Top News/ข่าวยอดนิยม

Recent News/ข่าวล่าสุด

กาญจนบุรี – ททท.พร้อมปักหมุดสู่สายตาโลก! ต้อนรับทัพนักกีฬาหญิงแกร่ง 300 ชีวิต ในการแข่งขันผจญภัยระดับตำนาน Raid Amazones 2025

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานกาญจนบุรี ร่วมกับบริษัท ZE BIG ORGANISATION - ZBO จากสาธารณรัฐฝรั่งเศส เปิดฉากการแข่งขันกีฬากึ่งผจญภัยสำหรับสตรีระดับนานาชาติ Raid Amazones 2025 ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน – 8 ธันวาคม 2568 ณ จังหวัดกาญจนบุรี ตอกย้ำบทบาท Sport Tourism Destination ระดับโลก พร้อมเผยเสน่ห์ Soft Power ผ่านความสวยสวยงามของธรรมชาติ วิถีชุมชน และการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์นางสาวสรียา บุญมาก ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานกาญจนบุรี เปิดเผยว่า การแข่งขัน Raid Amazones ครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และแสดงศักยภาพของจังหวัดกาญจนบุรีในการเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลกสำหรับการท่องเที่ยวเชิงกีฬา (Sport Tourism) ซึ่งไม่ได้มีเพียงประวัติศาสตร์ที่เป็นที่รู้จัก แต่ยังมีภูมิประเทศที่งดงามและท้าทาย ทั้งป่าไม้ ภูเขาและแม่น้ำ ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวคุณภาพกลุ่ม Active Lifestyle จากยุโรปและทั่วโลก ด้วยมาตรฐานความปลอดภัยและการบริหารจัดการระดับสากล การแข่งขัน Raid Amazones ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2001 โดย นายอเล็กซองด์ เดอบานน์ (Alexandre Debanne) บนปรัชญา “Pas de moteur, que de la sueur” ไร้เครื่องยนต์ อาศัยเพียงแรงกาย
เพื่อเปิดพื้นที่ให้สตรีได้ค้นพบศักยภาพของตนเองผ่านกีฬาและการเดินทาง โดยในปี 2025 นี้ ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพต้อนรับนักกีฬาหญิงจากทั่วโลก จำนวน 300 คน ณ จังหวัดกาญจนบุรี   ไฮไลต์การแข่งขัน 5 ประเภท 5 วันแห่งการท้าทาย (วันที่ 2 - 4 และ 6 - 7 ธันวาคม 2568)• 2 ธันวาคม 2568 : วิ่งเทรล 13.9 กม. เส้นทาง พุน้ำร้อน - โรงเรียนบ้านเขาช้าง อำเภอไทรโยค• 3 ธันวาคม 2568 : พายเรือแคนู 16.3 กม. เส้นทาง ลำน้ำแควใหญ่ - ณ นนท์ แค้มปิ้งแอนด์รีสอร์ท• 4 ธันวาคม 2568 : จักรยานเสือภูเขา 35 กม. เส้นทาง วัดพุน้อย - โรงเรียนบ้านหนองปลาซิว อำเภอไทรโยค• 6 ธันวาคม 2568 : วิ่งและปั่น 15.7 กม. เส้นทาง บ้านห้วยกระทะทอง - วัดหนองปลาดุก อำเภอไทรโยค• 7 ธันวาคม 2568 : วิ่ง 8.5 กม. เส้นทาง ร้านอาหารบ้านเคโระ - ตำบลหนองหญ้า อำเภอเมืองกาญจนบุรี นอกจากนี้ ช่วงบ่ายของแต่ละวัน นักกีฬาจะได้สัมผัส Local Experience ร่วมกับชุมชน อาทิ เรียนทำอาหารไทย     ทำกิจกรรมเพื่อสังคม เยี่ยมชมน้ำตกเอราวัณ และเรียนรู้วิถีชีวิตท้องถิ่น สะท้อนแนวคิดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนที่ใส่ใจทั้งผู้คนและสิ่งแวดล้อม ติดตามรายละเอียดและชมภาพบรรยายกาศการแข่งขันได้ที่ Facebook : raid amazons/

////////ข่าวภูมิภาค / ปรีชา  ไหลวารินทร์  ผู้สื่อขช่าวนิวส์ 24สถานีประชาชนประจำจังหวัดกาญจนบุรี///สุพจน์บดินทร์ กุ่มประสิทธิ์ บก.ข่าวออนไลน์ 77จังหวัด


กกต.กำหนดรับสมัครเลือกตั้งนายก อบจ.ปราจีนบุรี 15–19 ธ.ค. เลือกตั้ง 25 ม.ค. 69 หลัง “ณภาภัช หรือ สจ.จอย อัญชสาณิชมน” พ้นตำแหน่งพบเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.ปราจีนบุรีล้วนเป็นศึกประลองของพรรคการเมือง อาทิ เพื่อไทย ประชาชน และเจ้าถิ่นภูมิใจไทย และผู้สมัครอิสระ

