Recent News/ข่าวล่าสุด

จังหวัดลำพูนประชุมหารือ และวางแนวทางอำนวยความสะดวกและบริการประชาชน ในการเดินทางไปเข้าเฝ้าฯ กราบถวายบังคมพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปี

  วันนี้(13 พ.ย. 68) เวลา 13 นาฬิกา 30 นาที ณ ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการ POC ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดลำพูน นายปรีชา  สมชัย ปลัดจังหวัด(ปจ.)ลำพูน เป็นประธานการประชุมซักซ้อมแผนดำเนินงานอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการเดินทางไปเข้าเฝ้าฯ กราบถวายบังคมพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ที่ประชุมได้มีการหารือและวางแนวทางในการอำนวยความสะดวกและบริการ
โดยให้จังหวัดฯมอบหมายเจ้าหน้าที่ผู้ประสานงานของจังหวัดฯ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) จัดเจ้าหน้าที่ประจำรถทุกคัน พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่พยาบาล ตำรวจ และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน(อส.) อำนวยความสะดวกในระหว่างการเดินทาง โดยมีที่ทำการปกครองจังหวัดลำพูน เป็นหน่วยประสานงานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ประสานการดูแลและอำนวยความสะดวกประชาชน ตั้งแต่เริ่มต้นเดินทางออกจากจังหวัดฯ กระทั่งประชาชนกลับถึงบ้าน ตั้งแต่เรื่องความพร้อมของยานพาหนะให้เป็นไปตามกฎหมายความพร้อมของผู้ขับขี่รวมถึงด้านจัดการบริการอาหาร น้ำดื่ม ห้องสุขาประจำจุดพักระหว่างทาง และจุดพักคอยพร้อมทั้งจัดทำแผนเดินทางและประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจพื้นที่ระหว่างเส้นทางเพื่อที่จะได้ร่วมกำหนดแผนดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกของประชาชนต่อไป..
สำนักพระราชวัง ได้ประกาศให้ประชาชนได้เข้าเฝ้าฯ กราบถวายบังคมพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ภายหลังจากการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศล ครบ 15 วัน โดยกระทรวงมหาดไทยได้มอบหมายให้กรมการปกครองจัดทำแผนดำเนินงานอำนวยความสะดวกประชาชนในการเดินทางมาเข้าเฝ้าฯ กราบถวายบังคมพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ถนนมหาราช แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
โดยให้จังหวัด อำเภอ ประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) ประกาศเชิญชวน และจัดทำข้อมูลบัญชีรายชื่อประชาชนที่มีความประสงค์จะเดินทางมาเข้าเฝ้าฯ กราบถวายบังคมพระบรมศพ โดยเน้นกลุ่มเป้าหมายเป็นประชาชนทั่วไป เป็นลำดับแรก และข้าราชการ ผู้บริหาร/พนักงาน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน จังหวัดละ 3,000 คน รวมทั้งสิ้น 228,000 คน

กำหนดให้เดินทางวันละ 4 จังหวัด จังหวัดละ 750 คน/ครั้ง รวม 3,000 คน/วัน เรียงลำดับตามหมวดอักษรจังหวัด เริ่มตั้งแต่วันที่ 17 พฤศจิกายน 2568 - 1 กุมภาพันธ์ 2569 โดยมีกรมการปกครอง โดยสำนักอำนวยการกองอาสารักษาดินแดน เป็นหน่วยงานรับผิดชอบกลาง ด้านรองปลัดกระทรวงมหาดไทย ด้านบริหาร กล่าวว่า ในการประสานงานด้านบริหาร กระทรวงมหาดไทยมอบหมายให้กองกลาง สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นหน่วยงานกลางด้านการประมวลข้อมูลเกี่ยวกับงานพิธีและการรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ เพื่อเป็นหน่วยงานประสานและเป็นหน่วยปรึกษาให้กับจังหวัดทั้ง 76 จังหวัด

