พรุ่งนี้นัดฝ่ายบริหารกู้ภัยฯทั้ง 2 ฝ่ายมาเคลียร์ตกลงพื้นที่หรือแนวทางการทำงานให้ชัดเจนเมื่อเวลา 00.15 น.วันนี้ 13 ต.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ปราจีนบุรี พบมีการโพสต์และแชร์ในเพจ-เฟชบุ๊คจำนวนมาก เป็นคลิปภาพจากกล้องวงจรปิด มีรถ จยย.สีน้ำเงินขับขี่มาลำพังคนเดียวกลางดึกจอดบนถนนคล้ายน้ำมันหมด พร้อมมีวัยรุ่นอีกคันขับรถ จยย.สีแดงซ้อน 2ติดตามมา และมีการถกเถียงกันพร้อมเห็นคนขับขี่รถ จยย.น้ำเงินพกปืน จากนั้นมีรถ จยย. 3 คันตามมาสมทบกับ จยย.คันแดง กลุ่มที่ตามมารวมแล้ว 5 คน เมื่อพบว่าอีกฝ่ายมีการพกปืนได้มีการรุมทำร้ายร่างกายคนขับขี่รถ จยย.สีน้ำเงิน และพยายามบังคับให้นอนหมอบกับพื้นถนน ระหว่านั้นมีรถกระบะกู้ภัยสีขาวผ่านมา แต่ภายหลังรถกระได้ขับย้อนกลับมาพุ่งชนวัยรุ่นกลุ่มที่กำลังจะทำร้ายฝ่ายที่พกปืนจนรถ จยย.4 คันที่จอดอยู่ล้มระเนระนาดกลุ่มวัยรุ่นพากันกระโดดหนีกันจ้าละหวั่น ส่วนกระบะหลังก่อเหตุได้หลบหนีขณะชุลมุน ด้านวัยรุ่นกลุ่มที่รุมทำร้ายหลังเหตุสงบแล้วยังทำร้ายผู้ขับขี่รถ จยย.คันแรกต่อต่อมาเพจ สภ.ศรีมหาโพธิสถานีตำรวจภูธรศรีมหาโพธิ ลงภาพเหตุการณ์รถ จยย.4 คันที่ถูกกระบะเฉี่ยวชนล้มบนถนนพร้อมข้อความระบุว่า ... รายงานเหตุเฉี่ยวชนแล้วหลบหนี เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2568 เวลา 01.30 น. พนักงานสอบสวนเวรได้รับแจ้งเหตุรถยนต์กระบะเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ มีผู้ได้รับบาดเจ็บและทรัพย์สินเสียหาย จึงรายงานผู้บังคับบัญชาและออกตรวจที่เกิดเหตุทันที จุดเกิดเหตุ ถนนสาย 3079 (โคกขวาง–คลองรั้ง) ม.7 ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ผลการตรวจสอบ พบรถจักรยานยนต์เสียหาย จำนวน 4 คันผู้ขับขี่ได้รับบาดเจ็บ ถูกนำส่งโรงพยาบาลก่อนเจ้าหน้าที่ไปถึงรถกระบะคู่กรณีหลบหนีไปทางตลาดคลองรั้งสายในผู้บาดเจ็บที่ทราบชื่อ ได้แก่1. นายอาฤทธิ์ ภูเดช 2. นายกฤษดา มาสา 3. นายอมรเทพ ศิริรัตน์ 4. นายกล้าณรงค์ แสงเนตร จากการสืบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุมีปากเสียงทะเลาะกันจนเกิดการเฉี่ยวชน มีผู้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว การดำเนินการต่อไป เจ้าหน้าที่จะได้ทำการสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริง พร้อมติดตามผู้กระทำความผิดและรถยนต์คันก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปพ.ต.ต.มงคล เป๋าผกก.สภ.ศรีมหาโพธิ กล่าวว่า “กรณีมีการโพสต์-แชร์บนโลกออนไลน์ กลุ่มวัยรุ่น วิวาทสถานที่เกิดเกตุ บนถนนสาย 3079 (โคกขวาง–คลองรั้ง) ม.7ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี บริเวณปั๊มปตท. 304 ช่วงกลางดึกของเมื่อคืน( 11ต.ค.) รถ จยย.ได้รับความเสียหาย 4 คัน หลังจากนั้นได้ขยายผลทราบว่าเป็นกลุ่มของทีมกู้ภัย 2 กลุ่ม
