Top News/ข่าวยอดนิยม

Recent News/ข่าวล่าสุด

เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2568 เวลา 09.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลาปฏิบัติธรรม 101 หลวงพ่อสงัด อุคฺคเสโน วัดบางช้างเหนือ ตำบลคลองใหม่ อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม

 กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม โดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครปฐม ร่วมกับวัดบางช้างเหนือ และศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์วัดบางช้างเหนือ จัดโครงการค่ายศีลธรรม “ธรรมศึกษาพัฒนาชีวิต” ระหว่างวันที่ 9 – 10 ธันวาคม 2568 โดยมี พระราชวชิรสุตาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดนครปฐม เจ้าอาวาสวัดบางช้างเหนือ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์    นางฐิติรัตน์ เรืองสังข์ วัฒนธรรมจังหวัดนครปฐม เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พระเถรานุเถระ คณะครู ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ นักเรียน เข้าร่วมกิจกรรมฯ

ศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์วัดบางช้างเหนือ จัดโครงการค่ายศีลธรรมหลังจากที่มีการสอบธรรมศึกษาสนามหลวงแล้วเสร็จ โดยมีวัตถุประสงค์ ดังนี้

1.ปลูกฝังจิตสำนึกด้านคุณธรรม รับรู้ และเข้าใจ โดยมุ่งเน้นในเรื่องความกตัญญูกตเวที ซื่อสัตย์สุจริต มีวินัย มีความพอเพียง และเสียสละ เป็นต้น

2. ปลูกฝังจิตสำนึกด้านจริยธรรม ให้มีหลักปฏิบัติที่ดีงาม โดยเน้นพัฒนาด้านความคิด จิตใจและพฤติกรรม

3. ปลูกฝังจิตสำนึกด้านศีลธรรม สามารถแยกแยะ สิ่งดี สิ่งไม่ดีโดยนำทั้งด้านคุณธรรม จริยธรรมไปใช้ในการดำเนินชีวิตได้

ในปีการศึกษา 2568 นี้ ทางศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์วัดบางช้างเหนือ ได้จัดโครงการค่ายศีลธรรม ระหว่างวันที่ 9 - 10 ธันวาคม พุทธศักราช 2568 มีโรงเรียน ที่เข้าร่วมโครงการ จำนวน 10 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียน           วัดบางช้างเหนือ โรงเรียนบ้านคลองใหม่ โรงเรียนบ้านดอนทอง  โรงเรียนบ้านหัวอ่าว โรงเรียนบ้านบางม่วง โรงเรียน          วัดบางช้างใต้ โรงเรียนบ้านบางประแดง โรงเรียนวัดเชิงเลน โรงเรียนบ้านดงเกตุ และโรงเรียนวัดท่าข้าม มีนักเรียน      จำนวน 326 คน คณะครูจำนวน 42 คน รวมทั้งสิ้น 368 คน








 

บรรยากาศ คนชายแดน ปลอดภัยดีมีหลุมหลบภัยเป็นที่พึง

ช่วงเช้านี้บรรยากาศที่บ้านนางามหมู่ที่ 17 ต.ตาพระยา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ได้พากันวิ่งลงหลุมหลบภัยกันวุ้นทั้งผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านผู้สูงอายุปลอดภัยไว้ก่อนและยังฝากงานนี้ต้องให้จบผู้หลบภัยยังขอพรให้เจ้าหน้าที่ไทยปลอดภัยทุกคนในช่วงเช้าเวลา7.00นเริ่มมีเสียงปืนใหญ่และปืนเล็กปะทะกับเจ้าหน้าทีไทยตลอดแนว ช่องด่านตาพระยา(บึงตะกวน)บ้านจะกาโกเขมรเพราะบ้านนางางามห่างจากเขตแดนไทย 7 กมเท่านั้นเสียงปืนดังกึกกล้องนับ100นัดตั่งเช้าจนถึงขณะนี้จากนั้นนาย คำนวณ เจือจาง อดีด อบต.ตาพระยา

