่นใจว่าจะปรึกษากับใครถึงจะปลอดภัยและไม่ถูกรังแกในการทำงานในอนาคต


นางสาวปรางค์ทิพย์ จินดามรกฎ / นายนพดล ลมเย็น จ.สมุทรปราการ

แสดงความคิดเห็น