Top News/ข่าวยอดนิยม

Recent News/ข่าวล่าสุด

รองผู้ว่าฯ ระยอง เปิดโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร-วันดินโลก ให้บริการปรึกษาทั้งด้านพืช สัตว์ ประมง ดิน น้ำ สนับสนุนปัจจัยการผลิตให้เกษตรกร

  เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 24 ธ.ค.68 ที่ศาลาเอนกประสงค์บ้านชากมันเทศ ต.แม่น้ำคู้ อ.ปลวกแดง จ.ระยอง น.ส.สลารีวรรณ ทัพทวี รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามบรมราชกุมาร ซึ่งจัดขึ้นโดยสำนักงานเกษตรจังหวัดระยองและหน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในพื้นที่ พร้อมกันนี้ยังได้เปิดงานวันดินโลก ประจำปี 2568 ด้วย มีนายกันตภณ สุขสงค์ นอภ.ปลวกแดง น.ส.สมหมาย พลมณี รักษาราชการแทนเกษตรจังหวัดระยอง นายธนโชค พงษ์ชวลิต เกษตรและสหกรณ์จังหวัดระยอง น.ส.จารุวรรณ ศรีฟ้า ผอ.สถานีพัฒนาที่ดินระยอง และหัวหน้าส่วนราชการหน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในพื้นที่ ร่วมเป็นเกียรติ ภายในงานมีการให้บริการคลินิเกษตรเคลื่อนที่ให้คำปรึกษา และความรู้วิเคราะห์ วินิจฉัยโรคทั้งพืช สัตว์ ประมง ดิน น้ำ สนับสนุนปัจจัยการผลิต เมล็ดพันธุ์พืช และต้นกล้าไม้แจกจ่ายเกษตรกรและประชาชนในพื้นที่
ทั้งนี้โครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ดังกล่าวเป็นรูปแบบหนึ่งของการแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกร พร้อมกับถ่ายทอดเทคโนโลยี และองค์ความรู้การแก้ไขปัญหาการผลิตด้านการเกษตรที่สอดคล้องกับความต้องการของเกษตรกร โดยการบูรณาการความร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานวิชาการ หน่วยงส่งเสริมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมพัฒนาฟื้นฟูเกษตรกรให้สามารถทำการผลิตทางการเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
ทั้งนี้โครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ดังกล่าวเป็นรูปแบบหนึ่งของการแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกร พร้อมกับถ่ายทอดเทคโนโลยี และองค์ความรู้การแก้ไขปัญหาการผลิตด้านการเกษตรที่สอดคล้องกับความต้องการของเกษตรกร โดยการบูรณาการความร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานวิชาการ หน่วยงส่งเสริมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมพัฒนาฟื้นฟูเกษตรกรให้สามารถทำการผลิตทางการเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน














 

ผู้ว่าฯ รัฐพล ควง นายก อบจ. พบปะพี่น้องสื่อมวลชนเชียงใหม่ ผนึกกำลังส่วนราชการ ท้องถิ่น สื่อมวลชน สร้างความร่วมมือในการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร สู่การขับเคลื่อนการพัฒนาจังหวัดเชียงใหม่

