Top News/ข่าวยอดนิยม

Recent News/ข่าวล่าสุด

ป้าอายุ 69 ปี ร้องเรียน!! ขับรถพ่วงข้างเข้าซอยบ้าน หม้อแปลงระเบิดสายไฟกระเด็นมาฟาดไหล่ ได้รับบาดเจ็บ

วันที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๘ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสุภาศรี สุวรรณชม อายุ  ๖๙ ปี ขี่รถเครื่องพ่วงข้างไปตลาดขากลับกำลังจะเลี้ยงเข้าไปซอยบ้านตัวเอง ถนนสายไฟฟ้าแรงสูงบริเวณ ถนนสุวรรณศร ทางแยกเข้า บ้านหนองคลอง ตำบลวัฒนานคร อำเภอวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว ขาดลงมาฟาดไหล่เฉียดหัวนิดเดียว เนื่องจากหม้อแปลงระเบิด ทำให้ได้รับบาดเจ็บบริเวณบ่าไหล่ด้านซ้าย ต่างหูกระเด็นหลุดออกมา
เขตไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อยุทธยามา รับเรื่องร้องทุกข์ไป เมื่อวันที่ ๑๑ มิถุนายน ๒๕๖๘ จนถึงปัจจุบันยังไม่อะไรคืบหน้าจึงมาร้องขอความเป็นธรรมจาก สมาคมองค์การคุ้มครองสิทธิมนุษยชน (ภาคประชาชน) ให้ติดตามดำเนินการช่วยเหลือต่อไป.



 

เพลิงไหม้ร้านรับซื้อของเก่า อ.ปลวกแดง จ.ระยอง วอดเสียหายเพียบ คาดอากาศร้อนจัดทำเกิดประกายไฟลุกไหม้กองกระดาษ-พลาสติก เจ้าหน้าที่เร่งระงับโกลาหล

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 2 ธ.ค. 68 เจ้าหน้าที่ดับเพลิง อบต.แม่น้ำคู้ อ.ปลวกแดง จ.ระยอง ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ร้านรับซื้อของเก่าตรงข้ามวัดชากมันเทศ ซอย 4 ต.แม่น้ำคู้ หลังรับแจ้งจึงนำรถดับเพลิงพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่รุดไปตรวจสอบอย่างเร่งด่วน
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารลักษณะเปิดโล่ง หลังคายกสูง พบเพลิงกำลังลุกไหม้กองเศษกระดาษและพลาสติกจำนวนมากอยู่ด้านข้างอาคาร ก่อนลุกลามเข้าไปภายในพื้นที่เก็บเศษวัสดุเก่า กระดาษ และพลาสติก ควันสีขาวหนาทะลักปกคลุมทั่วบริเวณ แผ่ลอยขึ้นท้องฟ้ามองเห็นได้ในระยะไกล เจ้าหน้าที่ต้องเร่งฉีดน้ำสกัดเพลิงอย่างเร่งรีบ ท่ามกลางสภาพอากาศร้อนจัด ใช้เวลากว่า 30 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้สำเร็จ
จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบเศษวัสดุต่าง ๆ รวมถึงกระดาษและพลาสติกถูกไฟไหม้เสียหายเกือบทั้งหมด คาดสาเหตุเกิดจากสภาพอากาศร้อนและแห้ง ทำให้เกิดประกายไฟลุกไหม้บริเวณกองวัสดุได้ง่าย อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปลวกแดง จะเข้าตรวจสอบอย่างละเอียดเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของเพลิงไหม้ต่อไป.





