Recent News/ข่าวล่าสุด

วุฒิสภาบุกซาฟารีเวิลด์! เร่งแผนรับมือสัตว์ดุร้าย ยกระดับความปลอดภัยสู่มาตรฐานโลก คืนความมั่นใจนักท่องเที่ยว

วันที่ 17 กันยายน 2568 พล.ต.ต.อังกูร คล้ายคลึง ประธานคณะอนุกรรมาธิการความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยวและการกีฬา วุฒิสภา นำคณะอนุกรรมาธิการฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบและประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อรับฟังบรรยายสรุปและกำหนดมาตรการป้องกัน-ลดความเสี่ยงอันตรายจากสัตว์ที่อาจกระทบความปลอดภัยนักท่องเที่ยว โดยมีผู้แทนจากกรมการท่องเที่ยว กรมอุทยานแห่งชาติฯ ตำรวจนครบาลคันนายาว สมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทย และผู้บริหารซาฟารีเวิลด์ เข้าร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ประชุมมีมติหลักให้จัดทำแผนเผชิญเหตุร่วมระหว่างทุกหน่วยงานภายในสัปดาห์หน้า พร้อมกำหนดบทบาท หน้าที่ และช่องทางสื่อสารฉุกเฉินที่ชัดเจน ขณะเดียวกันให้สวนสัตว์และสถานประกอบการทบทวน SOP ความปลอดภัย เช่น เพิ่มเจ้าหน้าที่ประจำรถตรวจการณ์อย่างน้อย 2 คนต่อคัน จัดเตรียมอุปกรณ์ควบคุมสัตว์ ชุดแพทย์ฉุกเฉิน และวางแผนส่งผู้บาดเจ็บเข้าสู่การรักษาพยาบาลอย่างรวดเร็วกรมอุทยานฯ จะต้องรายงานผลดำเนินการ
ก่อนพิจารณาเปิดโซนสัตว์ดุร้ายอีกครั้ง พร้อมเร่งสื่อสารข้อมูลจริงต่อประชาชนและนักท่องเที่ยวเพื่อสร้างความมั่นใจช่วงบ่ายคณะอนุกรรมาธิการฯ ประชุมต่อที่รัฐสภากว่า 3 ชั่วโมง เพื่อสรุปข้อเท็จจริงและแนวทางแก้ไข หลังเกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ พล.ต.ต.อังกูรเผยว่า เป้าหมายคือยกระดับมาตรการความปลอดภัยแหล่งท่องเที่ยวเกี่ยวกับสัตว์ทั่วประเทศให้ได้มาตรฐานสากล พร้อมวิเคราะห์จุดแข็ง-จุดอ่อนของกฎหมายเพื่อสร้าง “โมเดลสวนสัตว์ปลอดภัย”พล.ต.ต.อังกูรย้ำว่า “กฎระเบียบมีอยู่แล้ว สิ่งสำคัญคือการปฏิบัติให้เคร่งครัด” พร้อมระบุว่าการนำสิงโตเข้ามาเลี้ยงต้องได้รับอนุญาต ฝังไมโครชิป และตรวจสอบติดตามเป็นระยะ ด้านกรมอุทยานฯ ยืนยันว่าการเลี้ยงสิงโตโดยบุคคลทั่วไปอยู่ภายใต้กฎระเบียบเข้มงวด และเตรียมรวบรวมฐานข้อมูลสิงโตทั่วประเทศภายในสัปดาห์หน้า หากพบครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดประธานคณะอนุกรรมาธิการฯ ทิ้งท้ายว่า คณะฯ ให้ความสำคัญต่อความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยวทุกมิติ ทั้งทางเรือ ทางอากาศ และล่าสุดกรณีสวนสัตว์ ซึ่งต้องเร่งแก้ไขเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว โดยวันที่ 25 กันยายนนี้จะนำคณะลงพื้นที่ซาฟารีเวิลด์อีกครั้งเพื่อติดตามความคืบหน้า


ตลาดเกษตรกรสงขลายังคงคึกคัก ประชาชนที่รักสุขภาพ แห่มาซื้อพืชผัก ผลไม้ ปลอดสารพิษ ที่เกษตรกรตัวจริงเก็บจากสวนสดๆนำมาวางขาย เนื่องจากมีมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ Gap หรือ organic ที่สร้างความมั่นใจในความปลอดภัยให้กับประชาชน

 