สำหรับประชาชนที่ประสงค์จะเข้าร่วมการเดินทาง เพื่อเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สามารถติดต่อได้ที่ ที่ว่าการอำเภอทั้ง 878 อำเภอ ที่ทำการปกครองจังหวัดทั้ง 76 จังหวัด หรือโทรศัพท์สอบถามข้อมูลทางสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567










 กรรณิการ์  วิจิตรสกลการ ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดลำพูน

สุทธิสม  น้อยหา ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดลำพูน

เทศบาลเมืองนิคมพัฒนา ลงพื้นที่ตรวจสอบโรงงาน หลังชาวบ้านร้องได้รับความเดือดร้อน

   เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 13 พ.ย. 2568 นายอาจิน อ่ำพุด นายกเทศมนตรีเมืองนิคมพัฒนา จ.ระยอง พร้อมด้วยนายสุพจน์ ภู่เปี่ยม รองนายกเทศมนตรีเมืองนิคมพัฒนา นายสัญญา โสภนา และนายจรัญ คนเฉลียว สมาชิกสภาเทศบาลเมืองนิคมพัฒนา รวมทั้งเจ้าหน้าที่กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่ตรวจสอบโรงงานผลิต ประกอบภาชนะทนแรงดัน เครื่องแลกเปลี่ยนความร้อน ซ่อมบำรุงเครื่องจักร และงานเหล็ก ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ 8 ตำบลมาบข่า อำเภอนิคมพัฒนา จังหวัดระยอง ภายหลังมีประชาชนในพื้นที่ร้องเรียนว่าได้รับความเดือดร้อนจากการประกอบกิจการของโรงงานดังกล่าว
จากการตรวจสอบเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้พูดคุยรับฟังปัญหาจากชาวบ้านในพื้นที่ พร้อมตรวจดูสภาพแวดล้อมรอบบริเวณโรงงาน เพื่อประเมินผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อชุมชน ทั้งด้านกลิ่น เสียง และมลภาวะต่าง ๆ
นายอาจิน อ่ำพุด นายกเทศมนตรีเมืองนิคมพัฒนา เปิดเผยว่า เทศบาลให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ และจะดำเนินการตามขั้นตอนอย่างรอบคอบ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ทั้งนี้ได้มอบหมายให้โรงงานดังกล่าวเร่งแก้ไขปรับปรุงกระบวนการผลิตและมาตรการควบคุมผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของชาวบ้านโดยเร็วที่สุด
ทั้งนี้ เทศบาลเมืองนิคมพัฒนายังยืนยันว่าจะติดตามผลการแก้ไขของโรงงานอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำในอนาคต.






 

ชลบุรีเร่งบอกดินปี 69เดินสำรวจออกโฉนด 795 แปลงคลี่คลายปัญหาที่ดินที่ห้องประชุมสำนักงานที่ดินจังหวัดชลบุรี อาคารอเนกประสงค์ ชั้น 3 มีการประชุมคณะกรรมการกำหนดพื้นที่ที่จะเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินจังหวัดชลบุรีปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ครั้งที่ 1/2568 ตามคำสั่งจังหวัดชลบุรี ที่ 6399/2568

  ภายหลังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยมีประกาศลงวันที่ 28 ตุลาคม 2568 กำหนดให้จังหวัดชลบุรีเป็นหนึ่งในจังหวัดที่ดำเนินการสำรวจรังวัดทำแผนที่เพื่อออกโฉนดที่ดินประจำปีงบประมาณ 2569 โดยมี นายนริศ นิรามัยวงศ์ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีเป็นประธานการประชุมพร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง

กรมที่ดินได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดิน ดำเนินโครงการ “บอกดิน – บอกดิน 2 – บอกดิน 3” เพื่อนำข้อมูลตำแหน่งที่ดินที่ประชาชนแจ้งไว้มาวางแผนเดินสำรวจออกโฉนดให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ใช้เทคโนโลยีรังวัดสมัยใหม่ครอบคลุม 69 จังหวัดทั่วประเทศ

โดยจังหวัดชลบุรีกำหนดเป้าหมายเดินสำรวจปี 2569 รวมทั้งสิ้น 795 แปลงดำเนินการตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2568 ถึงกรกฎาคม 2569