 

ระทึก ลูกช้างป่าหลงฝูงถูกควายเผือกขวิดกลางทุ่งนาริมคูกั้นช้าง ก่อนวิ่งหนีไปพบแม่ช้างเจ้าหน้าที่ดันกลับเข้าป่า

วันอังคารที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2568 ผู้ใหญ่จันทร์เพ็ญ แสนภา หมู่ที่ 16 บ้านนาอีสาน พร้อมนายอุดร จันทร์ทรง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ได้ถ่ายคลิปวิดิโอขณะที่พบลูกควายหลงโขลงถูกควายเผือกขวิดกลางทุ่งนา โดยผู้ใหญ่จันเพ็ญ แสนภา เผยว่า ขณะลาดตระเวนในพื้นที่ หมู่ที่ 16 บ้านนาอิสาน ต.ท่ากระดาน อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมทีม ชรบ.หมู่บ้าน ทีมอาสาเฝ้าระวังภัยช้างป่าของ อบต.ท่ากระดาน ร่วมกับเจ้าหน้าอนุรักษ์ป่าไม้ ได้พบลูกช้างป่าตัวหนึ่งพลัดหลงจากฝูง ตกลงไปในสระน้ำขนาดเล็ก ก่อนจะลุกขึ้น แล้วหลุดวิ่งเข้าไปในทุ่งนาที่มีควายเผือก ซึ่งชาวบ้านเลี้ยงไว้ในทุ่งนา ทำให้เกิดเหตุปะทะกันอย่างกะทันหัน ควายเผือกตัวใหญ่ได้วิ่งเข้าขวิดใส่ที่ลำตัวของลูกช้างอย่างรวดเร็วจนกระเด็น ส่งผลให้ลูกช้างได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยบริเวณลำคอและก้น แต่ยังสามารถเคลื่อนไหวได้ตามปกติ
ทางผู้ใหญ่บ้าน เล่าว่า ก่อนหน้ารับแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ชุดผลักดันช้างป่ามีการเคลื่อนตัวของช้างป่าฝูงใหญ่ราว 25 ตัว เข้าสู่พื้นที่การเกษตรบริเวณหมู่ 17 บ้านโนนสมพร ตำบลพระเพลิง อำเภอเขาฉกรรจ์ จังหวัดสระแก้ว มุ่งหน้ามาทางหมู่ที่ 16 บ้านนาอิสาน ตำบลท่ากระดาน อำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา ที่เป็นเขตรอยต่อ โดยพบว่าฝูงช้างมีจำนวนมากจึงทำให้เริ่มมีการแตกฝูง ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเร่งประกาศเตือนประชาชนในพื้นที่ให้อยู่ภายในบ้านและพื้นที่ไกล้เคียงเพื่อความปลอดภัย จนกว่าจะสามารถควบคุมฝูงได้
ต่อมาหลังเกิดเหตุทางผู้ใหญ่จันทร์เพ็ญ แสนภา หมู่ที่ 16 บ้านนาอีสาน พร้อมนายอุดร จันทร์ทรง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ร่วมกับทีมเจ้าหน้าที่และชาวบ้านเข้าควบคุมสถานการณ์ จนสามารถนำลูกช้างกลับเข้ารวมกับฝูงได้สำเร็จ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายกำลังร่วมกันผลักดันฝูงช้างกลับเข้าสู่แนวป่าด้านในคูกั้นช้างฝั่งบ้านนาอีสานได้แล้ว

 …..สราวุฒิ บุญสร้าง ผู้สื่อข่าวภูมิภาคฉะเชิงเทรา 0831110106

อำนวยการของ พ.ต.ท.รังสรรค์ ทินบุตร สวญ.สภ.งอบ จ.น่าน มอบหมายให้ พ.ต.ท.เทพชัย อินดี สวป.สภ.งอบ ร้อยเวร 20 พร้อมสายตรวจรถยนต์ 201 ออกตรวจในเขตพื้นที่รับผิดชอบ หน่วยงานราชการ สถานศึกษา ตรวจตู้แดง ตรวจเยี่ยมประชาชน สแกนจุดตรวจบังคับผ่านแอพพลิเคชัน Police 4.0 ทั้งนี้ได้ออกประชาสัมพันธ์กลโมงของมิจฉาชีพ ให้ประชาชนได้รู้เท่าทัน ไม่ตกเป็นเหยื่อของแก๊งคอลเซ็นเตอร์





 