 เมื่อเวลา 18.40 น.วันที่ 4 ธันวาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ปราจีนบุรีความคืบหน้า  จากกรณีมีประกาศจังหวัดปราจีนบุรีโดยนายวีระพันธ์  ดีอ่อน ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี  (ลงวันที่ 2 ธ.ค. 2568) วินิจฉัยให้ น.ส. ณภาภัช หรือ สจ.จอย อัญชสาณิชมน สิ้นสุดสมาชิกภาพจากตำแหน่งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี(ส.อบจ.) เขตเลือกตั้งที่ 2 เนื่องจากเคยมีรายชื่อเป็นผู้เริ่มก่อตั้งและผู้ถือหุ้นบริษัทสื่อ ซึ่งเป็นลักษณะต้องห้ามตามกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่น ส่งผลให้สมาชิกภาพสิ้นสุดย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 6 มิ.ย. 2567 และปัจจุบันเธอดำรงตำแหน่ง “นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี (อบจ.)” ในวาระใหม่ ตามผลการเลือกตั้งต่างวาระ จึงต้องพ้นจากตำแหน่งนายก อบจ. ด้วยผลแห่งกฎหมาย รวมถึงทีมฝ่ายบริหาร อาทิ รองนายก เลขานุการ และที่ปรึกษานายก อบจ. ภายใต้ประกาศเดียวกัน นอกจากนี้ กกต.จังหวัดปราจีนบุรี ได้รับเรื่องแล้ว และจะดำเนินการจัดการเลือกตั้งนายก อบจ.ปราจีนบุรี ภายใน 60 วันต่อไป ตามรายละเอียดที่ข่าวเสนอไปก่อนหน้านี้ นั้น น.ส.โชติกา  แก้วผล ผอ.กกต.ประจำ จ.ปราจีนบุรี กล่าวว่า จากประกาศจังหวัดปราจีนบุรีโดยนายวีระพันธ์  ดีอ่อน ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรีลงวันที่ 2 ธ.ค. 2568วินิจฉัยให้ น.ส.ณภาภัช หรือ สจ.จอย อัญชสาณิชมน สิ้นสุดสมาชิกภาพจากตำแหน่งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี(ส.อบจ.) เขตเลือกตั้งที่ 2เนื่องจากเคยมีรายชื่อเป็นผู้เริ่มก่อตั้งและผู้ถือหุ้นบริษัทสื่อ ซึ่งเป็นลักษณะต้องห้ามตามกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่น   ส่งผลให้สมาชิกภาพสิ้นสุดย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 6 มิ.ย. 2567 และปัจจุบันเธอดำรงตำแหน่ง “นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี (อบจ.)” ในวาระใหม่ ตามผลการเลือกตั้งต่างวาระ จึงต้องพ้นจากตำแหน่งนายก อบจ. ด้วยผลแห่งกฎหมายนั้นมีผลให้ น.ส.ณภาภัช หรือ สจ.จอย อัญชสาณิชมนพ้นตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี (อบจ.) ในวันที่ 2 ธ.ค.68  และทาง ผอ.กกต.ประจำอบจ.ปราจีนบุรี จะทำการประกาศให้มีการเลือกตั้งฯในวันที่11ธ.ค.  กำหนดการรับสมัครระหว่างวันที่ 15-19 ธ.ค. 68  สถานที่รับสมัครฯที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี ต.หน้าเมือง อ.เมองปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี   ส่วนกำหนดวันเลือกตั้งนั้น กำหนดในวันที่ 25 ม.ค.69  ทำการประกาศรับรองรับรองผลการเลือกตั้งฯกรณีไม่มีเรื่องร้องเรียนภายในวันที่  24 ก.พ.69 ในวันนี้ทาง กกต.ประจำ จ.ปราจีนบุรีไปประสานกับทางปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี (อบจ.)
ในการเตรียมวางแผนงานการจัดการการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี (อบจ.)แทนตำแห่งที่ว่างลงในเรื่องงบประมาณ ,บุคคลากร ,การเตรียมสถานที่จัดการการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี(อบจ.)ซึ่งในความเตรียมพร้อมในการเลือกตั้งทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี (อบจ.) มีความพร้อมในการเลือกตั้งและในการสมัครเลือกตั้งฯในครั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่าทางสจ.จอยที่พ้นจากตำแหน่งนายก อบจ.ปราจีนบุรี  จะต้องชดใช้เงินในการจัดการการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี(อบจ.)ที่ผ่านมาหรือไม่ น.ส.โชติกา  กล่าวว่า กรณีในช่วงของการลงสมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี (อบจ.)ทางสจ.จอย ณภาภัช อัญชสาณิชมน  ได้ลาออกจากผู้ถือหุ้นบริษัทสื่อแล้ว กรณีนี้เป็นการพ้นตำแหน่งช่วงดำรงตำแหน่งเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี (ส.อบจ.) จะพิจารณาว่าจะชดใช้ค่าเสียหายหรือไม่นั้น เรื่องนี้ไม่เป็นการทุจริตในการเลือกตั้ง แต่เป็นเรื่องการขาดคุณสมบัติ ไม่เรียกค่าชดใช้เสียหายในการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี (อบจ.)ผู้สื่อข่าวได้สอบถามต่อไปว่าหากทางสจ.จอย น.ส.ณภาภัช อัญชสาณิชมน  อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี(อบจ.)จะลงสมัครรับเลือกตั้งฯครั้งใหม่นี้อีกได้หรือไม่ น.ส.โชติกา  กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเป็นอำนาจในการรับสมัคร ของ กกต.ประจำองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี หาก สจ.จอย  ลงสมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบรี(อบจ.)ในครั้งนี้ ในการที่จะวินิจฉัย   ผู้สื่อข่าวรายงานต่อไปว่า  ประวัติ สจ.จอย ณภาภัช อัญชสาณิชมน  สจ.จอย ณภาภัช อัญชสาณิชมน เป็นภรรยาของ สจ.โต้ง ชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ มีลูกด้วยกัน 1 คน โดยก่อนหน้า สจ.จอย ดำรงตำแหน่ง รองประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี (ส.อบจ.)มีบทบาทโดดเด่นในการทำงานของสภา อบจ. มาอย่างต่อเนื่อง  และเป็นผู้ที่ถูกวางตัว ให้ลงชิงเก้าอี้นายก อบจ.ปราจีนบุรีโดยการสนับสนุนของพรรคเพื่อไทย หลังจากที่ "โกทร" หรือ สุนทร วิลาวัลย์ นายก อบจ.ปราจีนบุรี จากขั้วของภูมิใจไทย จะพ้นตำแหน่งในต้นปี 2568   ก่อนการเสียชีวิตของ สจ.โต้ง นายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ สามีที่ถูกยิงเสียชีวิต ในบ้านของ "โกทร"  นายสุนทร วิลาวัลย์ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี(อบจ.)
 อดีต รมช.สธารณสุข โดยในการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี(ส.อบจ.) และ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี (อบจ.) ที่ผ่านมาเมื่อวันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี (อบจ.) ประกอบด้วย  เบอร์ 1 นายอําไพ กองมณี อดีต สส.บัญชีรายชื่อ ได้คะแนน 34,398 คะแนน , เบอร์ 2 นายจํารูญ สวยดี พรรคประชาชน 59,929 คะแนน , เบอร์ 3 นางกฤษณ์กมล แพงศรีอดีตผู้สมัครสส.ปราจีนบุรีพรรคเพื่อไทย ได้ 7,522 คะแนน และ เบอร์ 4 นางสาวณภาภัช อัญชสาณิชมน หรือ สจ.จอย พรรคเพื่อไทย ได้คะแนน 128,156 คะแนน ได้รับการเลือกตั้งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรีต่อมาภายหลังชนะการเลือกตั้งได้ไม่นาน ต่อมานางสาวณภาภัช อัญชสาณิชมน หรือ สจ.จอย ได้ลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทยก่อนถูก วินิจฉัยสมาชิกภาพของสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี(ส.อบจ.)และส่งผลให้พ้นจากตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี(อบจ.)ดังกล่าวสำหรับผู้คาดว่าจะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี (อบจ.)แทนตำแหน่งที่ว่างลงนี้ อดีตผู้สมัครรับเลือกตั้งฯในครั้งแรกที่ผ่านมา นอกจากนี้มีผู้ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี(อบจ.) คือ นายเกียรติกร  พากเพียรศิลป์ อยู่ระหว่างประสานกับผู้ประสานงานพรรคเพื่อไทย จ.ปราจีนบุรีและประธานเขตเลือกตั้งที่1-3 เพื่อลงสมัครในนามพรรคเพื่อไทยต่อไปโดยนายเกียรติกร เคยเป็นอดีต ส.ส. ปราจีนบุรี พรรคมัชฌิมาธิปไต (เลือกตั้งใหม่เพราะนายสุนทรถูกใบแดง) (ย้ายมาพรรคประชาธิปัตย์) ปี 2551 ส.ส.ปราจีนบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ก่อนหน้าเคยเป็นสมาชิกสภาจังหวัดปราจีนบุรี-รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี นายกฤษฎ์ กษมพันธุ์ หรือ "สจ.อุ๊" อดีตรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ปราจีนบุรีสมัยนายสุนทร  วิลาวัลย์ เป็นนายก อบจ.ปราจีนบุรี และอดีตสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี ฐานเสียงสำคัญของพรรคภูมิใจไทย ที่มี สส.ปราจีนบุรีในเขตเลือกตั้งที่ 1 และเขต 3 ปัจจุบันดร.ปัญญา กองขุมพล อดีตผู้อำนวยการโรงเรียน  อดีตประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูปราจีนบุรีจำกัด
###  มานิตย์  สนับบุญ 081-5583238-ข่าว/ณัฐนันท์-ภาพ/ ผู้สื่อข่าวนิวส์ 24สถานีประชาชนประจำจังหวัดปราจีนบุรี/////สุพจน์บดินทร์ กุ่มประสิทธิ์ บก.ข่าวออนไลน์ 77จังหวัด