ยังได้ประสานงานผู้ใหญ่บ้านให้ช่วยกันสอดส่องบุคคลต้องสงสัยที่จะแอบมาส่งพิกัดให้ฝั่งทหารกำพูชาอีกด้วยถ้าทหารกำพูชาไม่มีคนชี้เป้าส่วนใหญ่จะยิงไปตกที่บ้านโคกทหารและบ้านแสง์นี้คือเส้นทางของทหารเขมรที่ยิงมาฝั่งไทยหย่างไรก็แล้วแต่การยิงตอยโต้กันทั้งสองฝั่งทำให้พี่น้องประชาชนทั้งสองประเทศต้องได้รับความลำบากและสร้างความเสียหายจากภัยสู้รบไทยกำพูชาต่อที่เนื่องมาเป็นวันที่สามแล้ว
ภาพข่าว//คำนวน////สุพจน์บดินทร์(จัด)กุ่มประสิทธฺื บก.ข่าวออนไลน์นิวส์24สถานีประชาชน 77จังหวัด








ปราจีนบุรี แถลงข่าวจัดคอนเสิร์ตการกุศลเพื่อหารายได้ช่วยเหลือเพื่อนช่วยเพื่อนนักรบกบินทร์บุรี

เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2568 พลฯสมนึก เกิดโกมล นายกสมาคมเพื่อนช่วยเพื่อนนักรบกบินทร์บุรี แถลงข่าวกิจกรรมจัดคอนเสิร์ตการกุศล เพื่อหารายได้ช่วยเหลือ ทหารผ่านศึกนักรบกบินทร์บุรี ซึ่งพึ่งตั้งสมาคมใหม่เมื่อเดือนกันยายน 2568 ที่ผ่านมาสมาคมเพื่อนช่วยเพื่อนนักรบกบินทร์บุรี ตั้งอยู่ที่เลขที่ 103 หมู่ที่ 10 ตำบลนนทรี อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ได้กำหนดจัดคอนเสิร์ตการกุศลในครั้งนี้ จะได้พบกับนักร้องดัง โชค โชคมงคล (โชครถแห่) เต็มวง ในวันเสาร์ที่ 28 มีนาคม 2569 ตั้งแต่เวลา 20:00 น. - 24:00 น. ณ สนามตลาดนนทรี พลาซ่า (ครัวขุนแผนซีฟู้ดนนทรี) ต.นนทรี อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรีโดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นสวัสดิการให้กับสมาชิกสมาคมเพื่อนช่วยเพื่อนนักรบกบินทร์บุรี เพื่อจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ต่างๆเครื่องมือช่วยเหลือผู้ป่วยผู้พิการให้กับสมาชิกสมาคมเพื่อนช่วยเพื่อนนักรบกบินทร์บุรีที่ได้รับความลำบาก
และ เพื่อปรับปรุงสำนักงานของสมาคมเพื่อนช่วยเพื่อนนักรบกบินทร์บุรี ทางสมาคมเพื่อนช่วยเพื่อนนักรบกบินทร์บุรีจึงใคร่ขอความอนุเคราะห์จากท่านและหน่วยงานได้โปรดให้การสนับสนุนซื้อบัตรเข้าชมคอนเสิร์ตการกุศลตามแต่ท่านเห็นสมควร โดยจะมีเจ้าหน้าที่หรือตัวแทนของทางสมาคมเพื่อนช่วยเพื่อนนักรบกบินทร์บุรีออกจำหน่ายบัตรเข้าชมคอนเสิร์ตล่วงหน้าในเขตพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรีและจังหวัดใกล้เคียง ทางสมาคมเพื่อนช่วยเพื่อนนักรบกบินทร์บุรีไม่ขอรับบริจาคหรือเรี่ยไรใดๆนอกจากสนับสนุนซื้อบัตรเข้าชมเท่านั้น โดยจะมีเป็นบัตร VIP ราคา 2,000 บาทจำนวน 6 ที่นั่ง บัตร VIP 1,000 บาทจำนวน 3 ที่นั่ง และบัตรหน้างานราคา 150 บาท หรือโทรสอบถามได้ที่ 061-408-7603 นายกสมาคมเพื่อนช่วยเพื่อนนักรบกบินทร์บุรี
ภาพข่าว/////วุฒิบัณฑิต เขียวศิริ ผู้สื่อข่าวนิวส์24สถานีประชาชนประจำจังหวัดปราจีนบุรี///สุพจน์บดินทร์ กุ่มประสิทธิ์ บก.ข่าวออนไลน์ 77จังหวัด