สั่งการของ พ.ต.อ.จรูญ. ถิ่นอ่วน ผกก.สภ.สบปราบ จ.ลำปาง, พ.ต.ท.ปรัชญารัตน์. จำปา รอง ผกก.ป. สภ.สบปราบ จ.ลำปาง, พ.ต.ท.ชัชพิมุข. สูตรเลข สวป.สภ.สบปราบ จ.ลำปาง สั่งการให้ ร.ต.ท.เฉลิมชัย เทพอุด รอง สว.(ป.)สภ.สบปราบฯ สายตรวจตำรวจชุมชนตำบลเเม่กัวะ ออกตรวจพื้นที่เขตรับผิดชอบ ตรวจมาถึง ปตท.วังยาว. และ ร้านสะดวกชื้อ เชเว่น ปรากฏกายอุ่นใจ ประชาชนสัญจร ช่วงฤดูหนาว




 

รองพ่อเมืองสุโขทัยพร้อมนายอำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย แถลงข่าวเชิญชวนมาเที่ยวงาน "ย้อนอดีตศรีสัชนาลัย นุ่งผ้าไทย ใส่เงิน ทอง ลายโบราณ สืบสานวัฒนธรรม อันล้ำค่า "ประจำปี พ.ศ.2568

เมื่อเวลา 08.30น.ของวันที่2ธ.ค.2568ณ.หอประชุม อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย นาย สมลักษ์ ยกน้อยวงษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย ได้มาเป็นประธานจัดการแถลงข่าวการจัดงาน "ย้อนอดีตศรีสัชนาลัย นุ่งผ้าไทย ใส่เงิน ทอง ลายโบราณ สืบสานวัฒนธรรม อันล้ำค่า"ประจำปี พ.ศ.2568 ระหว่างวันที่ 6-10 ธันวาคม2568 ณ.อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย ทั้งนี้ นาย เอกสิฏฐ์ วิไลศิลป์นายอำเภอ ศรีสัชนาลัยได้กล่าวถึงวัตถุประสงค์อดีตความเป็นมาของงานพร้อมเชิญชวนนักท่องเที่ยวทั้งในจังหวัดและต่างจังหวัดพร้อมชาวต่างชาติด้วย อนึ่งงานแถลงข่าวนี้ได้มี หัวหน้าส่วน การท่องเที่ยวจังหวัด
วัฒนธรรมจังหวัด นายกเทศมนตรี อพท.พร้อม หัวหน้าส่วนราชการ ท้องถิ่นและท้องที่ นายกเทศมนตรี กำนัน ผู้ใหญ่บ้านโดยทั้งนี้ได้มีสื่อสารมวลชนจากหลายสำนักเข้าร่วมการแถลงข่าวในครั้งนี้ด้วย. อนึ่งภายในงานนี้ทางอำเภอได้จัดกิจกรรมอย่างมากมายอาทิ.การจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชน ผลิตภัณฑ์OTOP ผ้าไทยพื้นเมือง เงิน ทองลายโบราณ ตลาดโบราณอาหารพื้นบ้าน ใครใคร่ค้า ค้า การจำลองวิถีชีวิต "หมู่บ้านวิถีไทย" การแสดงวัฒนธรรมชนเผ่าผ้าพื้นเมือง การแสดงประกอบ แสง สี เสียง(Light and Sound) เล่าเมืองศรีสัชนาลัย ณ.บริเวณวัดช้างล้อม การถวายคำอาลัยและจุดตะคัน เบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ.บริเวณวัดช้างล้อม ทั้งนี้.มีพิธีเปิดงานที่จัดอย่างอลังกาลในวันที่6ธค.2568โดยมีการจัดกิจกรรมตั้งแต่เวลา07.00น.โดยมีพิธีตักบาตรยามรุ่งอรุณณ.บริเวณบันไดทางขึ้นวัดเขาพนมเพลิงเป็นต้น.