นครนายก กล้องวงจรปิดจับภาพคนร้ายเข้ามาลักรถจักรยานยนต์ในบ้านหลบหนีไป


เมื่อเวลา12.25 น.ของวันที่ 3 ธันวาคม 2568 พ.ต.ต.หญิงวราพรรณ ประเสร็จศักดิ์ สารวัตรเวร สถานีตำรวจบ้านนา ได้รับแจ้งความ จากนายกองสี ไชยสีดา อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36 หมู่ที่ 7 ตำบลศรีกะอาง อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก แจ้งว่าตนได้จอดรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ 125 อาร์ สีน้ำเงิน ทะเบียน กตข 50 สระแก้ว คากุญแจรถไว้หน้าบ้านพัก เป็นรถจักรยานยนต์มือ 2 ที่เพิ่งซื้อมาได้ 1 เดือนกว่า ยังไม่ได้โอนรถจักรยานยนต์ในราคา 15000 บาท และเมื่อกับมาจากที่ทำงานไม่พบรถจักรยานยนต์ที่จอดไว้จึงได้ไปเปิดกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้หน้าบ้าน พบว่ามีชายวัยรุ่นอายุประมาณ 30 ปีสวมเสื้อแขนยาวสีดำกางเกงขาสั้นลายพราง แอบมาเข็นรถจักรยานยนต์ออกไปแล้วไปสตาร์ทรถข้างนอกบ้านหลบหนีไป
โดยคนร้ายได้ทิ้งรถจักรยานยนต์ ยามาฮาสีขาว ทะเบียน 1 กท ปราจีนบุรี 8436 รถเสียขับขี่ไม่ได้ไว้และไม่ทราบว่ารถจักรยานยนต์คันนี้ไปลักมาหรือเปล่าจึงได้ไปแจ้งความไว้แล้วที่สถานีตำรวจบ้านนาจากการให้สัมภาษณ์ของนายกองสี  ไชยสีดา เจ้าของรถจักรยานยนต์ได้เล่าว่าวันเกิดเหตุตนไม่อยู่บ้านออกไปทำงานได้มีกลุ่มลูกชายและหลานๆได้พาเพื่อนที่พึ่งรู้จักกันมาดูไก่ชนที่หลังบ้านและได้มีคนร้ายคนหนึ่งที่เข้ามาดูไก่ชนด้วยได้เข็นรถจักรยานยนต์ที่เสียมาจอดไว้ใกล้กับรถจักรยานยนต์ที่เพิ่งซื้อมาใหม่แล้วเดินตามเข้าไปดูไก่ชน แต่เข้าไปได้สักพักคนร้ายคนนี้ได้เดินออกมาที่หน้าบ้านแล้วเข็นรถจักรยานยนต์ออกมาขึ้นถนนแล้วสตาร์ทรถหลบหนีไปตามคลิปกล้องวงจรปิดที่จับภาพไว้ได้ดังกล่าวจากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับคลิปวีดีโอจากเจ้าทุกข์ที่เข้าแจ้งความไว้แล้วและจะได้ติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป

