คณะกรรมการกองทุนกำลังใจในพระดำริพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เป็นประธานประชุมร่วมกับมูลนิธิสดศรี-สฤษดิ์วงศ์ (มสส.) และบริษัท คิดเปลี่ยนเรียนรู้วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด ณ มูลนิธิสดศรี-สฤษดิ์วงศ์ กรุงเทพมหานคร ในเรื่องการพัฒนาระบบ “Thrive ระบบนิเวศดิจิทัลบูรณาการ เชื่อมข้อมูลต้นน้ำถึงปลายน้ำ คืนคนดีสู่สังคมอย่างยั่งยืน”

วันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคม 2568 เวลา 10.00 น. พลอากาศเอก สมคิด สุขบาง กรมวังผู้ใหญ่ประจำพระองค์ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา รองประธานคณะกรรมการกองทุนกำลังใจในพระดำริพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เป็นประธานประชุมร่วมกับมูลนิธิสดศรี-สฤษดิ์วงศ์ (มสส.) และบริษัท คิดเปลี่ยนเรียนรู้วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด ณ มูลนิธิสดศรี-สฤษดิ์วงศ์ กรุงเทพมหานคร ในเรื่องการพัฒนาระบบ “Thrive ระบบนิเวศดิจิทัลบูรณาการ เชื่อมข้อมูลต้นน้ำถึงปลายน้ำ คืนคนดีสู่สังคมอย่างยั่งยืน” โดยมีนางจิรภา สินธุนาวา รองปลัดกระทรวงยุติธรรม พันตำรวจโท พงษ์ธร ธัญญสิริ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม นายนิทัศน์ แสงวัฒนะ รองผู้อำนวยการสำนักงานกิจการยุติธรรม ผู้อำนวยการกองพัฒนานวัตกรรมการยุติธรรม ผู้แทนจากกรมราชทัณฑ์ ผู้แทนจากสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็คทรอนิกส์ ร่วมประชุมด้วย

การประชุมนำเสนอโดย นพ.ก้องเกียรติ เกษเพ็ชร์ เลขาธิการมูลนิธิสดศรี-สฤษดิ์วงศ์ โดยเป็นข้อเสนอในการพัฒนานวัตกรรม ร่วมกับกองพัฒนานวัตกรรมการยุติธรรม เพื่อการสร้างระบบข้อมูลกลางยุติธรรมไทยที่เชื่อมโยงทุกภาคส่วน ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลจริง ยกระดับคน ระบบ และผลลัพธ์สังคม เพื่อเปลี่ยนการฟื้นฟูให้กลายเป็นการลงทุนที่คืนกำไรให้กับประเทศต่อไปได้ ซึ่งที่ผ่านมามีปัญหาอันเนื่องมาจากระบบฟื้นฟูผู้ต้องขังปัจจุบัน ยังแยกส่วนการฟื้นฟู ไม่ต่อเนื่อง ขาดการเชื่อมโยงข้อมูล และไม่มีระบบติดตามกลาง โดยใช้แนวคิดหลัก คือ ระบบนิเวศดิจิตัลบูรณาการ (Integrated Digital Ecosystem) การเชื่อมข้อมูลผู้ต้องขังจากต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ การขับเคลื่อนด้วยข้อมูลจริงและความร่วมมือทุกภาคส่วน และการเปลี่ยน Cost Center ให้เป็น Value Center ซึ่งจะแบ่งการพัฒนาออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 พัฒนา Platform ทดลองนำร่อง (2 ปี) ระยะที่ 2 บูรณาการข้อมูลและขยายผล (2 ปี) และระยะที่ 3 วิเคราะห์ผลเชิงนโยบายและยกระดับถาวร (1 ปี) ทั้งนี้ ได้วางเป้าหมายว่า จะสามารถ 1) ลดอัตรากระทำผิดซ้ำลดลงน้อยกว่าร้อยละ 20 ใน 5 ปี 2) ผู้ต้องขังมากกว่าร้อยละ 50 จะมีงานทำ 3) ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจและสังคมต่อรัฐมากกว่า 5 เท่า และ 4) ข้อมูลวางนโยบายสามารถนำไปปฏิบัติได้จริง

นอกจากนี้ ยังมีการแสดงความคิดเห็นในที่ประชุมและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น โดยมีการนำเสนอเรื่องการพัฒนาระบบฐานข้อมูล ของศูนย์ปฏิบัติการฐานข้อมูลการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ โดยนายนิทัศน์ แสงวัฒนะ รองผู้อำนวยการสำนักงานกิจการยุติธรรม การจัดทำฐานข้อมูลผู้ต้องขังของกรมราชทัณฑ์ โดยกรมราชทัณฑ์ และการพัฒนากลไก Think Tank เพื่อเป็นกลไกเชื่อมโยงโครงการนำร่องสู่นโยบายหรือมาตรการถาวรบนฐานข้อมูล องค์ความรู้ดิจิทัล และความปลอดภัย โดยคุณสมหญิง สายธนู จากมูลนิธิสดศรี-สฤษดิ์วงศ์

Cr.ภาพ/ข่าว :โครงการกำลังใจฯ กองทุนกำลังใจฯ

ทีมข่าวNEWS24:รายงาน

แสดงความคิดเห็น