Top News/ข่าวยอดนิยม

Recent News/ข่าวล่าสุด

กกล.ผาเมือง จัดกำลังพลเข้าร่วมการฝึกอบรมดับไฟป่า ในพื้นที่ อ.ไชยปราการ จว.ช.ม.

เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 68 เวลา 1300 กกล.ผาเมือง โดย บก.ผาดำ แก.ไชยานุภาพ จัดกำลังพลเข้าร่วมฝึกอบรมเรื่องการดับไฟป่าการใช้เครื่องมือดับไฟป่าเพื่อให้กำลังมีความรู้มีความเข้าใจและสามารถปฏิบัติภารกิจได้ พร้อมทั้งให้กำลังพลได้รับรู้ถึงภัยอันตรายหมอกควัน ไฟป่า ฝุ่นละออง PM.25 ณ อุทยานแห่งชาติดอยเวียงผา ต.ศรีดงเย็น อ.ไชยปราการ จว.ช.ม. โดยมีนายสุรพงษ์ แก้วขาว หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยเวียงผา เป็นผู้ให้ความรู้











 

กกล.ผาเมือง จัดกำลังพล ช่วยเหลือประชาชนซ่อมแซมประปาภูเขาประจำหมู่บ้าน ในพื้นที่ อ.เทิง จว.ช.ร.

เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 68 เวลา 0800 กลล.ผาเมือง โดย ร้อย.ทพ.3105 ฉก.ทพ.31 จัดกำลังพล ร่วมกับ ผญบ., ผช.ผญบ., ส.อบต. และประชาชน บ.ทรายกาดฯ ดำเนินการซ่อมแซมระบบน้ำประปาภูเขาประจำหมู่บ้าน ซึ่งชำรุดเสียหาย เนื่องจากเกิดอุทกภัยในห้วงที่ผ่านมา ทำให้ท่อส่งน้ำขาดและชำรุด จำนวนหลายจุด ณ ลำห้วยทรายกาด บ.ทรายกาด ม.6 ต.ตับเต่า อ.เทิง จว.ช.ร. มีผู้เข้าร่วมดำเนินการ จำนวน 90 คน





 

กกล.ผาเมือง จัดกิจกรรม Army Barber Deliver ในพื้นที่ อ.ทุ่งช้าง จว.น.น.

เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 68 เวลา 1000 กกล.ผาเมือง โดย ร้อย.ทพ.3208 ฉก.ทพ.32 จัด กพ.จิตอาสา บริการตัดผมแก่เด็กนักเรียน ตามโครงการ “Army Barber Delivery” เพื่อเป็นการช่วยลดภาระรายจ่ายให้กับผู้ปกครอง ณ โรงเรียนบ้านมณีพฤกษ์ ต.งอบ อ.ทุ่งช้าง จว.น.น. โดยมีเด็กนักเรียนเข้ารับบริการจำนวน 6 คน






 

กกท. ภาค 5 เตรียมความพร้อมการแข่งขันฟุตบอลชาย รอบคัดเลือก ก่อนการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33

วันนี้ (1 ธ.ค. 68) เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมเล็ก อาคารหอพัก 700 ปี สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี จังหวัดเชียงใหม่ นายสงค์ศักย์ คำดีรุ่งริรัตน์ ผู้อำนวยการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ภาค 5 เชียงใหม่ เป็นประธานการประชุมหารือเพื่อเตรียมความพร้อมการจัดการแข่งขันฟุตบอลชาย รอบคัดเลือก การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ซึ่งประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพการแข่งขัน โดยมี หัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม
ในการนี้ ที่ประชุมมีการแจ้งข้อมูลการแข่งขันและหารือการเตรียมความพร้อมในทุกด้าน ได้แก่ ด้านการเตรียมรถพยาบาลและทีมแพทย์ ด้านการรักษาความปลอดภัยและการจราจร ด้านระบบสาธารณูปโภค ด้านระบบการขนส่งนักกีฬา ด้านที่พักนักกีฬา ด้านความเรียบร้อยของสนามแข่งและสนามฝึกซ้อม และด้านเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานที่สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี
สำหรับจังหวัดเชียงใหม่ เป็นเจ้าภาพการแข่งขันในรอบคัดเลือก กลุ่ม C ทีมแข่งขันประกอบไปด้วย ประเทศฟิลิปปินส์ เมียนมา และอินโดนีเซีย โดยจะมีการแข่งขันในวันที่ 5, 8 และ12 ธันวาคม 2568 เวลา 18.00 น. ณ สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี  ซึ่งจะสามารถบรรจุผู้ชมได้ประมาณ 17,500 ที่นั่ง สำหรับผู้สนใจเข้าชม การกีฬาแห่งประเทศไทยจะเปิดให้มีการสำรองที่นั่งได้ฟรี โดยลงทะเบียนในระบบออนไลน์ ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยในการจัดแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ
ผอ.กกท. ภาค 5 กล่าวเพิ่มเติมว่า ในโอกาสที่จังหวัดเชียงใหม่ได้เป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันฟุตบอลในครั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดในทุกด้าน จึงขอเชิญชวนผู้ที่สนใจเข้ามาร่วมชมให้มากที่สุด เพื่อชื่อเสียงของจังหวัดเชียงใหม่และชาวเชียงใหม่ทุกคนในฐานะเจ้าบ้านที่ดี