//สมบัติ เนินใหม่//รัชชานนท์ เนินใหม่//ผู้สื่อข่าวผู้สื่อข่าวนิวส์24สถานีประชาชนประจำจังจังหวัดนครนายก////สุพจน์บดินทร์ กุ่มประสิทธิ์ บก.ข่าวออนไลน์ 77จังหวัด





ข่าว-(คืบหน้า)-ไฟไหม้บ่อขยะลูกรังที่มีการลักลอบทิ้งเศษขยะอิเล็กทรอนิกส์และเศษซากสายไฟฟ้าดับสนิท 100 เปอร์เซ็นต์

เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ปราจีนบุรีความคืบหน้าจากกรณีเหตุไฟไหม้บ่อขยะลูกรังที่มีการลักลอบทิ้งเศษขยะอิเล็กทรอนิกส์และเศษซากสายไฟฟ้าจำนวนมากของภาคเอกชนที่อยู่ระหว่างถูกอายัดในพื้นที่บ้านสามขา หมู่ที่ 11 ต.ศรีมหาโพธิ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี  เจ้าหน้าที่เร่งดับไฟโดยระดมรถดับเพลิง7คันและขอรถสูบน้ำระยะไกลจากปภ.เขต 3 มาช่วย พร้อมทั้งนำรถแบคโฮจำนวน 2 คันมาคุ้ยเกลี่ยฉีดน้ำดับไฟซึ่งเป็นไปด้วยความยากลำบาก ตามรายละเอียดที่นำเสนอก่อนหน้านี้ นั้นเนื่องจากพื้นที่ที่แอบทิ้งขยะเป็นบ่อลูกรังเก่าที่มีความลึก4เมตรมีเศษขยะหนา บริเวณด้านล่างเป็นน้ำลึกราว2เมตร นาดความกว้าง-ยาวของบ่อราว60 – 80 เมตร รถดับเพลิงและรถแบคโฮไม่สามารถลงไปยังด้านล่างได้ ซึ่งรถแบคโฮคุ้ยเกลี่ยอยู่ริมปากบ่อเท่านั้นส่วนใหญ่เป็นขยะครัวเรือนที่มีการลักลอบนำมาทิ้งรวมถึงมีขยะอุตสาหกรรมบางส่วนและเศษซากสายไฟฟ้าถูกลักลอบนำมาทิ้งอีกด้วย โดยใช้เวลาคุ้ยเกลี่ยบริเวณขอบบ่อ5ชั่วโมง โดยมี น.ส.จุฑามาศ  บัวเผื่อน นายอำเภอศรีมหาโพธิคอยสั่งการอำนวยการอย่างใกล้ชิดต่อมานายสัญญา นามี รองผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี
พร้อมด้วยอุตสาหกรรมจังหวัดปราจีนบุรี ลงพื้นที่ร่วมกับนายอำเภอฯและยังคงมีไฟปะทุขึ้นมาอีกระลอกๆเป็นจุดๆ  เจ้าหน้าที่ได้ระดมฉีดน้ำดับเพื่อไม่ให้ไฟที่ปะทุขึ้นมาจากด้านล่างดับสนิท แต่ก็ยังไม่สามารถดัดสนิท เจ้าหน้าที่จึงได้คอยฉีดน้ำเป็นระยะๆกระทั่งเวลา 04.00 น.ที่ผ่านมาสามารถควบคุมเพลิงไม่ได้ทุกจุดแต่ทางเจ้าหน้าที่ยังคงนำรถดับเพลิงสแตนบายเฝ้าดูสถานการณ์ต่อ หากพบว่าบริเวณจุดใดที่มีไฟปะทุขึ้นมาจะได้ฉีดน้ำเพื่อให้เพลิงดับสนิท 100%น.ส.จุฑามาศ  บัวเผื่อน นายอำเภอศรีมหาโพธิ กล่าวว่า   จากเหตุการณ์เพลิงไหม้บ่อขยะในพื้นที่ หมู่ที่ 11 ตำบลศรีมหาโพธิ อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 68  ตั้งแต่เวลา 16.00 นั้นวันนี้ (4 ธ.ค. 68 ) เมื่อเวลา 09.20 น. สามารถควบคุมเพลิงได้เรียบร้อยแล้ว โดยมีหน่วยงานของ อบต.ศรีมหาโพธิ และ ปภ.เขต 3 คอยฉีดน้ำเฝ้าระวังไม่ให้เกิดการปะทุ และเมื่อเวลา 09.30 น. นายอำเภอศรีมหาโพธิ ได้จัดประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเร่งรัดการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปออนไลน์ 77จังหวัด
/////มานิตย์ สนับบุญ081-5583238-ข่าว/ทองสุข สิงห์พิมพ์-ภาพ/ ผู็สื่อข่าวนิวส์24สถานีประชาชนประจำจังหวัดปราจีนบุรี///สุพจน์บดินทร์ กุ่มประสิทธิ์ บก.ข่าว





กาญจนบุรี - เดินหน้าเตรียมความพร้อมและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง (PM2.5) ปี 2568-2569