   เมื่อวันที่ (23 ธ.ค. 2568) ที่ หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่  นายรัฐพล นราดิศร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ได้มาพบปะกับพี่น้องสื่อมวลชนทุกแขนงของจังหวัดเชียงใหม่ ในกิจกรรม "ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ .. นายก อบจ.เชียงใหม่ พบสื่อมวลชนเชียงใหม่"  เพื่อกระชับความสัมพันธ์และสร้างความร่วมมือในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารประชาสัมพันธ์กิจกรรมของจังหวัดเชียงใหม่ให้บรรลุตามยุทธศาสตร์จังหวัดที่วางไว้
สำหรับกิจกรรม "ผู้ว่าฯ เชียงใหม่.. นายก อบจ.เชียงใหม่ พบสื่อมวลชนเชียงใหม่" ในวันนี้ ถือเป็นวาระพิเศษ ของพี่น้องสื่อมวลชนจังหวัดเชียงใหม่ เพราะเป็นครั้งแรกที่ นายรัฐพล นราดิศร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีโอกาสมาพบปะพูดคุยกับพี่น้องสื่อมวลชนของจังหวัดเชียงใหม่ ภายหลังจากรับตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ คนที่ 43 และเป็นโอกาสอันดีที่ผู้นำส่วนราชการทั้งฝ่ายพลเรือนและฝ่ายท้องถิ่น ได้มาพบปะกับสื่อมวลชนทุกแขนง โดยมีประเด็นที่สำคัญเกี่ยวกับการชี้แจงนโยบายในการปฏิบัติราชการ และการร่วมกันบูรณาการขับเคลื่อนการพัฒนาจังหวัดเชียงใหม่
 โดย นายรัฐพล นราดิศร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า ตนเองจะขับเคลื่อนงานราชการตามแผนยุทธศาสตร์จังหวัด ที่เกิดจากความคิด ข้อเสนอแนะ และแผนงานจากทุกภาคส่วนในจังหวัดเชียงใหม่  เพื่อให้ตอบโจทย์ต่อทุกปัญหาและความต้องการของคนเชียงใหม่  โดยสื่อมวลชน ถือเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาจังหวัดเชียงใหม่  เป็นกระบอกเสียงที่จะนำข้อมูลข่าวสารต่างๆ ของจังหวัด นำไปสู่พี่น้องประชาชนในทุกพื้นที่ให้ได้รับทราบอย่างทั่วถึง  สิ่งไหนที่เป็นข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะ ทางส่วนราชการก็พร้อมที่จะรับฟังและนำไปปฏิบัติ
ด้าน นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายกองค์การบริหารจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า อบจ.เชียงใหม่ พร้อมที่จะร่วมขับเคลื่อนนโยบายการพัฒนาจังหวัดเชียงใหม่ร่วมกับทุกภาคส่วน รวมถึงการสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ  โดยเฉพาะช่วงนี้อยู่ในช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่  อบจ.เชียงใหม่ ได้จัดงานเทศกาลดอกไม้ Charming Chiang Mai Flower Festival ระหว่างวันที่ 28 พฤศจิกายน 2568 - 4 มกราคม 2569  ซึ่งตั้งแต่เริ่มงานมายังไม่ถึง 1 เดือน มีนักท่องเที่ยวเข้าชมงานแล้วกว่า 4 ล้านคน  นอกจากนี้ จังหวัดเชียงใหม่กำลังเริ่มเข้าสู่ช่วงเผชิญกับปัญหาฝุ่นควัน ทาง อบจ.เชียงใหม่ ก็พร้อมสนับสนุนงบประมาณในเบื้องต้นกว่า 14 ล้านบาท มาใช้ในการแก้ปัญหาดังกล่าว















 