 

ในหลวง-พระราชินี ทรงเปิดอาคารเรียนรู้เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา และทรงเปิดงาน “โครงการหลวง 2568 ” ที่จังหวัดเชียงใหม่

วันนี้ (1 ธันวาคม 2568) เวลา  18.40 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดอาคารเรียนรู้เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา และทรงเปิดงาน “โครงการหลวง 2568 ” ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรโครงการหลวง ชนกาธิเบศรดำริ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ โดยมี พลเอก กัมปนาท  รุดดิษฐ์ องคมนตรี เลขาธิการและประธานกรรมการบริหารมูลนิธิโครงการหลวง นายวิรัตน์  ปราบทุกข์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน)  พร้อมคณะกรรมการจัดงาน และข้าราชการ  เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ

จากนั้น เสด็จฯ เข้าพลับพลาพิธี  ทรงจุดธูปเทียน

เครื่องนมัสการบูชาพระพุทธนวราชบพิตร  ทรงกราบ  ทรงศีล ประธานสงฆ์ถวายศีล จบแล้ว พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายชัยการ  แบนสุภา หัวหน้าฝ่ายการเงินและบัญชี และนางสาวณัฐกานต์  เอมาวัฒน์ หัวหน้าฝ่ายธุรการและการสนับสนุน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายสูจิบัตร แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ก่อนจะพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ เลขาธิการและประธานกรรมการบริหารมูลนิธิโครงการหลวง กราบบังคมทูลรายงานวัตถุประสงค์การจัดตั้งอาคารเรียนรู้เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา  จากนั้น  เสด็จฯ ไปยังแท่นพิธี  ทรงกดปุ่มไฟฟ้าเปิดแพรคลุมป้ายอาคารเรียนรู้เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา  โอกาสนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมถวายพระสงฆ์  ทรงหลั่งทักษิโณทก  พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา  ถวายอดิเรก

