Recent News/ข่าวล่าสุด
กกล.ผาเมือง จัดกำลังพลเข้าร่วมการฝึกอบรมดับไฟป่า ในพื้นที่ อ.ไชยปราการ จว.ช.ม.
กกล.ผาเมือง จัดกำลังพล ช่วยเหลือประชาชนซ่อมแซมประปาภูเขาประจำหมู่บ้าน ในพื้นที่ อ.เทิง จว.ช.ร.
กกล.ผาเมือง จัดกิจกรรม Army Barber Deliver ในพื้นที่ อ.ทุ่งช้าง จว.น.น.
กกท. ภาค 5 เตรียมความพร้อมการแข่งขันฟุตบอลชาย รอบคัดเลือก ก่อนการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33
ในการนี้ ที่ประชุมมีการแจ้งข้อมูลการแข่งขันและหารือการเตรียมความพร้อมในทุกด้าน ได้แก่ ด้านการเตรียมรถพยาบาลและทีมแพทย์ ด้านการรักษาความปลอดภัยและการจราจร ด้านระบบสาธารณูปโภค ด้านระบบการขนส่งนักกีฬา ด้านที่พักนักกีฬา ด้านความเรียบร้อยของสนามแข่งและสนามฝึกซ้อม และด้านเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานที่สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี
สำหรับจังหวัดเชียงใหม่ เป็นเจ้าภาพการแข่งขันในรอบคัดเลือก กลุ่ม C ทีมแข่งขันประกอบไปด้วย ประเทศฟิลิปปินส์ เมียนมา และอินโดนีเซีย โดยจะมีการแข่งขันในวันที่ 5, 8 และ12 ธันวาคม 2568 เวลา 18.00 น. ณ สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี ซึ่งจะสามารถบรรจุผู้ชมได้ประมาณ 17,500 ที่นั่ง สำหรับผู้สนใจเข้าชม การกีฬาแห่งประเทศไทยจะเปิดให้มีการสำรองที่นั่งได้ฟรี โดยลงทะเบียนในระบบออนไลน์ ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยในการจัดแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ
ผอ.กกท. ภาค 5 กล่าวเพิ่มเติมว่า ในโอกาสที่จังหวัดเชียงใหม่ได้เป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันฟุตบอลในครั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดในทุกด้าน จึงขอเชิญชวนผู้ที่สนใจเข้ามาร่วมชมให้มากที่สุด เพื่อชื่อเสียงของจังหวัดเชียงใหม่และชาวเชียงใหม่ทุกคนในฐานะเจ้าบ้านที่ดี
ในหลวง-พระราชินี ทรงเปิดอาคารเรียนรู้เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา และทรงเปิดงาน “โครงการหลวง 2568 ” ที่จังหวัดเชียงใหม่
จากนั้น เสด็จฯ เข้าพลับพลาพิธี ทรงจุดธูปเทียน
เครื่องนมัสการบูชาพระพุทธนวราชบพิตร ทรงกราบ ทรงศีล ประธานสงฆ์ถวายศีล จบแล้ว พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายชัยการ แบนสุภา หัวหน้าฝ่ายการเงินและบัญชี และนางสาวณัฐกานต์ เอมาวัฒน์ หัวหน้าฝ่ายธุรการและการสนับสนุน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายสูจิบัตร แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ก่อนจะพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ เลขาธิการและประธานกรรมการบริหารมูลนิธิโครงการหลวง กราบบังคมทูลรายงานวัตถุประสงค์การจัดตั้งอาคารเรียนรู้เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา จากนั้น เสด็จฯ ไปยังแท่นพิธี ทรงกดปุ่มไฟฟ้าเปิดแพรคลุมป้ายอาคารเรียนรู้เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา โอกาสนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมถวายพระสงฆ์ ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก
จากนั้น พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ เลขาธิการและประธานกรรมการบริหารมูลนิธิโครงการหลวง กราบบังคมทูลเบิกผู้ให้การสนับสนุนการก่อสร้างอาคารเรียนรู้เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับพระราชทานของที่ระลึกตามลำดับ และพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายนาวิน สุขเลิศ หัวหน้าฝ่ายบริหารผลิตผลและผลิตภัณฑ์ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทูลเกล้าฯ ถวายแผ่นศิลา เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย และพระนามาภิไธย จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปทรงกราบที่หน้าเครื่องนมัสการ ทรงลาพระสงฆ์ แล้วเสด็จฯ ออกจากพลับพลาพิธีไปทรงปลูกต้นรวงผึ้งสำหรับอาคารเรียนรู้เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา จัดตั้งขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ผู้ทรงก่อตั้งมูลนิธิโครงการหลวงและวางรากฐานการพัฒนาทางเลือกบนที่สูงอย่างยั่งยืน เป็นอาคารเรียนรู้ของสถาบันการเรียนรู้มูลนิธิโครงการหลวง ในการสนองพระบรมราโชบายสืบสาน รักษา และต่อยอด งานของมูลนิธิโครงการหลวงที่ประสบผลสำเร็จจนเป็นที่ประจักษ์อย่างกว้างขวาง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2567 เป็นอาคาร 3 ชั้น ประกอบด้วย ห้องปฏิบัติการเรียนรู้ ห้องอบรมประชุมสัมมนา ห้องนิทรรศการ ถ่ายทอดประวัติศาสตร์โครงการหลวง และห้องการเรียนการสอนหลักสูตรต่าง ๆ อีกทั้งเป็นต้นแบบอาคารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและประหยัดพลังงานอีกด้วย
จากนั้น เวลา 19.21 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯ ไปทรงเปิดงาน “โครงการหลวง 2568“ ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรโครงการหลวง ชนกาธิเบศรดำริ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ เสด็จฯ ประทับยังศาลา 72 พรรษา พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายจตุพร ปารมี รักษาการหัวหน้าฝ่ายสถานีวิจัยและศูนย์พัฒนาโครงการหลวงฯ และนางสาวศิรัส เตชะอภิชาต หัวหน้าสำนักอำนวยการผู้บริหาร เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าฯ ถวายสูจิบัตร แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี
จากนั้น พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ เลขาธิการและประธานกรรมการบริหารมูลนิธิโครงการหลวง กราบบังคมทูลรายงานวัตถุประสงค์ของการจัดงาน “โครงการหลวง 2568” ทอดพระเนตรการแสดง สื่อผสม แสง สี เสียง ประกอบบทเพลงประสานเสียง ชุด “ทศมมหาราชา พระมหากรุณานำการพัฒนาสู่ความยั่งยืน” ซึ่งถ่ายทอดพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงสืบสาน รักษา และต่อยอดแนวพระราชดำริของสมเด็จพระบรมชนกนาถ ที่ทรงก่อตั้งมูลนิธิโครงการหลวง นำไปสู่การพัฒนาในพื้นที่สูงด้วยแนวทางโครงการหลวงโมเดล โดยนักร้องประสานเสียงเยาวชน ร่วมกับวงดนตรีจิตอาสา ในรูปแบบศิลปะล้านนาร่วมสมัย ประกอบด้วย 3 องก์ ได้แก่ องก์ที่ 1 เสียงแห่งขุนเขา องก์ที่ 2 แสงทองแห่งพระมหากรุณา องก์ที่ 3 ความยั่งยืนแห่งแผ่นดิน สืบสาน รักษา ต่อยอด
จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ไปทรงกดปุ่มไฟฟ้าเปิดงาน “โครงการหลวง 2568“ โอกาสนี้ ทรงทอดพระเนตรนิทรรศการ “ทศมมหาราชา พระมหากรุณานำการพัฒนาสู่ความยั่งยืน” ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการสืบสาน รักษา และต่อยอด งานโครงการหลวง และนำเสนอผลสำเร็จของงานวิจัยและนวัตกรรมของมูลนิธิโครงการหลวง ประกอบด้วย นิทรรศการ สืบสาน “นวัตวิจัย ผลลัพธ์ที่จับต้องได้” นิทรรศการ รักษา “พืชพระราชทาน สร้างงาน สร้างคุณค่า”