วันนี้ 4 ธันวาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ณ ห้องประชุมแควใหญ่ ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี นายวุฒิพงษ์  สุภัควนิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เป็นประธานการประชุม กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรี เตรียมความพร้อมการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี โดยมี นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ประธานสภาลมหายใจกรุงเทพฯ คณะทำงานติดตามสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ปี 2568 - 2569 จังหวัดกาญจนบุรี เข้าร่วมการประชุมฯสำหรับการประชุม ได้มีการชี้แจงสถานการณ์สภาพอากาศในปัจจุบันและแนวโน้มในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี แผนเผชิญเหตุไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ปี 2568 - 2569 จังหวัดกาญจนบุรี รวมไปถึงชี้แจงคำสั่งกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรี ในการ จัดตั้งศูนย์บัญชาการป้องกันฯ การแต่งตั้งคณะทำงานฯ รวมไปถึงการเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) จังหวัดกาญจนบุรี
การกำหนดเขตควบคุมการเผาในทุกพื้นที่ของจังหวัดกาญจนบุรี การเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควันฯ และข้อสั่งการกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยชาติ เตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควันฯ รวมไปถึงการรายงานการเตรียมความพร้อมการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ปี 2568 - 2569 ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และการบูรณาความร่วมมือ ระหว่างหน่วยงานของรัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและภาคประชาชนอีกด้วยจังหวัดกาญจนบุรี ได้ดำเนินมาตรการเชิงรุกและเข้มงวดเพื่อรับมือกับปัญหาดังกล่าว โดยเน้นในประเด็นสำคัญดังนี้ การบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด • ห้ามเผาเด็ดขาด : มีการประกาศห้ามเผาในที่โล่งแจ้งทุกชนิดอย่างเด็ดขาดในทุกพื้นที่• กวดขันการกระทำผิด : บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดกับผู้ที่ลักลอบเผาป่า เผาตอซังพืชผลทางการเกษตร เช่น ข้าว ข้าวโพด อ้อย• ตัดสิทธิความช่วยเหลือ : พิจารณาตัดสิทธิความช่วยเหลือหรือชดเชยจากภาครัฐสำหรับเกษตรกรหรือราษฎรที่กระทำความผิดหรือฝ่าฝืนข้อกำหนดการเผา• จ่ายรางวัลนำจับ : มีการพิจารณาจ่ายเงินรางวัลให้กับผู้แจ้งเบาะแสการลักลอบเผาป่าจนนำไปสู่การจับกุม • มาตรการห้ามนำเข้า : กำหนดมาตรการห้ามนำเข้าอ้อยไฟไหม้ หรือพืชเกษตรอื่น ๆ ที่ผ่านการเผาอย่างเด็ดขาด และตรวจสอบตามด่านชายแดนอย่างเข้มงวด เพื่อควบคุมปัญหาหมอกควันข้ามแดน
(โดยเฉพาะจากพื้นที่ป่าสงวนบริเวณชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน)• การจัดการในพื้นที่ การลาดตระเวนและเฝ้าระวัง : จัดตั้งชุดปฏิบัติการลาดตระเวนป้องกันไฟป่า ติดตาม ตรวจสอบการบุกรุก/การเผา และดับไฟป่าตลอด 24 ชั่วโมงโดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงสูง • สร้างแนวกันไฟ : ดำเนินการจัดทำแนวกันไฟในพื้นที่เสี่ยง และบริเวณที่ติดกับพื้นที่การเกษตร• ประชาสัมพันธ์เชิงรุก : รณรงค์และสร้างการรับรู้ให้ประชาชนตระหนักถึงอันตรายจากฝุ่น PM2.5 และความสำคัญของการงดเผา ผ่านกิจกรรม เช่น “หยุดเผา หยุดฝุ่น เพื่อคุณ เพื่อเรา” และประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องทั้งนี้ เพื่อลดจำนวนจุดความร้อน (Hotspot) และค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ลดผลกระทบจากไฟป่า หมอกควัน ต่อสิ่งแวดล้อม การท่องเที่ยว และสุขภาพอนามัยของประชาชน ขอความร่วมมือทุกภาคส่วนและประชาชน ร่วมกันปฏิบัติตามมาตรการ และข้อกฏหมายตามประกาศของจังหวัดกาญจนบุรี กำหนดเขตควบคุมการเผา อย่างเคร่งครัด ตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน 2568 – 30 เมษายน 2569 #แจ้งเบาะแส สายด่วนสาธารณภัน 1784 และสายด่วนพิทักษ์ป่า 1362 ตลอด 24 ชม.
////ข่าวภูมิภาค/ ปรีชา  ไหลวารินทร์ ผู้สื่อข่าวนิวส์24สถานีประชาชนประจำจังหวัดกาญจนบุรี ////สุพจน์บดินทร์ กุ่มประสิทธิ์ บก.ข่าวออนไลน์77จังหวัด




กาญจนบุรี - สีสันต์ อดีตนักกีฬาทีมชาติไทย ร่วมเปิดการแข่งขันกีฬาโรงเรียนอนุบาลสังขละบุรี "ดอกบัวเกมส์"

วันนี้ 4 ธันวาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายประวีณวัช  บุญยงค์ อดีตนักกีฬาฟุตบอลทีมชาติไทย ได้เดินทางมาร่วมงานเปิดพิธี“ดอกบัวเกมส์” การแข่งขันกีฬาสีโรงเรียนอนุบาลสังขละบุรี จ.กาญจนบุรีนายประวีณวัช บุญยงค์ อดีตนักกีฬาฟุตบอลทีมชาติไทย(นักกีฬาอาวุโส) ได้กล่าวให้โอวาท กลับนักกีฬาการเล่นกีฬาไม่ใช่เพียงสนุกหรือมันอย่างเดียว เป็นการ เชื่อมความสามัคคีของคนในกลุ่มคณะรู้แพ้รู้ชนะให้อภัยกัน ให้มีระเบียบวินัยสร้างคนให้เป็นคนดีสู่สังคม ให้มีสุขภาพพลานามัยที่แข็งแรงสมบูรณ์ และสร้างให้เป็นนักกีฬามืออาชีพให้ประเทศชาติได้มีชื่อเสียงต่อไปนายนริศ ไชยแก้ว ผอ. โรงเรียนอนุบาลสังขละบุรี และผู้ปกครองประชาชนทั่วไปให้การต้อนรับ นายประวีณวัช บุญยงค์ อดีตนักกีฬาฟุตบอลทีมชาติไทย  ขอถ่ายภาพอดีตที่ผ่านมาไม่เคยมีนักกีฬาทีมชาติมาร่วมงานเปิดกีฬาในพื้นที่อำเภอสังขละบุรี
//////ข่าวภูมิภาค / ปรีชา  ไหลวารินทร์ ผู้สื่อข่าวนิวส์24สถานีประชาชนประจำจังหวัดกาญจนบุรี////สุพจน์บดินทร์ กุ่มประสิทธิ์ บก.ข่าวออนไลน์ 77จังหวัด