 กิตติ พรดวงจันทร์ สุโขทัย

“ราชทัณฑ์ ร่วมประกาศเจตจำนงสุจริต ปองกันการทุจริตประพฤติมิชอบ เนื่องในสัปดาหวันตอตานคอรรัปชันสากล “International Anti-Corruption Day”

 วันที่ 2 ธันวาคม 2568 เวลา 09.00 น.  ที่ห้องสัมมนากรมราชทัณฑ์ชั้น 3 อาคารกรมราชทัณฑ์ อ.เมือง จ.นนทบุรี

พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล อธิบดี  

กรมราชทัณฑ์เป็นประธานในพิธีเปดโครงการสงเสริมประชาสัมพันธการปองกันการทุจริตประพฤติมิชอบ เนื่องใน 

สัปดาห์วันต่อต้าน คอรรัปชันสากล “International Anti-Corruption Day” และมอบนโยบายการป้องกันการ 

ทุจริต ประพฤติมิชอบและส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และได้รับเกียรติจากพล.ท.บุญสิน พาดกลาง ที่ปรึกษา 

ผู้บัญชาการทหารบก อดีตแม่ทัพภาคที่ ๒ ร่วมบรรยายพิเศษ ในหัวข้อ “ราชทัณฑ์ร่วมใจรักชาติรักแผ่นดิน ปลูกจิตสำนึกด้านคุณธรรม จริยธรรม ความโปร่งใส เพื่อความมั่นคงของชาติ” โดยมี คณะผู้บริหารกรมราชทัณฑ์ ข้าราชการและเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ให้การต้อนรับ

 การจัดโครงการสงเสริมประชาสัมพันธ์การป้องกันการทุจริตประพฤติมิชอบ เนื่องในสัปดาหวันต่อต้าน 

คอรรัปชันสากล “International Anti-Corruption Day” พร้อมการบรรยายพิเศษในหัวข้อ “ราชทัณฑ์ รวมใจรักชาติ 

รักแผ่นดิน ปลูกจิตสํานึกด้านคุณธรรม จริยธรรม ความโปรงใส เพื่อความมั่นคงของชาติ” ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ 

เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์สร้างค่านิยมต่อต้านการทุจริตและปลุกจิตสำนึก ให้ข้าราชการกรมราชทัณฑ์ทุกคน ให้ประพฤติปฏิบัติตนตามมาตรฐานทางจริยธรรม รวมทั้งการเสริมสร้างวินัย คำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมในการทำหน้าที่เพื่อชาติและประชาชน ยึดมั่นในคุณธรรมจริยธรรมและหลักธรรมาภิบาล มีค่านิยมที่ถูกต้อง ประพฤติตนตามจรรยาบรรณข้าราชการราชทัณฑ์โดยกรมราชทัณฑ์ได้ร่วมประกาศเจตจำนงสุจริตของผู้บริหารกรมราชทัณฑ์ เพื่อเป็นมาตรฐาน และแนวทางในการบริหารและปฏิบัติงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต มีคุณธรรม สร้างความโปร่งใส มุ่งมั่น บริหารงานให้เกิดผลสัมฤทธิ์และมีประสิทธิภาพสูงสุด ตามพันธกิจของกรมราชทัณฑ์อย่างมีธรรมาภิบาล ดังนี้

1. ยึดมั่นในสถาบันชาติศาสนา พระมหากษัตริย์และการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์  

ทรงเป็นประมุข 2. ปฏิบัติหน้าที่และใช้อำนาจภายใต้กฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ หลักสิทธิมนุษยชน และความเสมอภาค 

อย่างเคร่งครัด โดยมุ่งมั่นคืนคนดีสู่สังคม 3. ปฏิบัติตนตามมาตรฐานทางจริยธรรม ยึดถือความถูกต้องเป็นธรรม 

ซื่อสัตย์สุจริต ไม่กระทำการใดอันเป็นการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลและประโยชน์ส่วนรวม 4. กำหนด 

มาตรฐานการปฏิบัติงานที่ชัดเจน โปร่งใส เปิดเผยข้อมูลข่าวสารอย่างตรงไปตรงมา พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้หน่วยงาน 

บุคคลภายนอก เข้ามามีส่วนร่วมและตรวจสอบได้5. ดำรงตนเป็นแบบอย่างที่ดีมีจิตสาธารณะ รับผิดชอบต่อหน้าที่และการ