นิทรรศการ ต่อยอด “พลังบูรณาการ เพื่อความยั่งยืนของพื้นที่สูง” และนิทรรศการ สืบสาน รักษา ต่อยอด “หัตถศิลป์พื้นที่สูง...ด้วยพระเมตตาแห่งแผ่นดิน” ในโอกาสนี้ ทอดพระเนตรวิดีทัศน์แนะนำการใช้ประโยชน์อาคารเรียนรู้เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา ต่อจากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปยังอาคารอเนกประสงค์ ทอดพระเนตรซุปเปอร์มาร์เก็ตจำหน่ายผลิตผลและผลิตภัณฑ์โครงการหลวง ซึ่งปีนี้มีสินค้าที่โดดเด่น เช่น ข้าวเจ้าพันธุ์จาคูเนเน ซึ่งเป็นข้าวเจ้าพันธุ์ท้องถิ่นของชนเผ่าลีซอ น้ำนมข้าวโพดหวาน ชาอู่หลงกลิ่นข้าวเหนียวมะม่วง เป็นชาโครงการหลวงที่มีกลิ่นและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และกุหลาบพันธุ์รอยัล 4 จากนั้นเสด็จฯ ไปยังห้องประทับรับรอง (ห้องราชภักดิ์) ทรงลงพระปรมาภิไธย และพระนามาภิไธย ในสมุดที่ระลึก สมควรแก่เวลา จึงประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จฯ ไปยังท่าอากาศยานทหาร กองบิน 41 อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อประทับเครื่องบินพระที่นั่ง เสด็จฯ กลับกรุงเทพมหานคร
ทั้งนี้ ตลอดเส้นทางเสด็จพระราชดำเนิน มีราษฎรมาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ เป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นราษฎรในพื้นที่ จังหวัดใกล้เคียง รวมถึงราษฎรและเกษตรกรที่ได้รับประโยชน์จากการพัฒนาโครงการหลวงของชาติพันธุ์ต่างๆ เช่น เมี่ยน (เย้า) ละว้า ม้ง ไทลื้อ อาข่า คะฉิ่น ลีซู ดาราอั้ง และลาหู่ (มูเซอ) ที่มาจากพื้นที่สถานีเกษตรหลวง ศูนย์พัฒนาโครงการหลวง และโครงการขยายผลแบบโครงการหลวงในจังหวัดต่างๆ ทางภาคเหนือ ต่างพร้อมใจกันแต่งกายด้วยชุดประจำชาติพันธุ์อย่างสวยงามมาร่วมเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ ด้วยความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ กองแพทย์หลวง สำนักพระราชวัง ร่วมกับโรงพยาบาลต่าง ๆ ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ มอบพิมเสนน้ำและผ้าเย็นแก่ประชาชน พร้อมทั้งพระราชทานอาหารแก่ราษฎรที่มาร่วมเฝ้าฯ รับเสด็จในพื้นที่ด้วย
พาณิชย์แพร่!!! เปิดบูทนิทรรศการ “กระทรวงพาณิชย์” ในงานมหกรรมของดีจังหวัดแพร่และงานกาชาดประจำปี 2568
ภายในบูทนิทรรศการกระทรวงพาณิชย์ มี 2 ส่วน ดังนี้
ส่วนที่ 1 จัดนิทรรศการไว้อาลัยแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง, นโยบาย Big Quick Win ของกระทรวงพาณิชย์, กิจกรรมสำนักงานพาณิชย์จังหวัดแพร่ (การจัดตลาดนัดข้าวเปลือกปีการผลิต 68/69 , การส่งเสริมประชาสัมพันธ์สินค้า SDGs จังหวัดแพร่ ฯลฯ) และนิทรรศการประวัติ ชั่ง ตวง วัด นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมแจกของที่ระลึกสำหรับประชาชนที่เข้ามาเยี่ยมชมบูทและร่วมกิจกรรมตอบแบบสอบถามฯ ด้วย
ส่วนที่ 2 เปิดจุดจำหน่ายสินค้าธงฟ้าราคาประหยัด ลดค่าครองชีพประชาชน โดยมีสินค้าที่จำเป็นต่อการบริโภคจำนวน 8 ชนิด มาจำหน่ายในราคาต่ำกว่าท้องตลาด 20 - 40 % ให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว โดยจำหน่ายในช่วงเวลา 16.00 – 19.00 น. ของวันที่ 1, 3, 5, 7 และ 9 ธันวาคม 2568
ประชาชนและนักท่องเที่ยวสามารถเข้าเยี่ยมชมบูทนิทรรศการกระทรวงพาณิชย์ ได้ตั้งแต่เวลา 16.00 – 22.00 น. ณ บริเวณโซน 5 ***ติดเวทีกลาง*** ของงานมหกรรมของดีจังหวัดแพร่และงานกาชาดประจำปี 2568 ซึ่งกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 – 10 ธันวาคม 2568 ณ สนามกีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่ ตำบลในเวียง อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ทีมข่าว/จ.แพร่
“สงขลาระอุ” ดราม่าเดือดกลางโซเชียล หลังชาวคาบสมุทรสทิงพระติดน้ำท่วม 10 วัน สส.เขต 4 เดือดคอมเมนต์กลับจนปะฉะดะกลางเฟซบุ๊ก

////นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ ผู้สื่อข่าวนิวส์24สถานีประชาชนประจำจังหวัดจสงขลา////สุพจน์บดินทร์ กุ่มประสิทธิ์ บก.ข่าวออนไลน์ 77จังหวัด



















