ประดับอินทรธนู "ผู้ใหญ่กอล์ฟ" คนรุ่นใหม่นักพัฒนาหวายเหนียว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หอประชุมกำนันผู้ใหญ่บ้าน อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี  นางอรทัย วงศ์วัชรมงคล นายอำเภอท่ามะกา ประธานการประชุมประจำเดือนธันวาคม 2568 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ธารา ศรีพรหมคำ ผกก.สภ.ท่ามะกา พันโทอาคม ทองนุ่ม สัสดีอำเภอท่ามะกา น.ส.สุรีรัตน์ พทธพงศ์  ปลัดอาวุโส ท้องถิ่นอำเภอ สาธารณสุขอำเภอ สัสดีอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน แพทย์ตำบลฯ เข้าร่วมประชุมฯ มีพิธีการมอบโล่ประกาศเกียรติคุณผู้ใหญ่บ้านดำรงตำแห่งอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ มอบเกียรติบัตรการแข่งขันประกวดร้องเพลงไทยลูกทุ่งในงานสัปดาห์สะพานข้ามแม่น้ำแคว มอบประกาศเกียรติคุณรางวัลกำนัน ผู้ใหญ่บ้านฯ ผู้มีผลงานดีเด่น ประจำปี 2568 โดยมี นางอรทัย วงศ์วัชรมงคล นายอำเภอท่ามะกา ประดับอินทรธนูเครื่องหมายผู้ใหญ่บ้านและหนังสือรับรอง ให้แก่ นายพัชระนนท์ เชาว์หิรัญธนิกกุล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 ตำบลหวายเหนียว หรือผู้ใหญ่กอล์ฟ ในที่ประชุมมีการชี้แจงประชาสัมพันธ์ (1.เรื่องมาตรการการบริหารจัดการป้องกันและแก้ไขฝุ่นละอองขนาดเล็ก 2.5 ไมครอน หรือ PM 2.5 และภาคกลางเกษตรที่มีการเน้นย้ำถึงห้ามเผาในพื้นที่การเกษตรในช่วงตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.2569 ถึง 31 มี.ค.2569 และเกษตรกรรายใดมีหรือประวัติการเผาในพื้นที่เกษตร
จะไม่ได้รับสิทธิ์ในการเข้าร่วมโครงการสนับสนุนและการพัฒนาศักยภาพเกษตรทุกโครงการ เป็นเวลา 2 ปี ยกเว้นการช่วยเหลือเกษตรกร ผู้ประสบภัยพิบัติด้านการเกษตร (2.การเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรีแทนตำแหน่งที่นี่ว่าง เขตเลือกตั้งที่ 5 อ.ท่ามะกา มีการรับสมัคร ตั้งแต่วันที่ 8 -12 ธันวาคม 2568  และเลือกตั้งวันที่ 25 มกราคม 2569 (3.การกำหนดจัดพิธีบำเพ็ญกุศลเพื่อแสดงความไว้อาลัยครบรอบ 50 วัน ในวันที่ 22 ธันวาคม 2568 เวลา 10.00 น.ณ วัดพระแท่นดงรังวรวิหารฯลฯ จากนั้น นายพัชระนนท์ เชาว์หิรัญธนิกกุล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1หรือผู้ใหญ่กอล์ฟ นำพวงมาลัยดอกมะลิกราบคุณยายอุดมรัตน์ เชาว์ดี คุณแม่ภัทรภร เชาว์ดี และคุณพ่อพิบูลย์ พรหิรัญรัตน์ เป็นสิริมงคลในชีวิต พร้อมรับพรอันประเสริฐ เป็นขวัญกำลังใจในการทำหน้าที่ดูแลชาวบ้านอย่างเต็มที่ สำหรับ ผู้ใหญ่กอล์ฟ เติบโตมาในครอบครัวนักธุรกิจ เป็นที่รักของพรรคพวกพี่น้องผองเพื่อนและอุทิศตนเพื่อสังคม อาทิการดูแลสนับสนุนหน่วยกู้ภัยในพื้นที่ มอบรถตู้กู้ชีพและอุปกรณ์ตัดถ่าง การช่วยเหลือภัยพิบัติทางธรรมชาติมอบสิ่งของอุปโภคบริโภคที่จำเป็น ถือเป็นนักปกครองคนรุ่นใหม่ไฟแรงวิสัยทัศน์ดีเยี่ยม.
//////ข่าวภูมิภาครี / ปรีชา  ไหลวารินทร์ ผุ้สื่อข่าวนิวส์ 24สถานีประชาชนประจำจังหวัดกาญจนบุ////สุพจน์บดินทร์ กุ่มประสิทธิ์ บก.ข่าวออนไลน์ 77จังหวัด



ข่าว- สจ.จอย พ้นตำแหน่ง นายก อบจ.ปราจีน ปมถือหุ้นสื่อ ตั้งแต่สมัยเป็น ส.อบจ. หลังเพิ่งนั่งเก้าอี้ได้แค่ 11 เดือน