ผบ.ตร.เดินทางเป็นประธานร่วมพิธีวันสถาปนาครบรอบ 103 ปี กองบัญชาการตำรวจนครบาล

 วันที่ 24 ธ.ค.68 เวลา 08.00 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.)เขตดุสิต กทม. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. เป็นประธานในพิธีวันคล้ายวันสถาปนากองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ครบรอบปีที่ 103 พร้อมด้วย พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รองผบ.ตร.,พล.ต.อ.สําราญ นวลมา รอง ผบ.ตร.,พล.ต.อ.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ จเรตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้ช่วยผบ.ตร.,พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พล.ต.ท.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ ผบช.ตชด. รองผบช.น.,พล.ต.ต.สุรพงษ์ ไทยประเสริฐ ผบก.อก.บช.สอท. ผบก.น.1-9 ผบก.สส.บช.น.,ผบก.จร. ผบก.อก.ผบช.น.,ผบก.สปพ.,ผบก.อคฝ. ,ผบก.ศฝร. ข้าราชการตำรวจสังกัด บช.น. รองผบก. ผกก. 88 สน. และชมรมแม่บ้านตำรวจนครบาล เข้าร่วมพิธีวางพานพุ่มสักการะพระอนุสาวรีย์พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ากฤษดาภินิหาร กรมพระนเรศวรฤทธิ์ พิธีวางพวงมาลา อนุสาวรีย์ผู้พิทักษ์รับใช้ประชาชน พร้อมกับพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณภาคประชาชนที่ปฏิบัติหน้าที่ดีเด่นสายงานต่างๆ และประชาชนดีเด่นที่ช่วยเหลือตำรวจปฏิบัติหน้าที่
โดยมีอดีต ผบช.น. เข้าร่วม อาทิ พล.ต.ท.วรรณรัตน์ คชรัตน์,พล.ต.ท.อนันท์ ภิรมย์แก้ว,พล.ต.ท.ดํารงศักดิ์ นิลคูหา ,พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต อดีตรองผบ.ตร.,พล.ต.ท.วิโรจน์  จันทรังษี, พล.ต.ท.อดิศร นนทรีย์ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง อดีตผู้ว่ากทม.,พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา อดีตรองผบ.ตร.,พล.ต.ท.อนันต์ ภิรมย์แก้ว,พล.ต.ท.สัณฐาน ชยานนท์, พล.ต.อ.วินัย ทองสอง อดีตรองผบ.ตร., พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล, พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร,พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช,พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น, พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา พร้อมหน่วยงานภายนอก กต.ตร.กทม.(ภาคประชาชน) ส่งตัวแทนเข้าร่วม อาทิ กองทัพบก, กรมสอบสวนคดีพิเศษ,สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เข้าร่วมพิธีดังกล่าว
 ด้านพล.ต.ท.สยาม กล่าวว่า "นับตั้งแต่มีการสถาปนาบช.น. ตั้งแต่ วันที่ 24 ธ.ค.2465 บช.น.ทำหน้าที่ถวายอารักขาและรักษาความปลอดภัยพระบรมวงศานุวงศ์ รวมรักษาความสงบสุขให้ประชาชน จนครบรอบปีที่ 103 บช.น. มีความมุ่งหมายให้สมเกียรติภูมิสูงสุด อีกทั้งเพื่อเป็นการระลึกถึงข้าราชการตำรวจที่เสียสละชีวิต และผู้ที่ร่วมปฏิบัติภารกิจของตำรวจนครบาล และตนขอให้คำมั่นสัญญาว่าจะตั้งใจปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถต่อไป"

 

“กัณวีร์” หัวหน้าพรรคพลวัต เปิดโครงการปฐมนิเทศ ชูนโยบายขับเคลื่อนประเทศ พร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง

“กัณวีร์” หัวหน้าพรรคพลวัต เปิดโครงการปฐมนิเทศ ชูนโยบายขับเคลื่อนประเทศ พร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง

วันที่ 23 ธ.ค. 68 นายกัณวีร์ สืบแสง หัวหน้าพรรคพลวัต เปิดโครงการปฐมนิเทศสมาชิกและว่าที่ผู้สมัคร สส. ของพรรค โดยประกาศจุดยืนและวิสัยทัศน์ของพรรคในการขับเคลื่อนการเมืองไทยให้ก้าวพ้นความหยุดนิ่ง พร้อมย้ำความพร้อมของพรรคในการลงสนามเลือกตั้งอย่างเป็นระบบ

นายกัณวีร์ กล่าวว่า จุดกำเนิดของพรรคพลวัตเกิดจากการรวมตัวของอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 3 คน ที่ได้ทำหน้าที่ในสภาฯ มากว่า 2 ปี 6 เดือน และมองเห็นตรงกันว่าการเมืองไทยติดหล่มมานาน ขาดการปรับตัวให้สอดรับกับโลกยุคใหม่ จึงตัดสินใจก่อตั้งพรรคขึ้นมาเพื่อสร้าง “ความเปลี่ยนแปลงที่ลงมือทำได้จริง”

คำว่า “พลวัต” สะท้อนอุดมการณ์ของพรรคอย่างชัดเจน คือการขับเคลื่อนไปข้างหน้า การปรับเปลี่ยนโครงสร้างให้ทันต่อยุคสมัย ทั้งในมิติการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม เพื่อให้ประเทศไทยสามารถเดินหน้าต่อไปได้อย่างมั่นคง พรรคยึดหลักการประชาธิปไตย และเห็นว่าการเมืองไทยมี 2 แนวคิดหลัก คือการกระจายทุนให้ประชาชนมีรายได้ และแนวคิดรัฐสวัสดิการที่ใช้งบประมาณของรัฐ พรรคพลวัตมีจุดยืนในแนวคิดสังคมนิยมประชาธิปไตย แต่แตกต่างจากพรรคอื่นด้วยการสร้าง “เครือข่ายความปลอดภัยทางสังคม” เพื่อรองรับประชาชนที่อาจตกหล่นจากระบบ ทั้งด้านการกระจายทุน สวัสดิการ และการคุ้มครองสิทธิ พรรคพลวัตจึงออกแบบนโยบายภายใต้กรอบ “6 เสาหลักด้านสิทธิและเสรีภาพ” เพื่อให้การพัฒนาประเทศไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และคุ้มครองประชาชนทุกกลุ่มอย่างเป็นธรรม