กระทำของตนเอง พร้อมจะปรับปรุงแก้ไขให้ทันท่วงที 6. บริหารทรัพยากรของทางราชการโดยยึดหลักความประหยัด 

คุ้มค่า เป็นไปเพื่อประโยชน์สูงสุดต่อภารกิจงานราชทัณฑ์และประชาชน 7. สร้างวัฒนธรรมและค่านิยมในองค์กร 

JUSTICE สุจริต จิตบริการ ยึดมั่นความยุติธรรม 8. ร่วมกันต่อต้านการทุจริตในทุกรูปแบบ ไม่ทน ไม่นิ่งเฉย เมื่อพบ 

เห็นผู้กระทำการทุจริต และยกย่องส่งเสริมสนับสนุนผู้ที่ประพฤติปฏิบัติตนด้วยความซื่อสัตย์สุจริต


 โดยคณะผู้บริหารและข้าราชการในสังกัดกรมราชทัณฑ์ร่วมแสดงสัญลักษณ์“ไขว้มือ” ประกาศ 

เจตจำนงสุจริต ในการบริหารงานของกรมราชทัณฑ์ ประกาศเจตนารมณ์ในการต่อต้านการทุจริต ประกาศเจตนารมณ์กรมราชทัณฑ์ เรื่อง นโยบายไม่รับของขวัญและของกำนัลทุกชนิดจากการปฏิบัติหน้าที่ No Gift Policy ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 และร่วมต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันทุกรูปแบบ ภายใต้แนวคิด“ราชทัณฑ์ไทย ทำความดีเพื่อชาติศาสน์กษัตริย์”

ปธ.ศาลฎีกา เปิดโครงการ"ศาลยุติธรรมเพื่อประชาชน" จัดศาลเคลื่อนที่ทำกิจกรรมสาธารณะเพื่อเด็ก-สังคม

