มาเอง! ‘เสี่ยหนู’ ลงพื้นที่ติดตามการค้นหาซากเครื่องบินเล็ก มีชิ้นอวัยวะของผู้โดยสาร-นักบิน กระจายทั่วบริเวณ
วันที่ 23 ส.ค.67 นายอนุทิน ชาญวีระกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ การค้นหาซากเครื่องบินเล็กและร่างผู้โดยสารและนักบิน ที่ตกในพื้นที่ อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ ณ บริเวณจุดเกิดเหตุ หมู่ 6 ต.เขาดิน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา โดยมี นายชลธี ยังตรง ผวจ.ฉะเชิงเทรา พล.ต.ต.นเรวิช สุคนธวิท ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา นางสาวกมลชญา ประเสริฐสิน นอภ.บางปะกง พ.ต.อ.พงศ์สัณห์ มีศรี ผกก.สภ.บางปะกง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์บัญชาการ ให้การต้อนรับและให้ข้อมูล
นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย กล่าวภายหลังจากการลงพื้นที่ว่า เครื่องบินลำดังกล่าวพุ่งลงเเล้วระเบิดด้านล่าง เป็นเหตุให้เครื่องบินเเละชิ้นส่วนมนุษย์ กระจัดกระจาย ตอนนี้ต้องเร่งเก็บกู้ซากชิ้นส่วนเครื่องบินให้ครบ
“ตอนนี้เก็บกู้ไปกว่า 40 % เเล้ว ชิ้นส่วนทั้งหมดเเหลกละเอียด ไม่มีส่วนไหนที่คงสภาพ หลังจากนี้หากได้ชิ้นส่วนครบจะนำมาประกอบกัน เเล้วให้ผู้เชี่ยวชาญเข้ามาตรวจสอบ พร้อมกันนี้ต้องประสานผู้เชี่ยวชาญจากบริษัทเครื่องบินมาร่วมทำการตรวจสอบด้วย เพื่อหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุทางอากาศยานครั้งนี้ต่อไป“
นายอนุทิน กล่าวว่า ขณะเดียวกันยังต้องสอบปากคำพยานแวดล้อมที่พบเห็นมาประกอบการวิเคราะห์ เนื่องจากเป็นเครื่องบินขนาดเล็ก ไม่มีกล่องดำ แต่จากการลงพื้นที่ในวันนี้ ตนสงสัยเหตุว่าใดเครื่องบินจึงไม่ร่อนลง เเต่กลับร่วงลงพื้นทันที ซึ่งพยานให้การว่าก่อนจะร่วงลงพื้นได้ยินเสียงเครื่องบิน นั่นหมายความว่าเครื่องยนต์ยังทำงานอยู่ สำหรับเครื่องบินลำนี้ถูกผลิตขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นเครื่องบินใบพัดขนาดเล็ก ขออนุญาตบินที่ความสูง 5,000 ฟุต หรือระดับความสูง 1.5 กิโลเมตร จากพื้นดิน เป็นการบินเกาะภูมิประเทศ เชื่อว่าหากเกิดเหตุฉุกเฉิน นักบินทุกคนถูกฝึกมาให้ร่อน เเละเครื่องบินลำนี้ นักบินถือว่าเป็นระดับชั้นครู เเต่ก็ยังสงสัยว่าเหตุใดเครื่องบินจึงไม่ร่อน ดังนั้นขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบ ว่าสาเหตุเกิดจากชิ้นส่วนใดกันแน่ ซึ่งตนมั่นใจว่าผู้ประกอบการ บริษัทการบิน คงมีการซ่อมบำรุงเครื่องบินตามกฎระเบียบการบินอยู่เเล้ว เเต่สุดท้ายต้องรอผลการสอบสวน
นายพงษ์เทพ ศิริสวัสดิ์ ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านการปฏิบัติการบินเครื่องบินสำนักงานคณะกรรมการสอบสวนกรณีอันเกี่ยวกับอุบัติเหตุของอากาศยานในราชอาณาจักร (AAIC) เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินการเก็บกู้ซากเครื่องบินลำเล็กที่เกิดเหตุเครื่องบินตกในพื้นที่ อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา ว่าขณะนี้ สามารถเก็บกู้เศษซากเครื่องบินลำที่เกิดเหตุได้แล้วกว่า 30% ซึ่งต้องรอการเก็บกู้ให้ครบ หรือให้ได้ชิ้นส่วนมากที่สุด เนื่องจากเครื่องบินลำดังกล่าวเป็นเครื่องบินขนาดเล็กไม่มีกล่องดำ มีเพียงกล่องสำหรับการป้อนข้อมูล อีกทั้งไม่มีพยานบุคคลที่รอดชีวิตจากเหตุที่เกิดขึ้น จึงต้องอาศัยพยานวัตถุและพยานแวดล้อม รวมถึงประวัติการซ่อมบำรุงของเครื่องบินลำดังกล่าว ในการตรวจสอบหาข้อเท็จจริงและตั้งสันนิษฐานสาเหตุของการเกิดเหตุได้ในลำดับถัดไป หากมีบุคคลในพื้นที่ มีพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งภาพจากกล้องวงจรปิด คำให้การจากผู้เห็นเหตุการณ์ หรือมีข้อมูลที่เกี่ยวข้องสามารถแจ้งได้ที่ AAIC หรือติดต่อที่ตนเองได้เลยที่หมายเลขโทรศัพท์ 086-888-9777 ทุกข้อมูลที่เกี่ยวข้องล้วนมีประโยชน์ต่อการนำมาสันนิษฐาน เพื่อหาแนวทางป้องกันไม่ให้เหตุในลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นอีกในอนาคต นอกจากนี้ขอความร่วมมือหากพบเห็นชิ้นส่วนเครื่องบินแจ้งได้ที่ศูนย์อำนวยการเหตุฯ ณ บริเวณพื้นที่เกิดเหตุ หรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ไม่ควรนำไปเก็บไว้เพราะมีความผิดตามกฎหมาย
สำหรับ สถานการณ์ปัจจุบัน ดำเนินการค้นหาผู้ประสบอุบัติเหตุตามแนวทางที่ คณะกรรมการสอบสวน กรณีอันเกี่ยวกับอุบัติเหตุของอากาศยานในราชอาณาจักร (AAIC) กำหนด ปรากฏว่าพบเศษชิ้นส่วนของมนุษย์จำนวน 6 ราย กรัจายไปทั่วบริเวณ พร้อมทั้งนำส่ง เศษชิ้นส่วนดังกล่าว ไปยังสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลต่อไป ซึ่งคาดว่าผู้โดยสาร และลูกเรือ จำนวน 9 คน เสียชีวิตทั้งหมด ประกอบด้วย นักบินชาวไทย 2 ราย ลูกเรือชาวไทย จำนวน 2 ราย นักท่องเที่ยวชาวจีนสัญชาติจีน จำนวน 5 ราย สำหรับปัญหาอุปสรรคในการปฏิบัติงานจุดเกิดเหตุมีสภาพเป็นป่าแสม มีโคลน และน้ำท่วมขัง และมีแนวต้นไม้ที่สูงไม่สามารถใช้ประโยชน์จากอุปกรณ์ส่องสว่างได้อย่างเต็มที่.
สุรเชษฐ์ จันทร์ทอง / จ.ฉะเชิงเทรา
แสดงความคิดเห็น