วันนี้ (11 พ.ย. 68) นายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้นำส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  ประชุมหารือร่วมกับนายบุญเพิ่ม อินทนปสาธน์ เจ้าของลิขสิทธิ์ Spartan Thailand ผู้จัดการแข่งขัน Spartan Race Chiang Mai Thailand 2025 หรือการแข่งขันวิ่งวิบาก  ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่เป็นเจ้าภาพจัดแข่งขัน ณ อ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า ต.ดอนแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่  เมื่อวันที่ 27-28 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา ได้รับความสนใจจากนักวิ่งทั้งชาวไทยและจากต่างประเทศกว่า 50 ประเทศ ทั่วโลกเข้าร่วมแข่งขัน ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง  โดยมีการเผยแพร่ข่าวการจัดการแข่งขันผ่านสื่อในประเทศและต่างประเทศอย่างกว้างขวางจนได้รับความสนใจจากนักกีฬาวิ่งวิบาก รวมถึงผู้ติดตามเดินทางมาร่วมการแข่งขันในครั้งนี้รวมกว่า 4,500 คน และมีนักกีฬาจากประเทศจีนและเกาหลีเข้ามาร่วมการแข่งขันมากขึ้น  ส่งผลให้มีรายได้กว่า 200 ล้านบาท ตลอดช่วงของการจัดการแข่งขัน
 การแข่งขัน Spartan Race Chiang Mai Thailand 2025 ที่ จังหวัดเชียงใหม่ ครั้งที่ผ่านมาได้รับคำชื่นชมจากคณะผู้จัดงานและนักวิ่งที่เข้าร่วมแข่งขัน ว่า สนามที่ใช้ในการแข่งขัน คือ ห้วยตึงเฒ่า มีความสวยงามเป็นอย่างมาก  และมองว่าเชียงใหม่เป็น Base Camp ของนักแข่งวิ่งวิบากในรายการ Spartan Race ในระดับโลกไปแล้ว  นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างรายได้กระจายไปยังส่วนต่างๆ  ทั้งร้านค้า ร้านอาหาร รถแดง และที่พักต่างๆ  การประชุมหารือในครั้งนี้ จึงได้มีการถอดบทเรียน นำประสบการณ์ และปัญหา/อุปสรรค มาพูดคุย เช่น ปัญหาเรื่องพายุฝน โดยช่วงการแข่งขัน มีฝนตกหนัก ส่งผลให้สนามการแข่งขันเละเต็มไปด้วยโคลน เส้นทางวิ่งลื่น จึงจำเป็นต้องตัดการแข่งขันบางระยะออกไปด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย กรณีนี้ ในปี 2026 ที่ประชุมเห็นชอบให้จัดการแข่งขันช่วงปลายเดือนกรกฎาคม 2569 นอกจากจะไม่ได้รับผลกระทบจากพายุฝนแล้ว  ยังเป็นช่วงที่หลายประเทศโดยเฉพาะตลาดนักท่องเที่ยวจีนจะออกมาท่องเที่ยว  จึงมีโอกาสที่จะมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมเพิ่มมากขึ้น  นอกจากนี้คณะผู้จัดการแข่งขัน ได้เสนอให้จังหวัดเชียงใหม่ หาสนามแข่งขันแห่งใหม่
เนื่องจากว่าห้วยตึงเฒ่ารองรับผู้แข่งขันได้เพียงแค่ราว 3,500 คนเท่านั้น  หากจะก้าวไปสู่ Base Camp ชั้นนำของโลกจะต้องหาสนามแข่งขันที่รองรับผู้แข่งขันที่รองรับได้ไม่ต่ำกว่า 6,000-10,000 คน  และอยากให้จังหวัดเชียงใหม่ ผลักดันการแข่งขัน Spartan Race ในรุ่น Kids (รุ่นเด็ก) และ Family (ครอบครัว)  เพื่อให้เป็นมิติใหม่ของการแข่งขันที่จะดึงดูดเด็กและเยาวชน รวมถึงครอบครัวนักกีฬาจากทั่วโลกเดินทางเข้ามาร่วมแข่งขันมากขึ้น  จะทำให้เชียงใหม่เป็นจุดหมายปลายทางที่สามารถดูแลคนได้ทุกช่วงวัย และที่สำคัญยังสามารถดึงดูดนักลงทุนให้เข้ามากระตุ้นธุรกิจและอุตสาหกรรมด้านสุขภาพให้เพิ่มมากขึ้นด้วย
 ทั้งนี้ จังหวัดเชียงใหม่ จะได้นำข้อมูลจากการถอดบทเรียนครั้งนี้ ไปหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  เพื่อขับเคลื่อนการจัดการแข่งขัน Spartan Race ครั้งต่อไปในปี 2026 ให้ดียิ่งขึ้นไปอีก  ให้สมกับเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลก









ส่งศักดิ์ พรมเอี่ยม ศูนย์ข่าวภาคเหนือรายงาน
 

แสดงความคิดเห็น