  วันที่1 ธ.ค.68 เวลา 14.30 น. ที่ห้องประชุมใหญ่ ชั้น 6 สำนักงานศาลยุติธรรม ถ.รัชดาภิเษก กทม.นายอดิศักดิ์ ตันติวงศ์ ประธานศาลฎีกา เป็นประธานพิธีเปิดโครงการศาลยุติธรรมเพื่อประชาชน โดยมี นายธีรทัย เจริญวงศ์ เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม พร้อมด้วยคณะผู้บริหารสำนักงานศาลยุติธรรม ข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม ข้าราชการศาลยุติธรรม และ สำนักงานศาลยุติธรรม 150 คน ร่วมพิธี
  โดย นายอดิศักดิ์ ตันติวงศ์ ประธานศาลฎีกา กล่าวว่า"บทบาทของศาลยุติธรรม นอกจากการทำคุณประโยชน์ในด้านการพิจารณาพิพากษาอรรถคดีแล้ว ศาลยุติธรรมยังให้ความสำคัญต่อกระบวนการส่งเสริมและพัฒนาองค์ความรู้ให้แก่ประชาชน ด้วยการเผยแพร่ความรู้ทางกฎหมาย ตลอดจนความเข้าใจในบทบาทหน้าที่และกระบวนการทางการศาล ผ่านรูปแบบการสื่อสารประชาสัมพันธ์เชิงรุกมาโดยตลอดด้วย อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดของประชาชนในการรับรู้และเข้าถึงข้อมูลข่าวสารข้างต้นยังคงเป็นปัญหาที่พบเจอในทางปฏิบัติอยู่เรื่อยมาส่งผลให้เกิดระยะห่างระหว่างศาลกับประชาชน การส่งเสริมให้มีการประชาสัมพันธ์บทบาทของศาลยุติธรรมที่มีต่อประชาชนจะช่วยลดทอนช่องว่างดังกล่าว ดังนั้น ศาลยุติธรรม จึงได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการเผยแพร่องค์ความรู้ในมิติที่หลากหลาย ผ่านรูปแบบกิจกรรมที่เหมาะสมสอดคล้องตามบริบทของยุคสมัย โดยเฉพาะกิจกรรมศาลเคลื่อนที่ในรูปแบบที่สร้างสรรค์ เพื่อให้ศาลยุติธรรมเป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้ที่ประชาชนเข้าถึงได้ง่าย เสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางกฎหมายที่ทรงคุณค่า ขจัดปัญหาความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม และประการสำคัญให้ศาลยุติธรรมได้สร้างความใกล้ชิดและเป็นมิตรต่อประชาชน ศาลยุติธรรม จึงจัดโครงการ “ศาลยุติธรรมเพื่อประชาชน” เพื่อส่งเสริมให้การเผยแพร่องค์ความรู้มีความมั่นคงและยั่งยืนเป็นรูปธรรม สนับสนุนแนวคิดในการอุทิศให้สังคม อันถือเป็นการสร้างนวัตกรรมแห่งความยุติธรรม ที่เน้นประชาชนเป็นศูนย์กลางอย่างแท้จริง"
  ทั้งนี้ โครงการศาลยุติธรรมเพื่อประชาชน เป็นเครื่องมือสำคัญหนึ่งที่จะร่วมขับเคลื่อนนโยบายประธานศาลฎีกาด้านคุณธรรมนำทางและสร้างศรัทธา โดยมีแนวทางหลักผลักดันศาลชั้นต้นทั่วประเทศสร้างการรับรู้และเสริมสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้แก่เด็ก เยาวชน และทุกภาคส่วนของสังคม ในเรื่องกฎหมาย กระบวนการทางศาล ความยุติธรรมตามหลักนิติธรรม ผ่านรูปแบบการดำเนินกิจกรรมสาธารณะ พร้อมปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมเพื่อลดข้อพิพาทในสังคม ทั้งยังมุ่งการสร้างสรรค์และพัฒนาระบบหรือวิธีการในกระบวนการยุติธรรมให้มีความเข้มแข็ง คล่องตัว และทันต่อสถานการณ์ อันจะนำมาสู่การส่งเสริมภาพลักษณ์ในภารกิจของศาลยุติธรรมด้านการดำเนินคดี การใช้สิทธิตามกฎหมาย การคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพผู้เสียหาย คู่ความ และ จำเลย
  โดยกิจกรรมสาธารณะที่ศาลชั้นต้นดำเนินการ มีหลากหลายรูปแบบ อาทิ การเดินรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว โครงการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชนที่บริการแนะนำและให้คำปรึกษากฎหมาย เผยแพร่ความรู้การขอปล่อยชั่วคราวในศาล โครงการคลินิกให้คำปรึกษาด้านจิตสังคมสัญจรเพื่อประชาชน มีการลงพื้นที่ให้คำปรึกษาแก่ผู้รับคำปรึกษากรณีหลังคำพิพากษาและติดตามประเมินผลภายหลังเข้ารับบริการคลินกจิตสังคม การบรรยายให้ความรู้สร้างการมีส่วนร่วมกับเครือข่ายในการป้องกันปัญหาพฤติกรรมการกระทำความผิดของเด็กและเยาวชน โครงการเรียนรู้งานคดีที่ศาลเยาวชนฯ หรือศาลชั้นต้นต่าง ๆ การจัดกิจกรรมครอบครัวสัมพันธ์ให้เด็กและเยาวชน ผู้ปกครองทำกิจกรรมร่วมกันเพื่อการเรียนรู้พฤติกรรม ทัศนะคติของกันและกันเพื่ออยู่ร่วมกันด้วยความรักความเข้าใจ การพัฒนางานด้านการบริการประชาชนและการประชาสัมพันธ์ เป็นต้น


 

วัดละโอกเชิญชวนพุทธศาสนิกชนร่วมทำบุญทอดผ้าป่า–ตักบาตร เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ รัชกาลที่ 9 วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ

วันที่ 2 ธ.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดเนินสุข (วัดละโอก) ม.9 ถ.เขาชะเมา–เขาดิน ต.ทุ่งควายกิน อ.แกลง จ.ระยอง พระมหาจักรกฤษ ธมฺมภทฺโท เจ้าอาวาสวัดเนินสุข ได้ประชุมร่วมกับไวยาวัจกรและชาวบ้าน เพื่อเตรียมจัดกิจกรรมทำบุญประจำปี เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนากาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ซึ่งตรงกับวันที่ 5 ธันวาคม อันเป็นวันชาติและวันพ่อแห่งชาติ โดยปีนี้ชาวบ้านและผู้ศรัทธาต่างเตรียมงานกันอย่างคึกคัก
สำหรับกิจกรรมสำคัญ ทางวัดได้กำหนดจัดพิธีทอดผ้าป่า “หิน–ทราย” ในวันที่ 4 ธ.ค. 68 เวลา 10.30 น. เพื่อสมทบในการปรับภูมิทัศน์โดยรอบ เตรียมความพร้อมสำหรับงานปิดทองลูกนิมิตในปี 2569 โดยมีชาวบ้าน สายบุญ และนักท่องเที่ยวร่วมแสดงความศรัทธาไม่ขาดสาย วัดละโอกซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่สูง ยังเป็นจุดชมวิวและแลนด์มาร์กสำคัญ ทำให้ในช่วงเช้ามักมีนักท่องเที่ยวขึ้นมาบันทึกภาพบรรยากาศพระภิกษุสงฆ์เดินบิณฑบาตลงจากยอดเขาตามขั้นบันได 147 ขั้นอันโดดเด่น
นายตี๋ วานิผล ไวยาวัจกรวัดเนินสุข เปิดเผยว่า หลังการประชุม ทางวัดได้สรุปกำหนดการทอดผ้าป่าอย่างเป็นทางการในวันที่ 4 ธ.ค. เวลา 10.30 น. โดยผู้มีจิตศรัทธาสามารถร่วมทำบุญได้ทั้งในงาน หรือร่วมสมทบทุนผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย ชื่อบัญชี “วัดเนินสุข” หมายเลข 224-080-1565 หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ พระมหาจักรกฤษ ธมฺมภทฺโท โทร. 064-775-6092ส่วนในวันที่ 5 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันสำคัญของชาติ ทางวัดจะจัดพิธีตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง โดยปีนี้มีความพิเศษ คือ จะมี คณะนางรำในชุดไทยรำถวายเป็นพุทธบูชา นำหน้าขบวนพระสงฆ์ที่เดินลงมาตามขั้นบันไดจากยอดเขาละโอก สร้างบรรยากาศอันงดงามและศักดิ์สิทธิ์ พร้อมเสียงดนตรีบรรเลงแบบไทยประยุกต์ ทำให้ขบวนตักบาตรมีความยิ่งใหญ่และเป็นที่ตื่นตาตื่นใจของผู้ที่มาร่วมงานและนักท่องเที่ยวที่ตั้งใจมาบันทึกภาพความประทับใจ

 บรรยากาศการทำบุญที่วัดละโอกในช่วงวันสำคัญนี้ มักอบอวลด้วยความศรัทธาของชาวบ้านในพื้นที่ รวมถึงสายบุญจากต่างอำเภอและนักท่องเที่ยว ที่หลั่งไหลมาร่วมทำบุญและชมความงดงามของขบวนบิณฑบาตบนยอดเขา ข้าวสารและอาหารแห้งที่ได้รับทั้งหมด ทางวัดจะนำแบ่งเป็นสองส่วน คือ เก็บไว้ใช้ภายในวัด และจัดสรรอีกส่วนมอบให้ผู้ยากไร้ ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาสในพื้นที่ โดยมีผู้นำท้องถิ่นและอสม.ร่วมลงพื้นที่แจกจ่าย

วัดเนินสุขขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนร่วมเป็นส่วนหนึ่งของบุญใหญ่ทั้งสองกิจกรรม เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว พร้อมร่วมสืบสานประเพณีท้องถิ่นให้คงอยู่ต่อไป.