จากนั้น พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ เลขาธิการและประธานกรรมการบริหารมูลนิธิโครงการหลวง  กราบบังคมทูลเบิกผู้ให้การสนับสนุนการก่อสร้างอาคารเรียนรู้เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับพระราชทานของที่ระลึกตามลำดับ และพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายนาวิน  สุขเลิศ หัวหน้าฝ่ายบริหารผลิตผลและผลิตภัณฑ์  เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทูลเกล้าฯ ถวายแผ่นศิลา  เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย และพระนามาภิไธย  จากนั้น  เสด็จพระราชดำเนินไปทรงกราบที่หน้าเครื่องนมัสการ  ทรงลาพระสงฆ์  แล้วเสด็จฯ ออกจากพลับพลาพิธีไปทรงปลูกต้นรวงผึ้ง
สำหรับอาคารเรียนรู้เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา  จัดตั้งขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ผู้ทรงก่อตั้งมูลนิธิโครงการหลวงและวางรากฐานการพัฒนาทางเลือกบนที่สูงอย่างยั่งยืน เป็นอาคารเรียนรู้ของสถาบันการเรียนรู้มูลนิธิโครงการหลวง  ในการสนองพระบรมราโชบายสืบสาน รักษา และต่อยอด งานของมูลนิธิโครงการหลวงที่ประสบผลสำเร็จจนเป็นที่ประจักษ์อย่างกว้างขวาง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ  เริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2567 เป็นอาคาร 3 ชั้น ประกอบด้วย ห้องปฏิบัติการเรียนรู้  ห้องอบรมประชุมสัมมนา  ห้องนิทรรศการ ถ่ายทอดประวัติศาสตร์โครงการหลวง และห้องการเรียนการสอนหลักสูตรต่าง ๆ อีกทั้งเป็นต้นแบบอาคารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและประหยัดพลังงานอีกด้วย
จากนั้น เวลา  19.21 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯ ไปทรงเปิดงาน “โครงการหลวง 2568“ ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรโครงการหลวง ชนกาธิเบศรดำริ  อำเภอเมืองเชียงใหม่  จังหวัดเชียงใหม่  เสด็จฯ ประทับยังศาลา 72 พรรษา พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายจตุพร  ปารมี รักษาการหัวหน้าฝ่ายสถานีวิจัยและศูนย์พัฒนาโครงการหลวงฯ และนางสาวศิรัส  เตชะอภิชาต หัวหน้าสำนักอำนวยการผู้บริหาร  เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าฯ ถวายสูจิบัตร แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี
จากนั้น  พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้  เลขาธิการและประธานกรรมการบริหารมูลนิธิโครงการหลวง  กราบบังคมทูลรายงานวัตถุประสงค์ของการจัดงาน “โครงการหลวง 2568”  ทอดพระเนตรการแสดง  สื่อผสม  แสง  สี  เสียง  ประกอบบทเพลงประสานเสียง  ชุด “ทศมมหาราชา พระมหากรุณานำการพัฒนาสู่ความยั่งยืน”  ซึ่งถ่ายทอดพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงสืบสาน  รักษา และต่อยอดแนวพระราชดำริของสมเด็จพระบรมชนกนาถ  ที่ทรงก่อตั้งมูลนิธิโครงการหลวง  นำไปสู่การพัฒนาในพื้นที่สูงด้วยแนวทางโครงการหลวงโมเดล  โดยนักร้องประสานเสียงเยาวชน  ร่วมกับวงดนตรีจิตอาสา  ในรูปแบบศิลปะล้านนาร่วมสมัย  ประกอบด้วย 3 องก์  ได้แก่ องก์ที่ 1  เสียงแห่งขุนเขา  องก์ที่ 2 แสงทองแห่งพระมหากรุณา  องก์ที่ 3 ความยั่งยืนแห่งแผ่นดิน สืบสาน รักษา ต่อยอด
จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ไปทรงกดปุ่มไฟฟ้าเปิดงาน “โครงการหลวง 2568“ โอกาสนี้ ทรงทอดพระเนตรนิทรรศการ “ทศมมหาราชา พระมหากรุณานำการพัฒนาสู่ความยั่งยืน” ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการสืบสาน  รักษา และต่อยอด  งานโครงการหลวง และนำเสนอผลสำเร็จของงานวิจัยและนวัตกรรมของมูลนิธิโครงการหลวง  ประกอบด้วย  นิทรรศการ สืบสาน “นวัตวิจัย ผลลัพธ์ที่จับต้องได้”   นิทรรศการ รักษา “พืชพระราชทาน สร้างงาน สร้างคุณค่า”
นิทรรศการ ต่อยอด “พลังบูรณาการ เพื่อความยั่งยืนของพื้นที่สูง” และนิทรรศการ สืบสาน รักษา ต่อยอด “หัตถศิลป์พื้นที่สูง...ด้วยพระเมตตาแห่งแผ่นดิน”  ในโอกาสนี้  ทอดพระเนตรวิดีทัศน์แนะนำการใช้ประโยชน์อาคารเรียนรู้เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา  ต่อจากนั้น  เสด็จพระราชดำเนินไปยังอาคารอเนกประสงค์ ทอดพระเนตรซุปเปอร์มาร์เก็ตจำหน่ายผลิตผลและผลิตภัณฑ์โครงการหลวง  ซึ่งปีนี้มีสินค้าที่โดดเด่น เช่น ข้าวเจ้าพันธุ์จาคูเนเน  ซึ่งเป็นข้าวเจ้าพันธุ์ท้องถิ่นของชนเผ่าลีซอ  น้ำนมข้าวโพดหวาน  ชาอู่หลงกลิ่นข้าวเหนียวมะม่วง  เป็นชาโครงการหลวงที่มีกลิ่นและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และกุหลาบพันธุ์รอยัล 4  จากนั้นเสด็จฯ ไปยังห้องประทับรับรอง (ห้องราชภักดิ์)  ทรงลงพระปรมาภิไธย และพระนามาภิไธย ในสมุดที่ระลึก  สมควรแก่เวลา  จึงประทับรถยนต์พระที่นั่ง  เสด็จฯ ไปยังท่าอากาศยานทหาร กองบิน 41 อำเภอเมืองเชียงใหม่  จังหวัดเชียงใหม่  เพื่อประทับเครื่องบินพระที่นั่ง  เสด็จฯ กลับกรุงเทพมหานคร
ทั้งนี้  ตลอดเส้นทางเสด็จพระราชดำเนิน  มีราษฎรมาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ เป็นจำนวนมาก  ซึ่งเป็นราษฎรในพื้นที่ จังหวัดใกล้เคียง รวมถึงราษฎรและเกษตรกรที่ได้รับประโยชน์จากการพัฒนาโครงการหลวงของชาติพันธุ์ต่างๆ เช่น เมี่ยน (เย้า)  ละว้า  ม้ง  ไทลื้อ  อาข่า  คะฉิ่น  ลีซู  ดาราอั้ง และลาหู่ (มูเซอ)  ที่มาจากพื้นที่สถานีเกษตรหลวง  ศูนย์พัฒนาโครงการหลวง และโครงการขยายผลแบบโครงการหลวงในจังหวัดต่างๆ ทางภาคเหนือ ต่างพร้อมใจกันแต่งกายด้วยชุดประจำชาติพันธุ์อย่างสวยงามมาร่วมเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ ด้วยความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้

 ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ กองแพทย์หลวง สำนักพระราชวัง ร่วมกับโรงพยาบาลต่าง ๆ ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ มอบพิมเสนน้ำและผ้าเย็นแก่ประชาชน พร้อมทั้งพระราชทานอาหารแก่ราษฎรที่มาร่วมเฝ้าฯ รับเสด็จในพื้นที่ด้วย

พาณิชย์แพร่!!! เปิดบูทนิทรรศการ “กระทรวงพาณิชย์” ในงานมหกรรมของดีจังหวัดแพร่และงานกาชาดประจำปี 2568

   วันจันทร์ที่ 1 ธันวาคม 2568 เวลา 17.00 น. นายศุภสัณห์ ศิลป์ชูศรี พาณิชย์จังหวัดแพร่ เป็นประธานพิธีเปิดบูทนิทรรศการกระทรวงพาณิชย์ ในงานมหกรรมของดีจังหวัดแพร่และงานกาชาดประจำปี 2568 โดยมีนายสัญญา เนื้อนุ่ม หัวหน้าสำนักงานสาขาชั่ง ตวง วัด เขต 1-3 แพร่  พร้อมด้วยข้าราชการ เจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดแพร่ และสำนักงานสาขาชั่ง ตวง วัด เขต 1-3 แพร่ ร่วมกิจกรรมอย่างพร้อมเพรียงกัน

ภายในบูทนิทรรศการกระทรวงพาณิชย์ มี 2 ส่วน ดังนี้ 

ส่วนที่ 1 จัดนิทรรศการไว้อาลัยแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง, นโยบาย Big Quick Win ของกระทรวงพาณิชย์,  กิจกรรมสำนักงานพาณิชย์จังหวัดแพร่ (การจัดตลาดนัดข้าวเปลือกปีการผลิต 68/69 , การส่งเสริมประชาสัมพันธ์สินค้า SDGs จังหวัดแพร่ ฯลฯ) และนิทรรศการประวัติ ชั่ง ตวง วัด นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมแจกของที่ระลึกสำหรับประชาชนที่เข้ามาเยี่ยมชมบูทและร่วมกิจกรรมตอบแบบสอบถามฯ ด้วย

ส่วนที่ 2 เปิดจุดจำหน่ายสินค้าธงฟ้าราคาประหยัด ลดค่าครองชีพประชาชน  โดยมีสินค้าที่จำเป็นต่อการบริโภคจำนวน  8 ชนิด มาจำหน่ายในราคาต่ำกว่าท้องตลาด 20 - 40 %  ให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว โดยจำหน่ายในช่วงเวลา 16.00 – 19.00 น. ของวันที่ 1, 3, 5, 7 และ 9 ธันวาคม 2568