ตลาดเกษตรกรจังหวัดสงขลา เปิดตลาดในวันอังคาร และวันศุกร์ มีเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดสงขลาหลายอำเภอเดินทางนำสินค้าเกษตร พืชผลทางการเกษตร ที่ปลูกในสวนของตนเอง นำมาวางจำหน่ายในบูธต่างๆ ที่ทางสำนักงานเกษตรจังหวัดสงขลาจัดวางไว้ให้ มีทั้งพืชผัก ผลไม้ ปลอดสารพิษ ที่เก็บสดๆ เมื่อช่วงเย็นและค่ำเมื่อวานนี้ นำมาวางขายที่ตลาดเกษตรกรสงขลา ในเช้าวันนี้ โดยมีประชาชนชาวสงขลาที่รักสุขภาพ แห่มาซื้อพืชผัก ผลไม้ปลอดสารพิษกันอย่างคึกคัก รวมทั้งเจ้าของร้านอาหาร พ่อค้า แม่ค้า ก็มาหาซื้อพืชผักผลไม้ของเกษตรกร ที่นำมาจากสวนเช่นเดียวกัน เนื่องจากมีความเชื่อถือในด้านความสะอาด และปลอดภัยจากสารพิษ ให้กับลูกค้ามาเป็นเวลานานหลายปี ตั้งแต่ตลาดเกษตรกรสงขลาเริ่มเปิดดยลูกค้าที่มาซื้อ นอกจากจะได้รับพืชผักสดๆจากสวนแล้ว ในส่วนของราคา ก็มีราคาที่ถูกกว่าในท้องตลาดทั่วไป เนื่องจากเกษตรกรนำผลผลิตมาขายถึงมือผู้บริโภคโดยตรงไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง จึงทำให้ราคาผลผลิตที่นำมาขาย ราคาถูกถูกกว่าราคาท้องตลาดทั่วไปตลาดเกษตรกรจังหวัดสงขลา สำนักงานเกษตรจังหวัดสงขลา จะสนับสนุน เกษตรกรผู้ผลิตสินค้าเกษตรปลอดภัย สดใหม่ ใส่ใจผู้บริโภค ภายใต้สโลแกน เกษตรกรจริงๆ ทุกสิ่งปลอดภัยตลาดเกษตรกรจังหวัดสงขลาได้ดำเนินการเปิดเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2557 ที่มาของตลาดเกษตรกรเกิดจากกระทรวง
เกษตรและสหกรณ์มีนโยบายให้มีตลาดเกษตรสหกรณ์ทุกจังหวัด เพื่อให้เป็นสถานที่ให้เกษตรกรมาเจอกับผู้บริโภคโดยตรง โดยไม่ผ่าน พ่อค้าคนกลาง ส่วนเกษตรกรที่จะนำผลผลิตมาขายในตลาดได้นั้น จะต้องเป็นเกษตรกรที่ปลูกพืชผลผลิตด้วยตนเอง และนำมาขายด้วยตนเอง แล้วจะต้องมีมาตรฐานในส่วนของพืชผักและผลไม้นั้นจะต้องเป็นมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ GAP หรือออแกร์นิค ในส่วนของประเภทอาหารแปรรูปจะต้องผ่านมาตรฐาน อย. ฮาลาลในส่วนของไข่ไก่ต้องจดทะเบียนกับกรมปศุสัตว์และการดำเนินงานของตลาดเกษตรกรจังหวัดสงขลาจะอยู่ภายใต้สโลแกน เกษตรกรจริงๆทุกสิ่งปลอดภัยตลาดเกษตรกรจังหวัดสงขลา “เกษตรกรจริงๆ ทุกสิ่งปลอดภัย” เปิดจำหน่ายทุกวันอังคารและวันศุกร์เวลา 06.30 น.ถึง 11.00 น. ณ บริเวณด้านข้างสำนักงานเกษตรจังหวัดสงขลา เขตเทศบาลนครสงขลาจะเห็นได้ว่าในช่วงวันอังคารและวันศุกร์ ลูกค้าส่วนใหญ่จะแห่กันมาซื้อผลผลิตทางการเกษตรที่ตลาดเกษตรกรจังหวัดสงขลาแห่งนี้ กันอย่างคึกคัก เนื่องจากมีความมั่นใจสินค้าของเกษตรกรที่นำมาขายเป็นสินค้าที่ปลอดสารพิษและได้มีการรับรองคุณภาพ จากทางสำนักงานเกษตรจังหวัดสงขลาทุกร้านมั่นใจในความปลอดภัยไม่มีสารเคมีเจือปน//////นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ ผู้สื่อข่าวนิวส์24สถานีประชาชนประจำจังหวัดสงขลา

ร้อยเอ็ด-จัดสัมมนาวิชาการพัฒนาระบบสุขภาพปฐมภูมิ มุ่งยกระดับคุณภาพบริการ รพ.สต.