วัดละโอกเชิญชวนพุทธศาสนิกชนร่วมทำบุญทอดผ้าป่า–ตักบาตร เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ รัชกาลที่ 9 วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ

วันที่ 2 ธ.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดเนินสุข (วัดละโอก) ม.9 ถ.เขาชะเมา–เขาดิน ต.ทุ่งควายกิน อ.แกลง จ.ระยอง พระมหาจักรกฤษ ธมฺมภทฺโท เจ้าอาวาสวัดเนินสุข ได้ประชุมร่วมกับไวยาวัจกรและชาวบ้าน เพื่อเตรียมจัดกิจกรรมทำบุญประจำปี เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนากาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ซึ่งตรงกับวันที่ 5 ธันวาคม อันเป็นวันชาติและวันพ่อแห่งชาติ โดยปีนี้ชาวบ้านและผู้ศรัทธาต่างเตรียมงานกันอย่างคึกคัก
สำหรับกิจกรรมสำคัญ ทางวัดได้กำหนดจัดพิธีทอดผ้าป่า “หิน–ทราย” ในวันที่ 4 ธ.ค. 68 เวลา 10.30 น. เพื่อสมทบในการปรับภูมิทัศน์โดยรอบ เตรียมความพร้อมสำหรับงานปิดทองลูกนิมิตในปี 2569 โดยมีชาวบ้าน สายบุญ และนักท่องเที่ยวร่วมแสดงความศรัทธาไม่ขาดสาย วัดละโอกซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่สูง ยังเป็นจุดชมวิวและแลนด์มาร์กสำคัญ ทำให้ในช่วงเช้ามักมีนักท่องเที่ยวขึ้นมาบันทึกภาพบรรยากาศพระภิกษุสงฆ์เดินบิณฑบาตลงจากยอดเขาตามขั้นบันได 147 ขั้นอันโดดเด่น
นายตี๋ วานิผล ไวยาวัจกรวัดเนินสุข เปิดเผยว่า หลังการประชุม ทางวัดได้สรุปกำหนดการทอดผ้าป่าอย่างเป็นทางการในวันที่ 4 ธ.ค. เวลา 10.30 น. โดยผู้มีจิตศรัทธาสามารถร่วมทำบุญได้ทั้งในงาน หรือร่วมสมทบทุนผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย ชื่อบัญชี “วัดเนินสุข” หมายเลข 224-080-1565 หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ พระมหาจักรกฤษ ธมฺมภทฺโท โทร. 064-775-6092
ส่วนในวันที่ 5 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันสำคัญของชาติ ทางวัดจะจัดพิธีตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง โดยปีนี้มีความพิเศษ คือ จะมี คณะนางรำในชุดไทยรำถวายเป็นพุทธบูชา นำหน้าขบวนพระสงฆ์ที่เดินลงมาตามขั้นบันไดจากยอดเขาละโอก สร้างบรรยากาศอันงดงามและศักดิ์สิทธิ์ พร้อมเสียงดนตรีบรรเลงแบบไทยประยุกต์ ทำให้ขบวนตักบาตรมีความยิ่งใหญ่และเป็นที่ตื่นตาตื่นใจของผู้ที่มาร่วมงานและนักท่องเที่ยวที่ตั้งใจมาบันทึกภาพความประทับใจ
บรรยากาศการทำบุญที่วัดละโอกในช่วงวันสำคัญนี้ มักอบอวลด้วยความศรัทธาของชาวบ้านในพื้นที่ รวมถึงสายบุญจากต่างอำเภอและนักท่องเที่ยว ที่หลั่งไหลมาร่วมทำบุญและชมความงดงามของขบวนบิณฑบาตบนยอดเขา ข้าวสารและอาหารแห้งที่ได้รับทั้งหมด ทางวัดจะนำแบ่งเป็นสองส่วน คือ เก็บไว้ใช้ภายในวัด และจัดสรรอีกส่วนมอบให้ผู้ยากไร้ ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาสในพื้นที่ โดยมีผู้นำท้องถิ่นและอสม.ร่วมลงพื้นที่แจกจ่าย
วัดเนินสุขขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนร่วมเป็นส่วนหนึ่งของบุญใหญ่ทั้งสองกิจกรรม เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว พร้อมร่วมสืบสานประเพณีท้องถิ่นให้คงอยู่ต่อไป.