สำนักงานที่ดินจังหวัดชลบุรี ได้รายงานผลการดำเนินงานปีงบประมาณ 2568 ซึ่งจังหวัดชลบุรีได้รับเป้าหมายจากกรมที่ดิน 160 แปลง แต่สามารถดำเนินการได้จริง 181 แปลงสูงกว่าเป้าหมายที่กำหนด โดยมีผลการเดินสำรวจในพื้นที่สำนักงานที่ดินสาขาศรีราชา บางละมุง พนัสนิคม สัตหีบ บ้านบึง และสำนักงานที่ดินจังหวัดชลบุรี ครบทุกพื้นที่สำคัญ สะท้อนศักยภาพการทำงานร่วมกันของทุกหน่วยงานในจังหวัดสำหรับปีงบประมาณ 2569 คณะกรรมการฯ

ได้พิจารณากำหนดพื้นที่เป้าหมายเดินสำรวจออกโฉนดเป็นรายอำเภอและรายตำบล ครอบคลุมพื้นที่สำคัญในอำเภอพนัสนิคม บ่อทอง เกาะจันทร์ พานทอง เมืองชลบุรี บ้านบึง หนองใหญ่ ศรีราชาบางละมุง และสัตหีบ โดยอาศัยข้อมูลจากโครงการ “บอกดิน” ทั้ง 3 ระยะ รวมทั้งข้อมูลเรื่องร้องทุกข์ของประชาชนเรื่องปัญหาที่ดินในพื้นที่ต่าง ๆ

ทั้งนี้ การกำหนดพื้นที่จะทำเฉพาะที่ดินนอกเขตที่ดินของรัฐทุกประเภท ไม่รวมเขตป่าไม้ถาวร ป่าสงวนแห่งชาติ อุทยานแห่งชาติ ที่ดินสาธารณประโยชน์ และพื้นที่ต้องห้ามอื่น ๆ ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 43 พ.ศ. 2537 และเป็นไปตามมาตรา 58 และ 58 ทวิ แห่งประมวลกฎหมายที่ดินโดยมีคณะกรรมการจังหวัดช่วยกลั่นกรอง ตรวจสอบระวางแผนที่และยืนยันว่าไม่ทับซ้อนกับพื้นที่ป่าไม้หรือเขตที่ดินของรัฐ

โครงการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินปีงบประมาณ 2569 ในจังหวัดชลบุรีจึงถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการสร้างความมั่นคงด้านเอกสารสิทธิลดข้อพิพาทเรื่องแนวเขตที่ดิน แก้ปัญหาความเดือดร้อนที่สะสมมานานและช่วยให้ประชาชนมีทรัพย์สินที่ชัดเจน นำไปต่อยอดการประกอบอาชีพและการพัฒนาเศรษฐกิจของครัวเรือนและจังหวัดได้อย่างยั่งยืน








 วิศาล​ แสงเจริญ

(ปู)​ ผู้สื่อข่าวประจำชลบุรี

รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานในพิธีเปิดศูนย์ข้อมูลมรดกวัฒนธรรมบ้านถ้ำลอด เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของอำเภอปางมะผ้า และเพื่อเป็นแหล่งการศึกษาโบราณคดีที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม

