ระยอง – วันที่ 29 ตุลาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการใช้จ่ายผ่านโครงการ “คนละครึ่งพลัส” วันแรก หลัง กระทรวงการคลังเปิดให้ใช้สิทธิอย่างเป็นทางการ พบประชาชนและร้านค้าจังหวัดระยองออกมาใช้จ่ายอย่างคึกคัก โดยเฉพาะสินค้าจำเป็นในชีวิตประจำวัน อาทิ ข้าวสาร อาหารกึ่งสำเร็จรูป และของใช้ทั่วไป ส่งผลให้ผู้ค้าในพื้นที่ต่างยิ้มออก ยอดขายเพิ่มทันตา ชี้เป็นโครงการที่ช่วยประชาชนได้ตรงจุด ลดภาระค่าครองชีพได้อย่างชัดเจน
นางวิไลวรรณ พรายเพชร อายุ 76 ปี ชาวบ้าน ม.1 บ้านชากมหาด ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย ระบุว่า วันนี้เตรียมเติมเงินเข้าโครงการทันที ตั้งใจซื้อข้าวสาร 5 กิโลกรัมไว้ก่อนเป็นอันดับแรก เพราะถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นที่สุดในครัวเรือน พร้อมชื่นชมว่าโครงการนี้มีประโยชน์ต่อชาวบ้านอย่างแท้จริง โดยเฉพาะคนที่มีรายได้น้อย มีเงินมาช่วยแบ่งเบาภาระก็รู้สึกดี และอยากให้รัฐบาลทำต่อเนื่องในระยะยาว
ด้านนายสุทธิชัย แอมรัมย์ ชาวบ้านอีกราย กล่าวว่า โครงการดังกล่าวช่วยลดค่าใช้จ่ายได้ครึ่งหนึ่ง ถึงแม้จะกำหนดใช้วันละ 100-200 บาท แต่สำหรับผู้มีรายได้น้อยถือว่าคุ้มค่า เพราะค่าแรงขั้นต่ำต่อวันก็ไม่มากอยู่แล้ว บางคนใช้จ่ายวันละไม่ถึง 200 บาท การมีเงินมาช่วยก็ทำให้พอมีเหลือ ชี้เป็นโครงการที่โดนใจชาวบ้านอย่างแท้จริงขณะที่ น.ส.นมิตา หลวงอินทร์ เจ้าของร้านขายของเบ็ดเตล็ด ถนนสี่แยกบ้านดอน ต.เชิงเนิน อ.เมืองระยอง เผยว่า เช้าวันแรกมีลูกค้ามาใช้สิทธิแล้วกว่า 7-8 ราย ส่วนใหญ่ซื้อของกินของใช้จำเป็น ทำให้ยอดขายดีขึ้นทันที มองว่าโครงการนี้ช่วยทั้งผู้บริโภคและผู้ประกอบการ เกิดเงินหมุนเวียนในระบบ กระตุ้นเศรษฐกิจระดับชุมชนให้ดีขึ้น

ด้าน นางนันท์นภัส สุวรรณพิทักษ์ เจ้าของร้าน “เจ๊บุ๋ม” ม.9 ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย เปิดเผยว่า มีประชาชนมาใช้จ่ายแล้ว 12 ราย มูลค่ากว่า 2,000 บาท ทำให้ร้านค้าขายดีขึ้นอย่างชัดเจน พร้อมขอให้รัฐบาลสานต่อโครงการนี้เพื่อช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ บรรยากาศโดยรวมในพื้นที่ระยองยังคงคึกคัก คาดว่ายอดใช้จ่ายจะเพิ่มสูงขึ้นในช่วงเย็นและวันถัดไป ประชาชนส่วนใหญ่มีการเตรียมวางแผนใช้สิทธิอย่างรัดกุม เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากมาตรการดังกล่าว

 

แสดงความคิดเห็น