ปธ.กต.ตร.สภ.เมืองพัทยา เดินสายอวยพรวันคล้านวันเกิดนย้อนหลังนายกเบียร์ ปรเมศวร์-ร่วมแสดงความยินดีรองบอย ดำรงค์เกียรติ

นางอำพร แก้วแสง ปธ.กต.ตร.สภ.เมืองพัทยา พร้อมคณะได้นำกระเช้าร่วมอวยพรวันคล้ายวันเกิดย้อนหลังให้กับนายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา ที่ครบรอบวันคล้ายวันเกิดวันที่ 29 พฤศจิกายนของทุกปี ด้วยบรรยากาศที่เป็นกันเอง
ทั้งนี้ เมืองพัทยาได้จัดพื้นที่สำหรับผู้เดินทางมาร่วมอวยพรวันคล้ายวันเกิดนายกเมืองพัทยา บริเวณหน้าห้องนายกเมืองพัทยา ทางขึ้นชั้น 4 ศาลาว่าการเมืองพัทยา เพื่ออำนวยความสะดวกในการร่วมอวยพรและถ่ายภาพเป็นที่ระลึก
นอกจากนี้ทางคณะ กต.ตร.สภ.เมืองพัทยา ยังได้ร่วมแสดงความยินดีกับนายดำรงค์เกียรติ พินิจการ รองนายกเมืองพัทยาป้ายแดง ที่ได้รับความไว้วาใจให้ดำรงตำแหน่ผู้บริหารเมืองพัทยาระดับสูงคนใหม่ โดยได้ร่วมมอบกระเบ้าแสดงความยินดี ก่อนถ่ายภาพเป็นที่ระลึกบันทึกในกิจกรรมของคณะ กต.ตร.สภ.เมืองพัทยาชุดปัจจุบันต่อไป

 

ร่วมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ปล่อยพันธุ์ปูม้าและพันธุ์กุ้งทะเล 8.9 แสนตัวลงอ่าวพัทยา

เวลา 15.30 น.วันที่ 8 ธ.ค.68 ประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจำนวนมากเข้าร่วมกิจกรรมปล่อยพันธุ์ปูม้าและพันธุ์กุ้งทะเล ครั้งที่ 1 ประจำปี 2568 ณ ปราสาทสัจธรรม พัทยา จ.ชลบุรี
กิจกรรมดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของงานพิธี 5 ศาสนา ถวายพระราชกุศล น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดดุลยเคชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ประจำปี 2568
ภายในพิธีได้จัดให้มีการแสดงและจินตลีลาสร้างสีสันของตัวแทนจากศาสนาต่างๆ ก่อนได้รับเกียรติจากนายพิจารณ์ และนางวรากร วิริยะพันธุ์ ผู้บริหารพิพิพิธภัณฑ์ปราสาทสัจธรรม เป็นประธานปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำเป็นพันธุ์ปูทะเล 5 แสนตัว และพันธุ์กุ้งทะเล 3.9 แสนตัว รวม 8.9 แสนตัวลงทะเลพัทยา เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสืบสานพระปณิธานการให้ความสำคัญของแหล่งน้ำและการประมงไทยต่อไป



 

ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 สรุปสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ จ.สระแก้ว ประจำวัน 9 ธันวาคม 2568 เวลา 19.00 น. กกล.บูรพา เข้าดำเนินกลยุทธ์ต่อที่หมายเป็นวันที่ 2 โดยมีการปฏิบัติดังนี้