ช่วงกลางดึกเมื่อเวลา 21.55 น.วันที่ 3 ธ.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานจากแหล่งข่าว ระบุว่า มีประกาศของจังหวัดปราจีนบุรี ลงวันที่ ๒ ธันวาคม ๒๕๖๘   เรื่อง แจ้งประกาศผลการการวินิจฉัยสมาชิกภาพของสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี(ส.อบจ.) โดยระบุความว่า ...ด้วยจังหวัดปราจีนบุรีได้รับหนังสือร้องเรียนขอให้สอบสวนและวินิจฉัยว่าสมาชิกภาพ ของนางสาวณภาภัช อัญชสาณิชมน ในขณะดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี (ส.อบจ.) อำเภอเมืองปราจีนบุรี เขตเลือกตั้งที่ ๒ จังหวัดปราจีนบุรี สิ้นสุดลง และต้องถูกเพิกถอนสิทธิตามกฎหมายหรือไม่ เนื่องจากขณะดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี(ส.อบจ.)ได้ลงลายมือชื่อเป็นผู้เริ่มก่อการ จัดตั้งบริษัท แห่งหนึ่ง ในลำดับที่ ๗ ซึ่งบริษัทฯ ประกอบกิจการทางด้านจัดทำเผยแพร่สื่อโฆษณาฯ และในวันดังกล่าวได้เข้าชื่อซื้อหุ้นด้วย ต่อมาจังหวัดปราจีนบุรีได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนกรณีดังกล่าวผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ได้อาศัยอำนาจตามมาตรา ๙ มาตรา ๑๑ แห่งพระราชบัญญัติ องค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ. ๒๕๔๐ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ประกอบข้อ ๓๕ (๒) แห่งกฎกระทรวงการสอบสวน ผู้ดำรงตำแหน่งบางตำแหน่งในองค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ. ๒๕๖๓ วินิจฉัยว่า สมาชิกภาพของนางสาวณภาภัช อัญชสาณิชมน เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี(ส.อบจ.)อำเภอเมืองปราจีนบุรี เขตเลือกตั้งที่ ๒ จังหวัดปราจีนบุรี

สิ้นสุดลงเนื่องจากเป็นบุคคลมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น ตามมาตรา ๙ วรรคสอง และมาตรา ๑๑ (๖) แห่งพระราชบัญญัติองค์การ บริหารส่วนจังหวัด พ.ศ. ๒๕๔๐ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ประกอบตามมาตรา ๕๐ (๓) แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้ง สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๖๒ สำหรับการสิ้นสุดสมาชิกภาพมีผลตั้งแต่วันที่มีเหตุดังกล่าว คือ วันที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๖๗ ซึ่งเป็นวันที่มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ที่ประกอบกิจการหนังสือพิมพ์ หรือสื่อมวลชนใด ๆ ทั้งนี้ เมื่อบุคคลดังกล่าวกำลังดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี(อบจ.) ในวาระปัจจุบัน อันเป็นผลจากการเลือกตั้งต่างวาระกัน ให้พ้นจากตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี(อบจ.) ที่กำลังดำรงอยู่ โดยผลแห่งกฎหมายดังกล่าวด้วย ตามมาตรา ๑๑ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ. ๒๕๔๐ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ในการนี้ จึงขอให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี(อบจ.) ดำเนินการตาม พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๖๒ ในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ...ผู้สื่อข่าวรายงานต่อไปว่า ทั้งนี้ รวมถึงคณะฝ่ายบริหารอันได้แก่ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี(อบจ.),เลขานุการฯ และที่ปรึกษานายก อบจ.ด้วย ตั้งแต่วันที่ ๒ ธันวาคม ๒๕๖๘    ทั้งนี้ทราบว่าทาง กกต.จ.ปราจีนบุรีได้รับเรื่องกรรีดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว และให้เตรียมดำเนินการจัดการดำเนินการรับสมัครและการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี(อบจ.)ภายใน 60 วันต่อไปอนึ่ง การโต้แย้งประกาศคำวินิจฉัยนี้ ให้ทำคำฟ้องเป็นหนังสือยื่นต่อศาลปกครองหรือส่ง ไปรษณีย์ลงทะเบียนไปยังศาลปกครองที่มีเขตอำนาจ ภายใน ๙๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งหรือรับทราบประกาศผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมทั้งนี้สำหรับ การเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี(ส.อบจ.) และนายกองค์การบริหารส่วน จังหวัดปราจีนบุรี
(อบจ.)ที่ผ่านมาเมื่อวันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์  2568 โดยผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี (อบจ.) เบอร์ 1 นายอําไพ กองมณี อดีต สส.บัญชีรายชื่อได้คะแนน 34,398 คะแนน , เบอร์ 2 นายจํารูญ สวยดี พรรคประชาชน 59,929 คะแนน  , เบอร์ 3 3 นางกฤษณ์กมล แพงศรี อดีตผู้สมัคร สส.ปราจีนบุรีพรรคเพื่อไทย ได้ 7,522 คะแนน และ เบอร์ 4 นางสาวณภาภัช อัญชสาณิชมน หรือ สจ.จอย พรรคเพื่อไทย ได้คะแนน 128,156 คะแนน ได้รับการเลือกตั้งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี  และภายหลังชนะการเลือกตั้งได้ไม่นาน   ต่อมานางสาวณภาภัช อัญชสาณิชมน หรือ สจ.จอย ได้ลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทยก่อนถูก วินิจฉัยสมาชิกภาพของสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี(ส.อบจ.)และส่งผลให้พ้นจากตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี(อบจ.)ดังกล่าว///  มานิตย์  สนับบุญ 081-5583238/ ผู้สื่อข่าวนิวส์24สถานีประชาชนประจำจังหวัดปราจีนบุร////สุพจน์บดินทร์ กุ่มประสิทธิ์ บก.ข่าวออนไลน์ 77จังหวัด
ภาพข่าว///มานิตย์  สนับบุญ 081-5583238/ ผู้สื่อข่าวนิวส์24สถานีประชาชนประจำจังหวัดปราจีนบุร////สุพจน์บดินทร์ กุ่มประสิทธิ์ บก.ข่าวออนไลน์ 77จังหวัด







###  มานิตย์  สนับบุญ 081-5583238/ปราจีนบุรี

​คณะอนุกรรมาธิการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม วุฒิสภา เดินหน้าถกประเด็น ถอดบทเรียนภัยน้ำท่วมภาคใต้ หนุนเสริมบูรณาการแจ้งเตือนภัยสู่ความปลอดภัยพี่น้องประชาชน

คณะอนุกรรมาธิการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม วุฒิสภา เดินหน้าถกประเด็น ถอดบทเรียนภัยน้ำท่วมภาคใต้ หนุนเสริมบูรณาการแจ้งเตือนภัยสู่ความปลอดภัยพี่น้องประชาชน


วันที่ 4 ธันวาคม 2568 เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุมกรรมาธิการ CA 331 ชั้น 3 อาคารรัฐสภา กทม.  นายสุทนต์ กล้าการขาย ประธานคณะอนุกรรมาธิการ เป็นประธานการประชุม คณะอนุกรรมาธิการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม วุฒิสภา เดินหน้าประชุม ครั้งที่ 27/2568 พร้อมถกประเด็นถอดบทเรียน ภัยน้ำท่วมภาคใต้ โดยมีอนุกรรมาธิการและที่ปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการฯ พร้อม ผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมฯ 



โดยมีสรุปสาระสำคัญการประชุมดังนี้

การพิจารณาการแจ้งเตือนภัยพิบัติในสถานการณ์อุทกภัยพื้นที่ภาคใต้ 9 จังหวัด (จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดตรัง จังหวัดพัทลุง จังหวัดสตูล จังหวัดสงขลา จังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา และจังหวัดนราธิวาส) โดยเชิญผู้แทนหน่วยงานต่าง ๆ เข้าร่วมการประชุม ดังนี้

กลุ่มที่ 1 ด้านการรับมือภัยพิบัติและการบูรณาการข้อมูลเตือนภัยในท้องถิ่น

• สํานักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย

• กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย

• กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย

• กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย



กลุ่มที่ 2 ด้านท่ากับดูแลกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม

• สานักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์

และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สํานักงาน กสทช.)


กลุ่มที่ 3 ด้านการแจ้งเตือนภัยผ่านระบบโทรคมนาคม Cell Broadcast กสทช.

• บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จํากัด (มหาชน) nt

• บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) true

• บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จํากัด (มหาชน) AIS


กลุ่มที่ 4 ด้านการแจ้งเตือนภัยผ่านสื่อโทรทัศน์และวิทยุกระจายเสียง

• กรมประชาสัมพันธ์ สํานักนายกรัฐมนตรี

• องค์กรภาคีเครือข่ายผู้ประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง

ภาคประชาชนแห่งประเทศไทย (อวชท.)

สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย

• สมาคมผู้ประกอบวิชาชีพวิทยุท้องถิ่นไทย



โดยที่ประชุมได้มีข้อเสนอแนะ และข้อคิดเห็นต่างๆ เกี่ยวกับการแจ้งเตือนภัยต่อหน่วยงาน ดังนี้


1. ควรพัฒนาระบบสื่อสารและบูรณาการข้อมูลระหว่างส่วนกลางและท้องถิ่นให้เป็นเอกภาพ

โดยการจัดทำระบบสื่อสาร ข้อมูลภัยพิบัติที่เชื่อมโยงกันระหว่างศูนย์บัญชาการส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อให้ข้อมูลของสถานการณ์ การคาดการณ์ และคำเตือนภัย สามารถถ่ายทอดถึงประชาชนได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ และลดความซ้ำซ้อน ของข้อมูล ตลอดจนส่งเสริมการใช้ข้อมูลชุดเดียวกันในการตัดสินใจและบริหารจัดการพื้นที่เสี่ยงภัย


2. ควรส่งเสริมบทบาทวิทยุกระจายเสียง โดยเฉพาะระบบวิทยุดิจิทัล ให้เป็นโครงข่ายสำรองด้านการแจ้งเตือนภัย เนื่องจากเครือข่ายอินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์เคลื่อนที่อาจได้รับผลกระทบในสถานการณ์วิกฤต จึงควรสนับสนุนให้สถานีวิทยุกระจายเสียง ในระดับพื้นที่ รวมถึงวิทยุดิจิทัล (DAB+) ทำหน้าที่เป็นช่องทางสำรองในการประกาศเตือนภัย รองรับประชาชนในพื้นที่ห่างไกลหรือพื้นที่ ที่เครือข่ายสื่อสารสมัยใหม่ไม่เสถียร เพื่อให้ประชาชนยังคงได้รับข้อมูลสำคัญอย่างต่อเนื่อง


3. ควรสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาดสำหรับอุปกรณ์แจ้งเตือนภัยในภาวะไฟฟ้าขัดข้อง และส่งเสริมการพัฒนาอุปกรณ์สำคัญ เช่น เสาส่งสัญญาณ เครื่องกระจายเสียง หรืออุปกรณ์เตือนภัยในชุมชน โดยออกแบบหรือปรับปรุงให้รองรับการใช้พลังงาน จากโซลาร์เซลล์หรือแหล่งพลังงานสะอาดอื่น ๆ เพื่อให้ระบบแจ้งเตือนสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง แม้เกิดเหตุการณ์ไฟฟ้าดับ ในพื้นที่ประสบภัย


4. ควรยกระดับความร่วมมือระหว่างหน่วยงานกำกับดูแล ผู้ประกอบการด้านโทรคมนาคม และสื่อกระจายเสียง โดยการจัดทำ กรอบการทำงานร่วมกันระหว่างสำนักงาน กสทช. ผู้ประกอบการโทรคมนาคม (NT, True, AIS) สื่อวิทยุ-โทรทัศน์ และหน่วยงาน ด้านประชาสัมพันธ์ เพื่อกำหนดมาตรฐานการส่งสัญญาณเตือนภัย เช่น Cell Broadcast รวมถึงรูปแบบการเผยแพร่ข้อมูล

ผ่านสื่อมวลชนให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน มีความชัดเจน ไม่คลาดเคลื่อน และประชาชนสามารถรับรู้ได้อย่างรวดเร็วในทุกช่องทาง


Cr.ภาพ/ข่าว: คณะอนุกรรมาธิการฯ กสทช วุฒิสภา 

ทีมข่าวNEWS24:รายงาน