ในด้านนโยบายสำคัญ นายกัณวีร์ ระบุว่า พรรคให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาชายแดนไทย–กัมพูชา โดยมุ่งเน้นแนวทางสันติภาพ ควบคู่กับการรักษาอธิปไตยของประเทศ รวมถึงการแก้ไขปัญหามลพิษข้ามแดน โดยเฉพาะปัญหาสารปนเปื้อนในแม่น้ำตามแนวชายแดนไทย–เมียนมา ซึ่งพรรคจะผลักดันเป็นนโยบายหลักเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน

ด้าน นายสุรพันธ์ ไวยากรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลวัต ด้านยุทธศาสตร์การเลือกตั้งและนโยบาย กล่าวว่า พรรคพลวัตในฐานะพรรคการเมืองเกิดใหม่ มีความพร้อมในการส่งผู้สมัคร สส. เขต ครอบคลุม 25 จังหวัด รวม 90 เขต โดยเฉพาะกรุงเทพมหานครซึ่งสามารถส่งผู้สมัครได้ถึง 28 เขต รวมถึงพื้นที่ภาคเหนือ ภาคใต้ และจังหวัดชายแดน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่พรรคมีศักยภาพในการปักธงทางการเมือง

แกนนำพรรคทั้ง 3 คน เคยทำงานร่วมกันในสภาผู้แทนราษฎรชุดที่ 26 มีความเชื่อมั่นในวิสัยทัศน์ของหัวหน้าพรรค และยืนยันว่าพรรคพลวัตเป็นพรรคของ “นักปฏิบัติ” ที่พร้อมขับเคลื่อนและลงมือทำจริง โดยเชื่อว่าด้วยทีมงานทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง จะสามารถสร้างความเชื่อมั่นและชนะใจประชาชนได้ ผลสำรวจความคิดเห็นที่พบว่าประชาชนกว่า 40% ยังไม่ตัดสินใจเลือกพรรคการเมืองใด พรรคพลวัตจึงตั้งเป้าเป็นทางเลือกใหม่สำหรับประชาชนกลุ่มดังกล่าว ในวันที่ 27 ธันวาคม 2568 จะมีการจับสลากหมายเลขผู้สมัครในจังหวัดนนทบุรี โดยตนมั่นใจจากการลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องว่า พรรคพลวัตจะสามารถคว้าที่นั่ง สส. ในจังหวัดนนทบุรีได้อย่างน้อย 3 เขต

ขณะที่ นายอภิสิทธิ์ ไล่ศัตรูไกล ประธานฝ่ายยุทธศาสตร์และนโยบาย พรรคพลวัต กล่าวว่า พรรคให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจฐานราก โดยมองว่าพรรคการเมืองขนาดใหญ่มักมีโครงสร้างที่เทอะทะ ขาดความคล่องตัวในการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน พรรคพลวัตจึงเน้นการต่อยอด “ทุนของชุมชน” ทั้งทรัพยากรธรรมชาติ ผลผลิตทางการเกษตร สิ่งแวดล้อม และอัตลักษณ์เฉพาะถิ่น เพื่อสร้างรายได้อย่างยั่งยืน

พรรคพลวัตจะผลักดันการเพิ่มทักษะอนาคตให้กับชุมชน ไม่ว่าจะเป็น Digital Marketing การวิเคราะห์ข้อมูล การบริหารจัดการ และการพัฒนาคุณภาพแรงงาน โดยเฉพาะกลุ่มอาชีพอิสระและฟรีแลนซ์ ที่ควรได้รับสวัสดิการ ระบบประกันสังคม และการเข้าถึงแหล่งทุนอย่างเป็นธรรม เพื่อให้เศรษฐกิจฐานรากเข้มแข็งและเติบโตไปพร้อมกับประเทศ