ที่มีความขัดแย้งกันก่อนเที่ยงคืน กลุ่มของกู้ภัย มังกร กับร่วมกตัญญูมีความขัดแย้งกัน โดยช่วงก่อนเที่ยงคืนมีปัญหา เรื่องการช่วยเหลือ ไปดูที่เกิดเหตุมีผู้บาดเจ็บที่มีรถชนกันมีผู้บาดเจ็บแล้วก็มีปัญหากันในการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บมีเรื่องขัดแย้งกันในเบื้องต้นก่อน แล้วก็มีการไปคุยกันที่ป้อมฝั่งตรงข้ามหน้าโลตัสเกิดมีการใช้กำลังทะเลาะวิวาทกันไปตกลงกันที่โรงพักระเบาะไผ่ อ.ศรีมหาโพธิแล้ว ตอนแรกก็เข้าใจกันดีแต่ ระหว่างนั้น ปรากฏว่า ช่วงกลางดึก มารวมตัวกันที่ ปั๊มปตท.ฝั่ง 304 มี 2 กลุ่มเจอกันมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันเกิดขึ้นมาอีก มีการทำร้ายร่างกายกันแล้วก็มีการเฉี่ยวชนแล้วหลบหนี รถจยย.ได้รับ ความเสียหาย ตามภาพคลิปวีดีโอหน้าร้านที่เกิดเหตุเก็บภาพไว้ได้ ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามตัวแล้วก็ได้ยึดรถกระบะคันนี้ ส่วนรถมอเตอร์ไซค์ 4 คัน ได้ตรวจสภาพบางคันรีบต้องการใช้ขอรับไปใช้ก่อน เบื้องต้นเรียกคู่กรณีผู้ก่อเหตุแล้ว ตัวละครที่ก่อเหตุทั้งหมดเรียกควบคุมตัวได้ทั้งหมดแล้ว ในข้อกล่าวหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นเรื่องของบาดเจ็บ รอผลตรวจร่างกายจากแพทย์ว่าธรรมดาหรือบาดเจ็บสาหัสรอผลการตรวจร่างกายจากแพทย์ก่อน เบื้องต้นแจ้งให้ไปพบแพทย์แล้วกลับไปพักผ่อนที่บ้านแล้ว จากที่คู่กรณีเป็นอาสาสมัครกู้ภัย ได้เรียกทีมคณะผู้บริหารของกู้ภัยทั้ง 2 ทีม มาพบกันที่โรงพักแล้วมาทำการเจรจาพูดคุยต้องตกลงกันแล้ว แต่ละฝ่ายไปติดตามสมาชิกรายงานตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ให้นัดประชุม ตั้งกฎกติกากันให้ชัดเจนการไปให้บริการ คนถึงก่อนในเขตรับผิดชอบเกิดปัญหากันขึ้นพูดคุยทำงานร่วมกันต่อไปพรุ่งนี้ (13 ต.ค.)ที่ สภ.ศรีมหาโพธิ เวลา 10.00 น. พ.ต.อ.มงคลกล่าวและกล่าวต่อไปว่า “ ฝากให้อาสาสมัครฯที่มีจิตอาสามาช่วยงานสังคมกัน อยากให้เป็นจิตอาสาจริงๆ ใครที่ได้รับความเดือดร้อนช่วยเหลือได้ก็ช่วยเหลืออย่าไปตั้งแง่ว่าเป็นเขตของใคร ช่วยเหลืออะไรได้ก็ช่วยกันไป ทุกคนต้องช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่เดือดร้อนทุกคนเหมือนกัน พ.ต.อ.มงคลกล่าวในที่สุด////ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม สำหรับพื้นที่อำเภอศรีมหาโพธิ เป็นย่านชุมชนหนาแน่ เป็นที่ตั้งนิคมอุตสาหกรรม 304 มีโรงงานมากกว่า 1,000 แห่ง มักเกิดอุบัติเหตุ

มานิตย์ สนับบุญ 081-5583238 – ข่าว / ณัฐนันท์ – ภาพ / ผู้สื่อข่าวนิวส์24สถานีประชาชนประจำจังหวัดปราจีนบุรี ///สุพจน์บดินทร์ กุ่มประสิทธิ์ บก.ข่าวออนไลน์ 77 จังหวัด
ทุกวันเนื่องจากการจราจรหนาแน่น มีหน่วยกู้ภัยฯที่ทำงานจิตอาสาช่วยเหลือประชาชนและราชการ-เอกชน รวม 3 หน่วยกู้ภัยฯ