วันที่ 16 กันยายน 2568 เวลา 09.00 น. จังหวัดร้อยเอ็ด จัดการสัมมนาทางวิชาการ “การพัฒนาระบบสุขภาพปฐมภูมิเพื่อยกระดับคุณภาพงานบริการสุขภาพเชิงรุก ด้วยกระบวนทัศน์ รพ.สต.ติดดิน” ประจำปี 2568 ณ โรงแรมเพชรรัชต์การ์เด้น อำเภอเมืองร้อยเอ็ด โดยมีนายเศกสิทธิ์ ไวนิยมพงศ์ นายก อบจ.ร้อยเอ็ด เป็นประธานเปิดการสัมมนา และ นายคุณาวุฒิ ไชยคำภา ปลัด อบจ.ร้อยเอ็ด เป็นผู้กล่าวรายงาน พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร รองนายก อบจ. หัวหน้าส่วนราชการ และเครือข่ายด้านสุขภาพเข้าร่วมอย่างคับคั่งการสัมมนาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้แก่บุคลากรสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) รวมทั้งเพื่อถอดบทเรียนความสำเร็จด้านนวัตกรรมสุขภาพชุมชน แลกเปลี่ยนเรียนรู้ผลงานวิชาการ และสร้างกำลังใจแก่บุคลากรสาธารณสุขและภาคีเครือข่ายงานนี้มีผู้เข้าร่วมกว่า 500 คน จากหลายหน่วยงานทั้งในและนอกจังหวัด อาทิ องค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด โรงพยาบาลร้อยเอ็ด มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย รวมถึงเครือข่ายหมออนามัยและสมาคมวิชาการด้านสุขภาพ./
////คมกฤช พวงศรีเคน ข่าว/ภาพ ผู้สื่อข่าวนิวส์24 สถานีประชาชนประจำจังหวัดร้อยเอ็ด










ร้อยเอ็ด – ขับเคลื่อนโครงการปักหมุดพื้นที่เสี่ยงต่อการทุจริต ครอบคลุม 20 อำเภอ


วันที่ 16 กันยายน 2568 เวลา 09.00 น. ณ โรงแรมเพชรรัชต์การ์เด้น อำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ดนายกุล ภาคเดียว ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานเปิดโครงการ ปักหมุดพื้นที่เสี่ยงต่อการทุจริต กิจกรรมการประชุมเชิงปฏิบัติการปักหมุดแผนที่พื้นที่เสี่ยงต่อการทุจริต (ครั้งที่ 2) ประจำปีงบประมาณ 2568การจัดงานครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมประกอบด้วย พันตำรวจเอก วัชรินทร์ ชาวงศกร โค้ช STRONG, นายสมเกียรติ รัตนเมธาธร โค้ช STRONG อดีตกรรมการ ป.ป.ช. ประจำจังหวัดร้อยเอ็ด และอดีตปลัดจังหวัดร้อยเอ็ด, ดร.อิศเรศ จิณฤทธิ์ เลขานุการโค้ช STRONG, นายจักรพรรณ ชินสมบัติ ประธานกรรมการชมรม STRONG, นายอนันต์ เจริญแก่นทราย ที่ปรึกษาชมรม STRONG อดีตประธานกรรมการชมรม รวมถึงภาคีเครือข่ายการป้องกันและปราบปรามการทุจริตนายเศก บูรณวรศิลป์ เจ้าพนักงานป้องกันการทุจริตชำนาญการ กล่าวว่ากิจกรรมนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อปลูกฝังจิตสำนึกให้ประชาชนในพื้นที่เป็นเครือข่ายตรวจสอบและแจ้งเบาะแสการทุจริต พร้อมส่งต่อข้อมูลให้สำนักงาน ป.ป.ช. และชมรม STRONG-จิตพอเพียงต้านทุจริต จังหวัดร้อยเอ็ด ทำให้เกิดความร่วมมือ
ระหว่างภาคประชาชนและหน่วยงานรัฐโครงการนี้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริต โดยเน้นการเฝ้าระวังและแจ้งเบาะแสการกระทำผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่ที่มีความเสี่ยง ผ่านกระบวนการตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อนำไปสู่การดำเนินคดีอย่างโปร่งใส
นายกุล ภาคเดียว กล่าวว่า “การทุจริตถือเป็นมหันตภัยร้ายที่บ่อนทำลายสังคม ไม่ว่าจะด้านเศรษฐกิจ การเมือง การศึกษา สาธารณสุข สิ่งแวดล้อม หรือความมั่นคงของชาติ หากปล่อยปละละเลย สังคมจะได้รับผลกระทบอย่างใหญ่หลวง ดังนั้นการร่วมมือของทุกภาคส่วนจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง”กิจกรรมในวันนี้ครอบคลุม 20 อำเภอของจังหวัดร้อยเอ็ด ได้แก่ เมืองร้อยเอ็ด, เชียงขวัญ, โพธิ์ชัย, หนองพอก, เมยวดี, ไพนทอง, ศรีสมเด็จ, ธวัชบุรี, จังหาร, ทุ่งเขาหลวง, อาจสามารถ, พนมไพร, สุวรรณภูมิ, หนองอีโพนทราย, เกษตรวิสัย, ปทุมรัตน์, จตุรพักตรพิมาน, โพธิ์ชัย, และเสลภูมิกิจกรรมปักหมุดพื้นที่เสี่ยงฯ เป็นการสร้าง เครือข่ายภาคประชาชนที่เข้มแข็ง พร้อมเป็นกลไกสำคัญในการป้องกันการทุจริต และสร้างสังคมโปร่งใสในจังหวัดร้อยเอ็ด///คมกฤช พวงศรีเคน ข่าว/ภาพ ผู้สื่อข่าวนิวส์24สถานีประชาชนประจำจังหวัดร้อยเอ็ด