วันที่ 13 พฤศจิกายน 2568 เวลา 09.30 น. ที่ ศูนย์ข้อมูลมรดกวัฒนธรรมบ้านถ้ำลอดและแหล่งโบราณคดีถ้ำผีแมนโลงลงรัก ตำบลถ้ำลอด อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน นายบุญลือ ธรรมธรานุรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานในพิธีเปิดศูนย์ข้อมูลมรดกวัฒนธรรมบ้านถ้ำลอด โดยมี ศ.ดร.รัศมี ชูทรงเดช หัวหน้าโครงการการอนุรักษ์โลงไม้โบราณที่ถ้ำผีแมนโลงลงรัก จังหวัดแม่ฮ่องสอน นายอำเภอขุนยวม หัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัด และระดับอำเภอ ประชาชนและนักท่องเที่ยวในพื้นที่ร่วมพิธีเปิดงานเพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของอำเภอปางมะผ้า และเพื่อเป็นแหล่งการศึกษาโบราณคดีที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม
ทั้งนี้ ศูนย์ข้อมูลมรดกวัฒนธรรมบ้านถ้ำลอด ตั้งอยู่ในพื้นที่ ตำบลถ้ำลอด อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นแหล่งโบราณคดีที่สำคัญ 3 แห่ง คือ เพิงผาถ้ำลอด ถ้ำผีแมนโลงลงรัก และถ้ำลอด เป็นแหล่งข้อมูลเกี่ยวกับชุมชนและแหล่งโบราณคดี ซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ และมีมรดกทางวัฒนธรรมทั้งด้านโบราณคดีและมรดกธรรมชาติอย่าง "ถ้ำน้ำลอด" ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ  ซึ่งจากหลักฐานการขุดค้นพบทั้งโครงกระดูกมนุษย์โบราณอายุราว 13,000 ปี โครงกระดูกมนุษย์ภายในโลงไม้ และโลงไม้โบราณที่สมบูรณ์ที่สุดอายุราว 2,100 ปี อีกทั้งยังเป็นแหล่งที่ตั้งของชาวไทใหญ่ในปัจจุบัน ที่มีประวัติการย้ายถิ่นฐานมาตั้งแต่ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 จึงมีมรดกทางวัฒนธรรมทั้งในอดีตและร่วมสมัยที่น่าศึกษา








 

จังหวัดแม่ฮ่องสอนจัดประชุมหารือแนวทางในการพัฒนาเส้นทางบินเชียงใหม่ - ปาย เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล และแนวทางความร่วมมือในการพัฒนาเส้นทางบิน

วันที่ 13 พ.ย. 2568 เวลา 13.30 น. ที่ ห้องประชุมธณีพหลโยธิน ชั้น 1 โรงเรียนปายวิทยาคาร อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน นายบุญลือ ธรรมธรานุรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานการประชุมหารือแนวทางความร่วมมือในการพัฒนาเส้นทางบิน เชียงใหม่ - ปาย   เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล และแนวทางความร่วมมือในการพัฒนาเส้นทางบิน โดยมีหัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัดและระดับอำเภอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม
สำหรับ บริษัท เอ็ม แลนดาร์ช จำกัด เป็นผู้ดำเนินการสายการบิน Ezy Airlines และปัจจุบันบริษัทฯ มีความประสงค์ จะขยายเส้นทางการบินเพิ่มเติม เพื่อเชื่อมต่อเมืองสำคัญในภูมิภาคภาคเหนือ โดยเฉพาะเส้นทาง เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นเส้นทางที่มีศักยภาพสูงในการส่งเสริมการท่องเที่ยวและสร้างการเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจในพื้นที่ นอกจากนี้ ยังได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของอำเภอปาย ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวและสร้างความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจในพื้นที่
 โดยในการประชุมวันนี้ ได้มีผู้แทนส่วนราชการและผู้แทนผู้ประกอบการในพื้นที่อำเภอปายเข้าร่วมหารือแนวทางการพัฒนาเส้นทางบิน ซึ่งที่ประชุมได้แลกเปลี่ยนข้อมูลสถานการณ์การท่องเที่ยวในอำเภอปาย รวมถึงโอกาสและศักยภาพของอำเภอปายในการเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติในอนาคต
อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการในพื้นที่อำเภอปายจะกำหนดจัดประชุมกลุ่มย่อย ในการจัดทำแคมเปญ/แพ็คเกจการท่องเที่ยว ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานแม่ฮ่องสอน เพื่อสนับสนุนสายการบิน Ezy airlines ต่อไป และสายการบิน ได้มีกำหนดเดินทางมาประชุมร่วมกับ ผู้ประกอบการพื้นที่อำเภอปาย ในห้วงสัปดาห์หน้าอีกด้วย