พื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง : หน่วยเฉพาะกิจที่ 12  ได้ยึดและควบคุมพื้นที่อธิปไตยของไทยบ้านหนองหญ้าแก้วเป็นที่เรียบร้อย ตั้งแต่เมื่อ 8 ธ.ค.68 ซึ่งในห้วงเช้าวันนี้ได้เข้าเคลียร์พื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ตรวจพบว่าฝ่ายกัมพูชามีการเตรียมการจะใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ในพื้นที่ โดยตรวจพบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลชนิด PMN-2 จำนวน 2 ทุ่น สภาพพร้อมใช้งาน นอกจากนี้ ยังตรวจพบระเบิดแสวงเครื่อง จำนวน 2 ชุด โดยชุดที่ 1 ประกอบด้วยกระสุน RPG2    3 นัด และ ค.60 1 นัด (สภาพพร้อมใช้งาน) ชุดที่ 2 ประกอบด้วยกระสุน ปรส.82 และ Dynamite (สภาพพร้อมใช้งาน) ได้ดำเนินการเก็บกู้เป็นที่เรียบร้อยพื้นที่บ้านหนองจาน อ.โคกสูง :  ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเข้าปฏิบัติการต่อที่หมาย  โดยฝ่ายกัมพูชามีการต้านทานอย่างหนักด้วยการยิงจากอาวุธชนิดต่าง ๆ โดยเฉพาะจรวดหลายลำกล้อง BM – 21 เข้ามายังหมู่บ้านที่ชาวกัมพูชาเคยอยู่อาศัยก่อนเกิดสถานการณ์ความขัดแย้งพื้นที่บ้านคลองแผงอ.ตาพระยา : หน่วยเฉพาะกิจที่ 11 เข้าปฏิบัติต่อที่หมาย โดยมีการปฏิบัติที่สำคัญ ได้แก่ การใช้รถถัง ยิงทำลายบ่อนกาสิโนในฝั่งกัมพูชา ที่อยู่ติดแนวชายแดนในพื้นที่ตรงข้ามจุดผ่อนปรนทางการค้าบ้านตาพระยา อ.ตาพระยา ซึ่งใช้เป็นที่ตั้งยิงปืนกล และอาวุธยิงสนับสนุนต่าง ๆ รวมถึงเป็นแหล่งรวบรวมยุทโธปกรณ์ ที่จะใช้ปฏิบัติต่อฝ่ายไทย ซึ่งเมื่อเวลา 16.00 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ 11 สามารถควบคุมพื้นที่บริเวณบ้านคลองแผง อ.ตาพระยา ได้บางส่วน พร้อมกับได้ทำการวางลวดหนามตลอดแนวที่ควบคุมได้ไว้ในเบื้องต้น สำหรับกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ตั้งแต่ 8 ธ.ค.68 จำนวน 5 นาย โดยมีกำลังพลมีอาการสาหัส 1 นาย เข้ารับการรักษา รพ.วัฒนานคร และ รพ.โคกสูง ปัจจุบันทุกนายมีอาการปลอดภัย