ุวุฒิสภาลงพื้นที่สระแก้ว มอบข้าวสาร–รับฟังปัญหาชายแดนบ้านหนองจาน

คณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา ลงพื้นที่จังหวัดสระแก้ว มอบสิ่งของบรรเทาทุกข์แก่ประชาชนและกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ชายแดนไทย–กัมพูชา พร้อมรับฟังข้อร้องเรียนและยืนยันการเร่งขับเคลื่อนประเด็นสำคัญเพื่อหาทางออกตามอำนาจหน้าที่นายกิติศักดิ์ หมื่นศรี  รองประธานคณะอนุกรรมาธิการ คนที่หนึ่ง คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา พร้อมด้วยกรรมการ ลงพื้นที่จังหวัดสระแก้ว ตามโครงการ สมาชิกวุฒิสภาพบประชาชน กลุ่มภาคตะวันออก โดยมีนายเชาวเนตร ยิ้มประเสริฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว  ให้การต้อนรับ ณ ศาลาประชาคมบ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว โอกาสนี้ได้มอบข้าวสารให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งทางคณะวุฒิสภามีความห่วงใยในชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนและทหารที่ปฏิบัติหน้าที่แนวชายแดน จึงได้จัดตั้งกองทุนสนับสนุนเพื่อเยียวยาความเสียหายให้กับผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้ร่วมกันบริจาคเงิน เพื่อนำมาจัดหาสิ่งของจำเป็นและนำมามอบให้กับทุกคนในวันนี้ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจของผู้คนตามแนวชายแดนจากนั้นเดินทางต่อไปที่ หน้าด่านกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 126 ต.บ้านหนองจาน ตำบลโนนหมากมุ่น อำเภอโคกสูง จ.สระแก้ว เยี่ยมเยียน พูดคุย และมอบของใช้จำเป็น เพื่อเป็นกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด.ที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดน ก่อนที่จะได้ร่วมพูดคุยกับประชาชนโดยมีประชาชนชนในพื้นที่บ้านหนองจารยื่นหนังสือเรื่องร้องเรียนต่อวุฒิสภาในครั้งนี้ด้วย  ทั้งเรื่องคัดค้านการเปิดด่าน เรื่องยกเลิก MOU43 และปัญหาที่ดินทำกินของคนพื้นที่ชายแดนด้าน นายกิติศักดิ์ กล่าวระหว่างการลงพื้นที่เยี่ยมเยียนกำลังพลตามแนวชายแดนว่า ทหารที่ปฏิบัติหน้าที่แนวหน้าตลอด 24 ชั่วโมงจำเป็นต้องได้รับขวัญและกำลังใจที่มั่นคง การมอบสิ่งของเครื่องใช้จำเป็นในชีวิตประจำวันถือเป็นการสนับสนุนที่ช่วยให้กำลังพลมีความพร้อมในการปฏิบัติภารกิจ และเป็นโอกาสรับฟังปัญหาอุปสรรคเพื่อนำไปสู่การแก้ไข โดยขอให้ประชาชนในพื้นที่ซึ่งเป็นกำลังสนับสนุนแนวหลัง ร่วมช่วยเหลือเพื่อเป็นการตอบแทนผู้ที่เสียสละทำงานเพื่อความมั่นคงของประเทศ  ในส่วนของข้อร้องเรียนจากประชาชน นายกิติศักดิ์ ยืนยันว่า วุฒิสภาได้หารือและขับเคลื่อนในประเด็นสำคัญอย่างต่อเนื่อง หลายเรื่องได้ดำเนินการไปแล้วตามกรอบกฎหมายที่มีอยู่ โดยเฉพาะปัญหาพื้นที่ชายแดนที่หายไป ซึ่งเป็นประเด็นสะสมมาเป็นเวลานาน วุฒิสภาจะเร่งรัดดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด/ดุลยศักดิ์ ส.ปชส.สระแก้ว ภาพ-ข่าว//////นางธณวรรณ แฉล้มชาติ ผู้สื่อข่าวนิวส์24สถานีประชาชนประจำจังหวัดสระแก้วรายงาน