 ประชาชนและนักท่องเที่ยวสามารถเข้าเยี่ยมชมบูทนิทรรศการกระทรวงพาณิชย์ ได้ตั้งแต่เวลา 16.00 – 22.00 น. ณ บริเวณโซน 5  ***ติดเวทีกลาง***  ของงานมหกรรมของดีจังหวัดแพร่และงานกาชาดประจำปี 2568 ซึ่งกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 – 10 ธันวาคม 2568 ณ สนามกีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่ ตำบลในเวียง อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่


 ทีมข่าว/จ.แพร่

“สงขลาระอุ” ดราม่าเดือดกลางโซเชียล หลังชาวคาบสมุทรสทิงพระติดน้ำท่วม 10 วัน สส.เขต 4 เดือดคอมเมนต์กลับจนปะฉะดะกลางเฟซบุ๊ก

 โซเชียลจังหวัดสงขลาปะทุเดือด เมื่อประชาชนในพื้นที่คาบสมุทรสทิงพระที่กำลังเผชิญน้ำท่วมยาวนานกว่า 10 วัน ออกมาโพสต์วอนหน่วยงานรัฐเร่งระบายน้ำ แต่กลับเกิดดราม่าร้อนฉ่าเมื่อ ชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว เข้ามาคอมเมนต์ในเชิงตำหนิ จนเกิดการโต้ตอบอย่างเผ็ดร้อน เหตุเกิดหลังผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ซึ่งเป็นชาวพื้นที่ อำเภอสิงหนคร โพสต์ข้อความระบายความเดือดร้อนว่า “เรียนท่านผู้มีอำนาจใหญ่โต ตอนนี้ชาวสิงหนคร สทิงพระ กระแสสินธุ์ ระโนด อยู่กับน้ำมา 10 วันแล้ว วานช่วยสั่งการเครื่องผลักดันน้ำลงทะเลที”  ไม่นานนัก สส.เขต 4 สงขลา ได้ตอบกลับด้วยถ้อยคำที่ทำให้ชาวเน็ตวิจารณ์สนั่น เช่น  “วานช่วยลงมาดูทีเค้าทำไรกันอยู่ อย่านั่งแท่นแต่บ้าน แล้วได้แต่พิมพ์ทอสัพ…” และอีกข้อความว่า
“พันพรือๆ ผมวานป้าลงมาดูที่เขาทำงานกันบ้างนะครับ ป้าพักผ่อนบ้าง”คำตอบดังกล่าวทำให้เจ้าของโพสต์ ซึ่งภายหลังทราบว่าเป็นผู้สื่อข่าวจาก สำนักข่าวอิศราและเนชั่นประจำจังหวัดสงขลา ออกมาสวนกลับทันทีว่า “ไม่ได้ออกไปดูค่ะเพราะน้ำถึงเอวมาหลายวันแล้ว และในฐานะผู้แทนประชาชน ควรใช้คำที่เหมาะสมกว่านี้ คำแบบนี้ไม่น่ามาจากมือผู้แทนค่ะ” เหตุการณ์นี้ยิ่งทำให้ชาวเน็ตจำนวนมากเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์ โดยส่วนใหญ่แสดงความไม่พอใจกับภาษาที่ใช้และมองว่าไม่เหมาะสมกับบทบาทของผู้แทนราษฎร ด้านสภาพพื้นที่จริง ขณะนี้น้ำท่วมในหลายอำเภอของคาบสมุทรสทิงพระ ได้แก่ อำเภอสทิงพระ, อำเภอกระแสสินธุ์, อำเภอระโนด รวมถึงบางส่วนของ อำเภอควนเนียง จมอยู่ใต้น้ำมาต่อเนื่องกว่า 10 วันแล้ว แม้หลายพื้นที่ในจังหวัดน้ำจะลดลงแล้วก็ตาม ประชาชนหลายหมู่บ้านเผยว่า น้ำเริ่มส่งกลิ่นเหม็น หวั่นเกิดปัญหาสุขภาพตามมา หากไม่เร่งผลักดันน้ำออกจากระบบโดยด่วน ดราม่าครั้งนี้จึงสะท้อนทั้งความเดือดร้อนสะสมของประชาชน และแรงกดดันต่อหน่วยงานรัฐว่าจะเร่งแก้ปัญหาน้ำท่วมเรื้อรังได้ทันหรือไม่ 
////นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ ผู้สื่อข่าวนิวส์24สถานีประชาชนประจำจังหวัดจสงขลา////สุพจน์บดินทร์ กุ่มประสิทธิ์ บก.ข่าวออนไลน์ 77จังหวัด