และในวันนี้ได้รับรายงานกำลังพลได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติมอีก 1 นาย คือ               ส.ต.ต.กำพล แสงจันทร์สี สังกัด ร้อย.ตชด.125 ได้รับบาดเจ็บในพื้นที่จุดตรวจที่ 14 อ.โคกสูง จากการถูกสะเก็ดระเบิดข้างท้องด้านซ้าย เข้ารับการรักษา ณ รพ.โคกสูง อ.โคกสูง ปัจจุบันอาการปลอดภัย นอกจากนี้ ได้รับรายงานพบลูกกระสุนปืนใหญ่ และเครื่องยิงลูกระเบิดของฝ่ายกัมพูชา ตกใส่บ้านเรือนประชาชน ในพื้นที่ บ้านโคกทหาร ต.ทัพเสด็จ อ.ตาพระยา และพื้นที่บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง ให้บ้านเรือนประชาชน เสาไฟฟ้า และถนน ได้รับความเสียหายจาก แรงระเบิด โดยในวันนี้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต สำหรับประชาชนในพื้นที่ชายแดน จ.สระแก้ว ใน 4 อำเภอ ได้มีการอพยพแล้ว จำนวน 180,683 คน คิดเป็นร้อยละ 83 ซึ่งทางจังหวัดสระแก้วร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราว 5 พื้นที่ ได้แก่ อ.เมือง, อ.โคกสูง, อ.วังน้ำเย็น, อ.เขาฉกรรจ์ และ อ.วัฒนานคร มีประชาชนเข้าพักอาศัย รวม15,560 คน นอกจากนี้ ศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทาน ภาค 1 โดย ศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทาน มทบ. 19, ศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทาน  จ.สระแก้ว ร่วมกับส่วนราชการและประชาชนจิตอาสา ร่วมกันดูแลประชาชนภายในศูนย์พักพิงชั่วคราว ณ จังหวัดสระแก้ว ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ จัดตั้งโรงครัวพระราชทานปรุงอาหารแจกจ่ายประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ณ ศูนย์พักพิงชั่วคราว อ.เมือง   จ.สระแก้ว กองทัพภาคที่ 1 โดย กกล.บูรพา, ตำรวจตระเวนชายแดน, ทหารพราน, เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตลอดจนฝ่ายปกครองและส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง มีความพร้อมและมีกำลังใจที่ดีในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อปกป้องอธิปไตยของไทย และขอยืนยันว่าจะยืนหยัดปฏิบัติงานตามภารกิจ อย่างเต็มกำลังความสามารถ ทั้งนี้ การปฏิบัติการทางทหารจะดำเนินการภายใต้กฎการปะทะและสิทธิในการป้องกันตนเอง จนกว่าภัยคุกคามในพื้นที่ชายแดน จ.สระแก้ว จะยุติเพื่ออธิปไตยของไทย และความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนเป็นสำคัญ
////ภาพข่าว//กกล///สุพจน์บดินทร์(จัด) กุ่มประสิทธฺ์ บก.ข่าวออนไลน์นิวส์24สถานีประชาชน 77จังหวัด โทร 0953071918










/////ภาพข่าว//กกล//สุพจน์บดินทร์ (จัด)กุ่มประสิทธิ์ บก.ข่าวออนไลน์นิวส์24สถานีประชาชน 77จังหวัด โทร 0953071918

กอ.รมน. ขอความร่วมมือประชาชนเป็นหูเป็นตาในช่วงสถานการณ์ตึงเครียดชายแดนไทย - กัมพูชา มอบหมาย รอง ผอ.รมน.จังหวัด(ฝ่ายทหาร) บูรณาการกำลังและการปฏิบัติงานร่วมกับฝ่ายปกครอง กำชับมาตรการดูแลอพยพประชาชนจากพื้นที่ โดยยึดความปลอดภัมของประชาชนเป็นเป้าหมายสูงสุด

กอ.รมน. ขอความร่วมมือประชาชนเป็นหูเป็นตาในช่วงสถานการณ์ตึงเครียดชายแดนไทย–กัมพูชา พร้อมกำชับมาตรการดูแลอพยพประชาชนจากพื้นที่ที่มีการใช้อาวุธ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ขอเรียนว่า ขณะนี้สถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชายังคงมีความตึงเครียดเพิ่มขึ้น โดยในบางจุดได้เกิดเหตุการใช้อาวุธระหว่างกำลังทหารฝ่ายไทยกับกำลังทหารฝ่ายกัมพูชา ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง จึงจำเป็นต้องเพิ่มมาตรการระมัดระวังและเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ กอ.รมน. ขอให้ประชาชนในพื้นที่ที่มีการใช้อาวุธหรือพื้นที่เสี่ยง อพยพออกจากพื้นที่ชั่วคราวตามเส้นทางและจุดปลอดภัยที่หน่วยงานด้านความมั่นคงและฝ่ายปกครองได้กำหนดไว้ โดยเจ้าหน้าที่พร้อมให้คำแนะนำและอำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ พลเอก ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ เสนาธิการทหารบก/เลขาธิการ กอ.รมน. ได้มอบหมายให้ รอง ผอ.รมน.จังหวัด (ฝ่ายทหาร) ทำหน้าที่สำคัญในการบูรณาการกำลังและการปฏิบัติงานร่วมกับฝ่ายปกครอง (นายอำเภอ, กำนัน, ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ) เพื่อดำเนินการอพยพประชาชนในพื้นที่ส่วนหลังอย่างมีระบบ โดยปฏิบัติตามแผนปฏิบัติการในพื้นที่ส่วนหลังของจังหวัด ให้จัดกำลังสนับสนุนจากมวลชน กอ.รมน. ได้แก่ ไทยอาสาป้องกันชาติ (ทสปช.), เครือข่าย พคบ., ผู้นำชุมชนและภาคประชาสังคม รวมถึงประสานเส้นทางปลอดภัย จุดรวมพลและการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง และรายงานสถานการณ์ ความต้องการเร่งด่วนกลับสู่ศูนย์อำนวยการอย่างต่อเนื่องนอกจากนี้ กอ.รมน. ขอความร่วมมือจากประชาชนให้ช่วยสังเกตการณ์และแจ้งเบาะแสที่อาจเป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ เช่น บุคคลต่างชาติที่มีพฤติกรรมลับล่อ หรือหลีกเลี่ยงการแสดงตน, การถ่ายภาพหรือบันทึกข้อมูลในพื้นที่หวงห้าม, การเข้าพื้นที่ต้องห้ามโดยไม่มีเหตุผล, การติดต่อหรือเคลื่อนไหวผิดปกติใกล้พื้นที่ราชการหรือพื้นที่ด้านความมั่นคง โดย กอ.รมน. ขอยืนยันว่า ข้อมูลที่ประชาชนแจ้งจะถูกเก็บเป็นความลับและใช้เพื่อความปลอดภัยส่วนรวม โดยสามารถแจ้งผ่าน- สายด่วน 191 และสายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ- สายด่วนความมั่นคง กอ.รมน. 1374 โทรฟรีตลอด 24 ชั่วโมง- สายด่วนศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด 1567- หน่วยทหารและฝ่ายปกครองในพื้นที่ หรือเจ้าหน้าที่ความมั่นคงที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยกอ.รมน. ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ให้ความร่วมมือด้วยดีมาโดยตลอด และขอยืนยันว่าทุกหน่วยงานของรัฐจะปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มขีดความสามารถ เพื่อปกป้องชีวิต ทรัพย์สินของประชาชน และยึดความปลอดภัยของประชาชนเป็นเป้าหมายสูงสุด#ทีมโฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร/8 ธ.ค.2568
/////ภาพข่าว//กรมน///สก///สุพจน์บดินทร์ (จัด)กุ่มประสิทธิ์ บก.ข่าวออนไลน์นิวส์24สถานีประชาชน 77จังหวัด โทร 0953071918









จังหวัดอุตรดิตถ์เปิดงานประเพณีไหลแพไฟเฉลิมพระเกียรติและพิธีขอบคุณพืชพันธุ์ธัญญาหารและสายน้ำ และเทศกาลกินปลากินไข่ ประจำปี 2568 ครั้งที่ 26

  เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2568 เวลา 20.00 น. ที่วัดหาดสองแคว ต.หาดสองแคว อ.ตรอน จังหวัดอุตรดิตถ์ นายสันติ รังษิรุจิ  ผวจ.อุตรดิตถ์ เป็นประธานเปิดงานประเพณีไหลแพไฟเฉลิมพระเกียรติและพิธีขอบคุณพืชพันธุ์ธัญญาหารและสายน้ำ และเทศกาลกินปลากินไข่ ประจำปี 2568 ครั้งที่ 26 พร้อมด้วย นายสุรพันธ์   เจริญทรัพย์ วัฒนธรรมจังหวัดอุตรดิตถ์ และ นางสาวภัททิรา  คำอภิวงศ์  หัวหน้าศูนย์ประสานงาน ททท.สำนักงานอุตรดิตถ์  โดยมี นางสาวพรทิพย์  คล้ายชม นายอำเภอตรอน กล่าวรายงานการจัดงานและหัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่นและ ประชาชน ร่วมงานดังกล่าว
 สำหรับงานประเพณีไหลแพไฟเฉลิมพระเกียรติและพิธีขอบคุณพืชพันธุ์ธัญญาหารและสายน้ำ และเทศกาลกินปลากินไข่ ประจำปี 2568 ครั้งที่ 26  ซึ่งงานจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 3 - 6 ธันวาคม 2568 ที่บริเวณท่าน้ำริมน้ำน่าน ทั้ง 5 ท่าน้ำ ในพื้นที่อำเภอตรอน ไประกอบไปด้วย ท่าน้ำวัดวังแดง หมู่ 3, ท่าน้ำสวนสาธารณะเทศบาลตำบลตรอน, ท่าน้ำองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านแก่ง, ท่าน้ำลานริมน่านเทศบาลตำบลบ้านแก่ง และท่าน้ำวัดหาดสองแคว เพื่อเฉลิมพระเกียรติและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และยังส่งเสริมการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ตลอดจนสืบสานงานประเพณีไหลแพไฟให้เกิดความยั่งยืน
ภายในงาน มีการจัดนิทรรศการแพไฟเฉลิมพระเกียรติฯ และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม , สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว การแสดงศิลปวัฒนธรรม การประกวดถ่ายรูป การจัดวิ่ง Night Run ตลอดจนกิจกรรมตลาดวัฒนธรรม ให้เลือก Shopping เลือกชิมอาหาร สินค้าผลิตภัณฑ์ในชุมชน เทศกาลกินปลากินไข่ การสาธิตทำอาหารเมนูจากปลาและไข่จากแหล่งผลิตในพื้นที่ ส่วนไฮไลท์ของงานในวันที่ 5 ธันวาคม ที่จะมีการไหลแพไฟทั้ง 7 หลัง ได้แก่ 1.เอกองค์อัมรินทร์  2.นวมินทรมหาราช  3.ปราชญ์แห่งแผ่นดิน 4.อัครศิลปิน 5.ภูมินทร์ภัทรราชัน 6.คุ้มเกล้าประชาสุขสันต์ และ 7.ราชันแห่งราชา ตั้งแต่ท่าน้ำวังแดง ถึงท่าน้ำวัดหาดสองแคว รวมระยะทางราว 10 กิโลเมตร ถือเป็นการยกระดับงานประเพณีไหลแพไฟเฉลิมพระเกียรติฯ และขับเคลื่อน Soft Power ของจังหวัดอุตรดิตถ์ สู่การท่องเที่ยวชุมชน และการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม สร้างรายได้ให้กับชุมชนและจังหวัดอุตรดิตถ์ต่อไป

ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 18.00 น. ของวันที่ 5 ธันวาคม 68 นายชัยศิริ ศุภรักษ์จินดา นายก อบจ.อุตรดิตถ์ เป็นประธานในพิธีเปิดงานประเพณีไหลแพไฟเฉลิมพระเกียรติฯ และพิธีขอบคุณพืชพันธุ์ธัญญาหารและสายน้ำ ประจำปี 2568 ภายใต้แนวคิด “ไหลแพรไฟแห่งศรัทธา น้อมสำนึกพระเมตตา สถิตในใจราษฎร์ตราบนิรันดร์ โดยมี นายชินวัฒน์ แดงกองโค ปลัดองค์ อบต.ปฎิบัติหน้าที่นายก อบต.วังแดง กล่าวรายงานฯ พร้อมด้วยนายชวลิต วีระศิริวัฒน์ รองประธานสภา อบจ.อุตรดิตถ์ (ส.อบจ.อุตรดิตถ์ อ.ตรอน เขต 2) นายฉัตรชนัย โนต๊ะยศ ปลัด อบจ.อุตรดิตถ์ นายนันทสิทธิ์ โพธิ์งาม รองปลัด อบจ.อุตรดิตถ์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมเป็นเกียรติในพิธีฯ 

                                       

ด้วยจังหวัดอุตรดิตถ์ ร่วมกับ องค์การบริหารส่วนตำบลวังแดง ดำเนินการจัดงานฯ ระหว่างวันที่ 4 – 5 ธันวาคม 2568 เพื่อเฉลิมพระเกียรติและน้อมรำลึก ในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รวมถึงส่งเสริมและสนับสนุนการท่องเที่ยว การอนุรักษ์ฟื้นฟูขนบธรรมเนียมประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่นของจังหวัดอุตรดิตถ์











(นายประสิทธิ์   ผึ้งสุข  จ.อุตรดิตถ์/มือถือ.086-1999966)